1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    32056.jpg


    ⚜️เราคือใคร⚜️

    ทีนี้เราก็เอาสีลานุสสติกรรมฐานนี่แหละเป็นวิปัสสนาญาณต่อไป เราก็มาพิจารณาร่างกายของเรา เวลานี้เราเป็นผู้ทรงศีล แล้วให้รู้จักคำว่าเรา

    #เราคือใคร เลือดเนื้อร่างกายนี้มันเป็นเราหรือว่าเราคือใคร เมื่อพิจารณากันไปจริงๆ ล่ะก็เลือดเนื้อร่างกายนี้ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในเลือดเนื้อร่างกายหรือเลือดเนื้อร่างกายไม่ใช่เรา #เราจริงๆก็คือจิตที่มาสถิตอยู่ในกายชั่วคราว ร่างกายมีสภาพเหมือนบ้านเช่าชั่วคราวเท่านั้น เราไม่สามารถจะทรงร่างกายอยู่ตลอดกาลตลอดสมัย

    ...ร่างกายมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเสื่อมไปในท่ามกลาง มีการสลายตัวไปในที่สุด
    ทีนี้การทรงศีลอะไรมันทรงศีล กายทรงศีลหรือว่าจิตทรงศีล เมื่อเราพิจารณากันจริงๆ แล้วจะเห็นว่าศีลนี่มันทรงได้เพราะอาศัยจิตเท่านั้นเป็นตัวสั่ง กายมันมีสภาพเหมือนหุ่น มันไม่มีการรู้สึกรับผิดชอบใดๆ ทั้งหมด ความรู้สึกรับผิดชอบใดๆ ความดีหรือความชั่วจะปรากฏกับกายเพราะอาศัยใจเป็นผู้สั่ง ทีนี้คำว่าเราในที่นี้ก็ได้แก่จิต คือจิตใจหรืออารมณ์ที่สั่งกาย ทีนี้เรามาดูกันสิว่าเรารักษาศีลบริสุทธิ์มีจิตสบายแต่กายมันสบายไหม
    คนที่มีศีลบริสุทธิ์น่ะใจสบายไม่มีความเดือดร้อน คนที่มีความเดือดร้อนก็เพราะอาศัยจิตมันทุกข์ ศีลหาศีลไม่ได้ มันถึงได้มีแต่ความเดือดร้อน

    ️ ๑. มีกายไม่อยู่สุขชอบเอากายไปสร้างความทุกข์ไปเบียดเบียนบุคคลอื่น

    ️ ๒. เอากายไปยื้อแย่งทรัพย์สินของบุคคลอื่น

    ️ ๓. เอากายไปยื้อแย่งความรักของบุคคลอื่น

    ️ ๔. และก็มีปากไม่ดีชอบปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล หาสาระประโยชน์ไม่ได้ไม่รู้จักเหตุของความทุกข์

    ️ ๕. แล้วเอากายไปดื่มสุราเมรัย

    บุคคลที่ไม่เคารพในศีลก็มีความทุกข์ และคนเลวประเภทนี้มักจะไม่เห็นตัวของตัวเองว่าถ้าสร้างความชั่ว ทั้งๆ ที่เลวแสนเลวก็ไม่มีความรู้สึก นึกว่าตัวดีอยู่เสมอ นี่จงเข้าใจไว้ว่า ศีลถ้าเราทรงไว้ได้จะมีความสุข มันไม่มีความทุกข์เข้ามาเจือปน ฉะนั้น ขอบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้อยากปรารถนาทรงความสุขขอให้รักษาศีลเป็นปกติ เพราะฉะนั้นการที่จะรักษาศีลเป็นปกติ ก็อาศัยกำลังใจเป็นสำคัญ ไม่ใช่กายไม่รักษาศีล แต่ใจรักษาศีล ที่พระเทศน์บอกว่าการทรงศีล ศีลรักษากายวาจาให้เรียบร้อยทั้ง ๒ ประการ อันนี้ไม่ใช่ความจริง ตัวจริงๆ แล้วศีลก็รักษาจิตให้มันเรียบร้อยนั่นเอง ถ้าจิตมันเรียบร้อยแล้วกายมันก็เรียบร้อย

    ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
    มโนปุพพัง คมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโน มยา
    "ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ"

    แสดงว่าถ้าใจของเราถ้าบริสุทธิ์ กายวาจามันก็บริสุทธิ์ นี่ความเลวที่เกิดกับกายและวาจา ก็เพราะอาศัยใจของเราเลว ถ้าเราเอาศีลมาควบคุมใจไว้เสียแล้ว ใจก็มีความดี กายวาจามันก็ดีด้วย นี่คนที่มีปากเสียมีวาจาเสียมีร่างกายเสียก็เพราะอาศัยใจเสีย อยู่ที่ไหนมันก็มีแต่ความทุกข์หาความสุขไม่ได้ ทีนี้เราก็มานั่งพิจารณากันไปว่า ร่างกายนี้มันเป็นเราหรือมันเป็นของเรา มันเป็นเราหรือไม่ใช่เรา ตามที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า สภาพร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา เราคือจิต องค์สมเด็จพระธรรมสามิสรพระองค์ทรงสอนแบบนี้ เราใช้ปัญญาพิจารณาตาม ท่านกล่าวว่า คนเราถ้าสร้างความดีไว้ ทำอารมณ์ใจให้ดี ตายจากความเป็นคนก็ไปเกิดบนสวรรค์บ้าง เป็นพรหมบ้าง ไปนิพพานบ้าง ถ้าสร้างความชั่วไว้แล้วตายจากความเป็นคนก็ไปเกิดเป็นสัตว์นรกบ้าง เป็นเปรตบ้าง เป็นอสุรกายบ้าง เป็นสัตว์เดรัจฉานบ้าง ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่มีความชั่วเลวทราม มีแต่ความเดือดร้อน
    หนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๖๙ หน้า ๙๘-๙๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...