เรื่องเด่น อิทธิปาฏิหาริย์,อาเทศนาปาฏิหาริย์,อนุสาสนีปาฏิหาริย์ตามคัมภีร์

คุณนพหายไปไหน

 

ความหมายอภิญญาอีก


"ธรรมเหล่าใด พึงกำหนดรู้ด้วยอภิญญา * เขาก็กำหนดรู้ด้วยอภิญญา ซึ่งธรรมเหล่านั้น

ธรรมเหล่าใด พึงละด้วยอภิญญา เขาก็ละด้วยอภิญญา ซึ่งธรรมเหล่านั้น

ธรรมเหล่าใด พึงให้เกิดมีด้วยอภิญญา เขาก็ทำให้เกิดมีด้วยอภิญญา ซึ่งธรรมเหล่านั้น

ธรรมเหล่าใด พึงประจักษ์แจ้งด้วยอภิญญา เขาก็ประจักษ์แจ้งด้วยอภิญญา ซึ่งธรรมเหล่านั้น"

“ภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่าไหน พึงกำหนดรู้ด้วยอภิญญา ? ได้แก่ สิ่งที่เรียกว่า อุปาทานขันธ์ ๕ กล่าวคือ รูปอุปาทานขันธ์ เวทนาอุปาทานขันธ์ สัญญาอุปาทานขันธ์ สังขารอุปาทานขันธ์ วิญญาณอุปาทานขันธ์...

“ธรรมเหล่าไหน พึงละด้วยอภิญญา ? ได้แก่ อวิชชาและภวตัณหา..

.“ธรรมเหล่าไหน พึงให้เกิดมี (เจริญ) ด้วยอภิญญา ? ได้แก่ สมถะและวิปัสสนา”

“ธรรมเหล่าไหน พึงทำให้ประจักษ์แจ้งด้วยอภิญญา ? ได้แก่ วิชชา และวิมุตติ”* (ม.อุ.14/828-831/523-6)

............
ที่อ้างอิง *
* คำว่า "อภิญญา" เป็นคำน่าศึกษามากคำหนึ่ง แปลกันมาว่า ปัญญาอันยิ่ง หรือความรู้ยิ่ง (= อุตตมปัญญา ที่ องฺ.อ.2/8 และอธิกญาณ ที่ วินย. อ. 1/134...อาจแปลโดยอาศัยรูปศัพท์ว่า ความรู้เจาะตรง ความรู้จำเพาะ ความรู้เหนือ (ประจักษ์ทางประสาททั้ง ๕)

คัมภีร์อัฏฐสาลินี และวิสุทธิมัคค์ อธิบายว่า ปัญญาที่เป็นไปตั้งแต่อุปจาระ (อุปจารสมาธิ) จนถึงอัปปนา (อัปปนาสมาธิ) เรียกอภิญญา (สงฺ.คณี อ.294 วิสุทฺธิ.1/180) คัมภีร์ปรมัตถมัญชุสาชี้เฉพาะลงไปอีกว่า อภิญญาคืออัปปนาปัญญา (ปัญญาที่เกิดเมื่อจิตเป็นอัปปนาสมาธิ วิสุทฺธิ.ฎีกา 1/163) ปราชญ์บางท่านแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า direct knowledge บางทีจะเป็นความรู้จำพวก intuition ข้อควรศึกษา คือ น่าตรวจสอบว่า สภาพจิตขณะเกิด intuition เป็นอย่างไร

 

คนเราเมื่อวาระยังมาไม่ถึง
ไปพยายามอย่างไรก็ไร้ผลครับ
ผู้ปฏิบัติ สิ่งหนึ่งที่ควรมี
ก็คือ การอุเบกขา รับรู้อยู่ในใจครับ.
และสิ่งที่ควรไม่ให้มี โลภะ โทสะ โมหะ
ให้มันมีน้อยๆลงไปเรื่อยๆ
ความอยากแม้เล็กๆน้อย ก็เป็นกิเลส
ที่มาขวางความก้าวหน้าทางปฏิบัติได้

แต่ถ้าวาระมาถึง แม้แต่ช้างก็ชุดไม่อยู่
เนื่องจากแต่ละดวงจิต มีการสะสมมาตามเนื้อหา
เดิมแท้ที่แตกต่างๆกัน...
จะไปอยากเหมือน คนโน้นนี่นั่น
มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ...
คลานตามกันมานิสัยยังไม่เหมือนกัน
มันเป็นธรรมดาของโลกครับ..

ฝึกสมาธิมันมีแต่เสีย ไม่ใช่ฝึกเพื่อให้ได้ให้มีให้เกิด
เสียโมหะที่น้อยลง
เสียโทสะที่น้อยลง
เสียโลภะที่น้อยลง
เสียทั้ง ๓ ตัวที่จะไปยึด ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
เหล่านี้ มันจะค่อยๆสูญเสียตรงนี้...
แล้วจิต ถึงจะคล่อยๆ คลายตัวเอง
ปล่อยวางตัวเอง เพื่อกลับสู่ธรรมชาติ
เดิมแท้ของจิตมันเองครับ....

 

พวกอภิญญาอะไรต่างๆ
ข้อดีมันคือ ทำให้เข้าถึงตัวรู้
ได้ดีกว่า นั่งสมาธิทั่วไป...แค่นั่นเอง

และยิ่งถ้าได้สมาธิด้วย เดินปัญญาด้วย
จะทำให้เข้าถึงตัวผู้รู้ และผู้ดูด้วย

แต่ถ้าเพียวปัญญาอย่างเดียวจะเห็นแต่ผู้ดูนะครับ
เพราะเป็นธรรมชาติของจิต
ที่จะสร้างให้เกิดแบบนี้เป็นปกติครับ

ดังนั้นก่อนที่จะละอวิชชาต่างๆ หรือตัดพวกนี้ได้
มันจะต้องมีพื้นฐาน จากการเห็นทั้งผู้ดูและผู้รู้ก่อนครับ
เมื่อเห็นว่า ผู้ดูและผู้รู้เป็นเพียงโปรแกรมเท่านั้น
จิตมันถึงจะละอวิชชาได้ครับ

ยกตัวอย่าง แล้วกันเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ

สมว่ามีจิตดวงหนึ่งนะครับ
มันส่งกะแสไปกระทบอะไรบางอย่าง
ไอ้กะแสที่ไปกระทบเราเรียกว่า ผู้รู้
แต่ผู้รู้นี้ มันแค่ส่งไปกระทบ แต่มันจะ
ไม่รู้ว่า สิ่งที่ไปกระทบ คืออะไรเกิดจากอะไรนะครับ
ยกตัวอย่าง เช่น คนเห็นผีได้...
แต่มันจะไม่รู้ว่า เห็นผีได้อย่างไร ผีที่เห็นเกิดจากอะไร
นึกภาพออกนะครับ

ส่วนผู้ดู มันก็จะสังเกตุเห็น กริยาความคิด รู้ความคิดเกิด
รู้ว่าความคิดดับ ด้วยความเป็นกลางอย่างนั้น
ยกตัวอย่าง คนที่เพียวทางปัญญาจะเห็นอย่างนี้
แต่จะไม่เห็นว่ามีผู้รู้ มีแต่ผู้ดู กิริยาความคิดอย่างเดียว...

ซึ่งถ้าจะละอวิชชาได้ ผู้รู้ อย่างเดียวไม่พอ
ผู้ดูอย่างเดียวก็ไม่พอ
เพราะมันจะยัง ไม่เห็นทั้ง ผู้ดู ผู้รู้ จิตจึงยัง
ไม่เข้าใจว่า ทั้งผู้ดู และผู้รู้ แท้จริงยังเป็นการปรุงแต่ง
ยังมีการแสดงอยู่.....

ต้องมาสังเกตุเพิ่มว่า เกิดตอนไหน ดับตอนไหน ดับเพราะอะไร
เพิ่มขึ้นอีกครับ ต่อไปจิตมันถึงจะเกิดปัญญาญานขึ้นมาได้
แล้วจิต ถึงจะเริ่ม เห็นผู้ดู และผู้รู้ และจะเข้าใจได้เอง
ว่าทั้งผู้ดู และผู้รู้แท้จริงมันยัง เป็นการปรุงแต่งอยู่......

พวกที่มีอภิญญาจะได้เปรียบ ชาวบ้านเค้าหน่อนตรง
เห็นผู้รู้เห็นเจน เพราะใช้งานทางจิตบ่อย
แต่ต้องมาเดินปัญญาด้วยถึงจะเห็นผู้ดู

และก็ต้องมาสังเกตุเพิ่มจนเกิดปัญญาญาน
ไม่งั้น ต่อให้มีอภิญญามากแค่ไหน
มันก็ยังไม่พ้นอยู่ดีครับ
เพราะจิต ยังไม่รู้เหตุแห่งการเกิดดับที่แท้จริง
นั่นเองครับ

ปล.เรื่องพวกนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ
ที่สำคัญ อย่าไปหลงว่ารู้ จากผู้รู้ที่ชอบส่งออกไปกระทบ
อย่าไปหลงผู้ดู ว่ากิริยาที่เห็นมันเป็นเช่นนั่นเองแล้วเข้าใจ
ว่ามันเป็นที่สุด....
ก็มีโอกาสที่จะละอวิชชาได้ทุกดวงจิตเท่าๆกันครับ

 

คุณนพ เขาเป็นอะไรครับ ที่ถามไม่ตอบ เห็นแต่บ้าน้ำลายเป็นคุ้งเป็นแคว อิอิ

 

ไม่ทราบครับ คุณ มาจากดิน
เท่าที่รู้ ถ้าคุณ นพ เขียนจะมีคน อ่านเยอะ
และได้ประโยชน์กว่า คุณ มาจากดิน เขียนครับ
รู้แค่นี้หละครับ และถ้าคุณมาจาก ดิน
อยากรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติม
ของ เจ้าของบทความต้องไปถามเค้าเองครับ
ไปแก้สภาวะ และแนะนำให้ เจ้าของบทความเอง
เอามา ก๊อบปี๊ลงทำไม ประกาศให้ชาวโลกรับรู้ทำไมหละครับ
ทำยังกับ เวบนี้ เป็นสื่อกลางในการแก้ปัญหา
ให้คนที่ไปเขียนเวบที่ตัวเองดูแล
แต่ตัวเอง ไม่มีปัญญาและความสามารถในการแนะนำ
เนื่องจากตัวเอง ปฏิบัติเข้าถึงไม่ได้เนาะ..

และในเวบนี้ ห้องอภิญญาสมาธิ
เรื่องบ้าน้ำลาย เป็นคุ้งเป็นแคว มาซักพักใหญ่ๆแล้ว
ไม่มีใครเทียบ คุณ มาจากดิน ได้แล้วครับ
ดูแค่หน้าแรก ของห้องอภิญญา สมาธิก็รู้แล้วครับ
ตั้งไปกี่กระทู้ เขียนเอง ก๊อบแปะเอง
ถามหน่อย ยังมีจิตใจ ปกติดีอยู่หรือเปล่าครับ


ว่า แต่ คุณ มาจากดิน เค้าเป็นอะไรมาไหมครับ
หรือว่า สมง สมอง เค้าไปแล้วครับ...(^_^)

 

คนละเรื่องเลย

 

พวกอภิญญาอะไรต่างๆ
ข้อดีมันคือ ทำให้เข้าถึงตัวรู้
ได้ดีกว่า นั่งสมาธิทั่วไป...แค่นั่นเอง

เอานะ ถามนะ อภิญญาที่คุณทำๆยังไง ตอบชัดๆ

 

ประโยชน์มันมี จริงๆแล้ว
ท่านที่มีชื่อหลายท่านๆมีเป็นปกติครับ
แต่ท่านใช้เพื่อประโยชน์ทางธรรม
ใช้ในทางด้านเกี่ยวกับการส่งเสริม
บำรุงพระพุทธศาสนา
เพื่อประโยชน์ทางธรรม
หรือช่วยเหลือสงเคราะห์
ตามแต่วิบากที่เคยมีร่วมกันมา
โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆครับ...

เพราะเรื่องแบบนี้ มันปฏิเสธไม่ได้ครับ
ถ้าหากฝึกปฏิบัติไปถึงระดับที่จิตคลายตัวเองได้
ของพวกนี้มันมีบังเกิดขึ้นได้เองของมันเป็นปกติวิสัย
เพียงแต่ว่า ดวงจิตนั่นๆจะเด่นทางด้านไหนมากกว่ากัน
ก็ขึ้นอยู่ เนื้อหาเดิมแท้ของจิตนั้นๆที่เคยสะสมมาเพียงเท่านั้น
แต่อย่าง ที่รู้ และเข้าใจตรงกันคือ
หาก ละไม่ได้ ทิ้งไม่เป็น และไปยึดติดกับสิ่งเหล่านี้มัน
ก็จะกลายอวิชชาตัวหนึ่ง
ที่ทำให้ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่นั่นเอง

และจะสังเกตุได้ง่ายๆอย่างหนึ่งคือ
ถ้าเป็นไปเพื่อ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญอย่างใดอย่างหนึ่ง
อย่างนี้ไม่ใช่ทางพุทธศาสนาแน่นอน...
ทางพุทธเราเน้น ปัญญาเพื่อการหลุดพ้นครับ

 

ไม่ใช่ให้พรรณา ถามว่า คุณทำอภิญญายังไง

พวกอภิญญาอะไรต่างๆ
ข้อดีมันคือ ทำให้เข้าถึงตัวรู้
ได้ดีกว่า นั่งสมาธิทั่วไป...แค่นั่นเอง

เอานะ ถามนะ อภิญญาที่คุณทำๆยังไง ตอบชัดๆ

 

ส่วนตัวไม่มีความสามารถที่จะอธิบาย
ให้กระบืออ่านแล้วรู้เรื่องครับ ต้องขออภัยครับ
และปกติเรื่องแบบนี้ เราจะไม่แสดงให้กระบือดูครับ
เพราะกระบือดูแล้วไม่เข้าใจครับ
แต่สำหรับสมาชิกในเวบนี้
ที่เคยเจอตัวจริงข้าพเจ้า โดยส่วนตัวจัดเต็มครับและ
เรื่องแบบนี้มันควรเป็นเฉพาะบุคคลที่ควรค่าต่อ
การได้รับคำแนะนำครับ
และไม่มีความจำเป็นจะต้องบอกคุณครับ
คือ คุณเป็นใคร เป็นอะไร ทำไมต้องบอกครับ


อยากจะรู้ไปทำไมหละครับ
เมื่อชาตินี้คุณทำไม่ได้อยู่แล้ว
จิตคุณไม่มีเชื้อทางด้านนี้ซักหน่อย
ไม่เข้าใจจริงๆ...เพื่อ ????

ถ้าคิดว่าตัวเองเก่ง ก็บอกเอง
แนะเองซิครับ เห็นโม้ทับข้าพเจ้าไว้นิ
หรือกลัวความแตก ๕๕๕

 

บอกแล้วว่า 100 เอาขี้หมากองเดียว ว่าคุณไม่เคยทำไม่เคยฝึกทางจิตมาหรอก โม้ทั้งเพ อิอิ คุยเป็นคุ้งเป็นแคว เอาเข้าจริงบอกไม่อยากคุยให้กระบือฟัง คิกๆๆ อพินยาหน้าเวป

 

ส่วนตัวไม่มีความสามารถที่จะอธิบาย
ให้กระบืออ่านแล้วรู้เรื่องครับ ต้องขออภัยครับ
และปกติเรื่องแบบนี้ เราจะไม่แสดงให้กระบือดูครับ
เพราะกระบือดูแล้วไม่เข้าใจครับ
แต่สำหรับสมาชิกในเวบนี้
ที่เคยเจอตัวจริงข้าพเจ้า โดยส่วนตัวจัดเต็มครับและ
เรื่องแบบนี้มันควรเป็นเฉพาะบุคคลที่ควรค่าต่อ
การได้รับคำแนะนำครับ

ยังไงอ่ะ เขาเจอตัวจริงแล้ว คุณนพสูบบุหรี่ควันออกทางหูให้เขาดู หรือปืนหลังคาบ้านให้เขาชม หรือ เอาหัวเดินให้เขาทัศนา หรือแบบไหนยังไงหือ (ขอรับ)

อพินยาหน้าเวป

 

ถ้ายังงั้น ก็ตย.นี้ เป็นไงครับ

ขณะสวดมนต์แล้วได้เอนตัวลงนอนอย่างมีสติ...ได้บริกรรมพอง กับ ยุบ ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดอะไร...จนหลับไปไม่รู้ตัว...ระยะหนึ่ง...จิตได้เกิดกลางดึก คือ มีสติรู้ขึ้นมาทันทีของการพองยุบของท้อง และรู้สึกว่ามีนิ้วมือมากดที่สะดือแรงมาก เวลาที่พองออก ท้องก็จะพองออกมาก มือที่กดก็จะแรงไปตามการพองและยุบ จนรู้สึกกลัวมากเหมือนไส้จะหลุดออกมา.. แต่ผมก็พยายามดึงสติให้อยู่กับคำบริกรรมพอง ยุบอีก แต่พยายามแล้วจิตก็ทนไม่ได้ จิตสั่นไปหมดเหมือนท้องจะแตก จิตคิดตอนนั้นครับ

 

ไม่ทราบครับ คุณ มาจากดิน
เท่าที่รู้ ถ้าคุณ นพ เขียนจะมีคน อ่านเยอะ
และได้ประโยชน์กว่า คุณ มาจากดิน เขียนครับ

มจด. จะถามถึงวิธีทำ ไม่ใช่นั่งฟังคนฝอยให้ฟัง อิอิ แล้วเป็นไงอ่ะ พอถามถึงวิธีทำอย่างที่พูดแล้ว เป๋คลองเตยไปมาเลย เห็นไหมครับ

ก็บอกแล้ว 100 เอาขี้หมากองเดียว คุณนพไม่เคยทำไม่เคยฝึกจิตในทุกด้านมาเลย ที่พูดๆมานั่นเกิดแต่มโน (วิญญาณ) คิกๆๆ

อพินยาหน้าเวป

 

อ่อข้างบนเป็นมุมมองของคุณ เนาะ แล้วแต่จะคิดเลยครับ
แปลกนะ ถ้าคิดว่าตัวเองรู้ จะก๊อบปี๊มาลงทำไม
๕๕๕๕๕๕๕๕ ไม่เขียนเองหละครับ
ไหนวิธีปฏิบัติ ไม่เคยเห็นคุณเขียนเลย
พอลองสรุปอะไร ก็ออกนอกจักรวาล ๕๕๕๕๕๕
รู้เลยว่า ปฏิบัติไม่เป็น ทำไม่ได้ ๕๕๕๕๕๕

คุณนี่ตลกเนาะ มุขข้างบน ทำให้
คนรู้จักหรือเคยเจอผม ขำฟันร่วงเลย ๕๕๕๕๕



แล้วคุณ คือสุดยอดทางจิตหรือครับ
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ขำถึงดาวอังคาร
กระบือแล้วยังไม่เจียมตัว
แสดงให้ดูซัก กรรมฐานซิ
มีปัญญาหรือเปล่า ทำได้หรือเปล่า
บอกเลย ว่าไม่ได้ และไม่ได้ทั้งชาติ

๕๕๕๕๕ อย่างข้าพเจ้าไม่เคยฝึกจิตมาทุกด้าน
แล้วในเวบนี้ มีใครไหม ที่จะฝึก
มีใครอีกไหม มีใคร กล้ามาท้าข้าพเจ้าไหม..
สงสัยไอ้นี้ กระบือ จริงๆ กะจะคุยทับถม
ก็ดูหน่อย หัดอ่านหน่อยนะ พ่อกระบือครับ ๕๕๕๕๕๕๕

ก็บอกแล้ว ว่า อธิบาย ไป กระบืออย่างคุณ ก็ไม่เข้าใจ
แล้วยังทำเป็นอวดฉลาด คุยทับถมอีก
ถ้ากระบือ อย่างคุณ เข้าใจ คงแนะนำไปแล้ว
คงไม่ก๊อบปี๊มาลงในเวบนี้หรอก ๕๕๕๕๕๕๕๕
โง่จริงหรือเปล่า แค่นี้ยังไม่เข้าใจ


ไอ้นี้เรียกว่า โง่ทั้งทางโลก
โง่ทั้งทางปฏิบัติ โง่ทั้งการใช้วาจาแสดง
ให้ชาวโลกรับรู้
นอกจากจิตใจที่ระยำทางด้านความคิด
(มันขู่จะเสกหนังควาย
เข้าท้อง)


และเลิกเหอะ นิสัย ทำเป็นดิสเครดิส
คนอย่างคุณ ผมบอกว่า ไร้ความสามารถทางจิต
ไร้ฌาน ไม่มีความสามารถนั่งสมาธิได้
ไม่รู้ ว่าคุณเอา หัวแม่มือคิดหรือถึงได้กล้า
มาทับถมมายกตัวเองอย่างนี้
อายชาวโลกบ้างก็ดีนะ
บอกแล้วว่า หน้าด้านอันดัน ๒ ไม่มีใคร
เป็นคู่แข่งคุณ ยังไม่รู้ตัวอีกหรือครับ ๕๕๕๕


สั้นเลยครับ รับคำท้าผมเลยครับ
ผมต่อ ๑ ต่อ ๑๐ ครับ
จะได้มาพิสูจน์กัน ว่าใครเป็นใครนะครับ


ใครแพ้ กราบเท้า ถ่ายรูปลงเวบนี้นะ
กระบือ อย่างคุณ พูดอย่างไร พยายาม
ดิสเครดิสอย่างไร ก็ไม่มีใครเชื่อคุณหรอกครับ
เพราะ ส่วนตัว ได้พบสมาชิกในเวบนี้แล้วหลายท่าน
ย้ำนะ ว่าส่วนตัวเคยเจอมาแล้ว พิสูจน์มาแล้วหลายท่าน
และส่วนตัว ไม่ใช่พึ่งเริ่มนั่งสมาธิ....
เอาไว้พิสูจน์กัน หลังจากคุณ รับคำท้าแล้วกัน
ไม่อยากพูดอะไรมาก เด่วกระบือ มันได้ใจ
เพราะว่า ส่วนตัว คงไร้ความสามารถ
ที่จะเถียงกระบือ แล้วชนะ เรื่องนี้ยอมครับ


และเลิกนิสัย จรเข้น้อยๆ
ที่ฝั่งรากลึก ใน. DNA ที่สืบทอด
มาจากบรรบุรุษเถอะครับ

แถวบ้านเรียกว่า เลว.........เติมได้อีกสิบคำ
ผมส่งเบอร์โทรให้ในข้อความส่วนตัวนะครับ
นัดวันเวลา มาได้เลยครับ

 

แถวบ้านเรียกว่า เลว.........เติมได้อีกสิบคำ
ผมส่งเบอร์โทรให้ในข้อความส่วนตัวนะครับ
นัดวันเวลา มาได้เลยครับ

ดูครับท่านผู้ชม คุณนพนัดดวลกับมจด.ทางโทสับ คิกๆๆ บ่งบอกว่า ไม่มีอภิญญาจริงอย่างคุยมอสะระโอ้ (โม้) ไว้

ถ้ามีอภิญญาจริงๆ ต้องนัดดวลกันทางจิต แล้วสู้กันทางฝัน คิกๆๆ

ดูมัมเบอโทสับคุณนพแล้ว เลขเป็นอัปมงคล ขึ้นรถลงเรือให้ระวังอุบัติเหตุศพไม่สวย (เส้าใจแทน)

 

ว่าแล้ว ต้องเปลี่ยนนิสัย เป็นกระบือแถ ๕๕๕
กติกาคือ คุณทำอะไรได้ คนอื่นๆต้องรับรู้
สัมผัสได้เหมือนคุณ และต้องทำเหมือนคุณได้

กระบือ ฝันไปหรือเปล่า
พูดโชว์โง่หรือไปเล่นกันทางจิต ๕๕๕๕๕
คือ ไม่เน้น มโน ไม่เน้นฝัน ไม่เน้นเดา ไม่เน้นนะ ๕๕๕๕
เจอกันตัวๆนี่หละครับ ไม่ใช่ฝันเอานะ น้องกระบือ


เบอร์โทรศัพท์ผม นะหรืออัปมงคล ๕๕๕๕๕
คุณเอาไปใส่ในเบอร์มงคลได้เลย ไอ้กระบือเอ่ย
เบอร์ผมมันเป็นเบอร์สั่งซื้อเฉพาะ ๕๕๕ ไอ้กระบือ
จะพูดดิสเครดิสอะไร ก็เตรียมข้อมูลหน่อย..๕๕๕
นิสัยชั่วๆชอบดิสเครดิส....กระบือเอ้ยย...

และ จะไปเอาอะไรทางจิต กับกระบืออย่างคุณหละครับ
กระบืออย่างคุณ มีความสามารถทำได้หรือ
สภาวะแบบพื้นๆ ยังไม่มีปัญญาแนะนำไม่มีปัญญา
ตอบ ยังก๊อบมาลงในเวบนี้ ทำมาสะเร่อ ท้าทางจิต ๕๕๕๕

ผมถึงได้ท้าแบบเจอตัวเป็นอย่างไรหละคับ กล้าเป่า
ไหนคุยว่า ผมไม่รู้เรื่อง อะไร ทำไมไม่กล้าเจอตัวกันหรือ
นี่ๆ ต่อให้คุณ ๑๐ คนผมคนเดียวเองครับ กลัวอะไร

ทางจิต มันพวกเพ้อเจ้อ จะพูดอย่างไรก็ได้ครับ
มันพิสูจน์อะไรไม่ได้ ผมถึงได้บอกว่า จะพาสมาชิก
ในนี้ไปพิสูจน์ด้วยอย่างไรหละครับ มีคนอยากเห็น
หนังหน้ากระบืออย่างคุณเยอะอยู่ครับ..


อ่านกติกาเข้าใจหรือยังครับ
ว่าส่วนตัวท้าอย่างไร ย้ำนะ
ต่อให้ ๑๐. คน ผม คนเดียว
บ้าน บรรพบุรุษคุณหรือ เจอกันทางจิต ๕๕๕๕๕๕
ไอ้เพ้อเจ้อ (นึกว่าจะกระบืออย่างเดียว)
ปล. ว่าแล้ว กระบือก็คือ กระบือวันอย่างค่ำ
เปลี่ยน ชื่อให้นะ ต่อไปนี้ ขอเรียกว่า. นาย กระบือดิน นะครับ

 

๕๕๕๕๕ อย่างข้าพเจ้าไม่เคยฝึกจิตมาทุกด้าน
แล้วในเวบนี้ มีใครไหม ที่จะฝึก
มีใครอีกไหม มีใคร กล้ามาท้าข้าพเจ้าไหม..
สงสัยไอ้นี้ กระบือ จริงๆ กะจะคุยทับถม
ก็ดูหน่อย หัดอ่านหน่อยนะ พ่อกระบือครับ ๕๕๕๕๕๕๕

ในอดีต ไม่น่าจะมี แต่ปัจจุบัน ณ วันนี้ ผู้ที่กล้าท้า คือ มจด. คนนี้ คิกๆๆ

แต่จะว่าท้า ก็ไม่ถูกนัก เพราะเทียบกันปอนต่อปอนแล้ว มวยคนละรุ่น อิอิ ไม่เคยมีในสากลจักรวาลที่มวยรุ่นใหญ่อย่าง มจด.จะท้ามวยวัดอย่างคุณนพชก ชนะไปก็ไม่ได้รับเข็มขัด

 

น้ำท่วมทุ่ง หมดตูดแล้ว