กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,921
    ค่าพลัง:
    +4,778
    (ปักหมุด76) หน้า107
    :oops::oops::oops::oops::oops::oops::oops::oops::cool::cool::cool::cool::cool:

    เรื่อง ความฝันเป็นอะไรที่ลี้ลับซับซ้อน(ตอนจบ)

    บุรุษไร้เงา(อจ.นพ)โพสต์

    อย่างเรื่องฝันถ้าจะผ่านก็คือจะต้องไม่มีการทำร้าย
    หรือการฆ่าเกิดขึ้นเลยในฝัน
    และตัวเราเองจะต้องยอมตายไปเลย
    แม้ว่า เราจะรู้ทั้งรู้ มันก็จะมีฝันที่สุดท้าย
    มาพยายามทำให้เราต้องลงมือให้ได้
    แม้ว่าเราจะหนีแล้วหนีอีกก็ตาม

    เช่น ช่วยปลาได้ แต่ไปฆ่างูอีกตัวที่จะมาทำร้ายปลา
    แบบนี้ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังไม่ผ่าน.......

    ถ้าผ่านคือ ช่วยปลา ยอมให้งูเล็กกัดเรา
    หรือ จับงูเล็กโยนทิ้งไป
    หรือหาอะไรมาขวางมันไว้ซะ
    หรือเอาตัวเราเองเข้าขวางงูเล็ก
    เพื่อไม่ให้มาทำร้ายปลา อะไรประมาณนี้..
    ถึงจะพอผ่าน.

    การที่เรายังต้อง ทำร้ายไม่ว่าจะด้วยมือเปล่า หรือด้วยอาวุธ
    หรือด้วยความสามารถพิเศษจากกรรมฐานบางอย่าง
    เพื่อป้องกันตัวเองอยู่ หรือเพื่อทำร้ายโดยมีเจตนาปกป้องใครอยู่
    มันบอกว่า เรายังติดเรื่องการห่วงร่างกาย เราเลยกลัวตาย
    และยังห่วงสิ่งๆอื่นๆอยู่เลยจึงต้องมีการปกป้อง
    โดยที่ไม่คิดเอาตัวเองเข้าแรก.......
    อะไรประมาณนี้.......


    และยิ่งหากว่า ในฝันเราสามารถใช้อาวุธหรือความ
    สามารถพิเศษได้ หากเราเริ่มต้นฉากแรกด้วยการใช้เพื่อทำร้ายเลย
    มันจะบอกได้ว่า เรายังไม่เฉลียวในเรื่องการใช้งาน......

    ถ้าเฉลียวคือ เราจะแค่เอาไว้ขู่ เอาไว้เพื่อเตือนๆ
    แม้ว่า เบื้องหลังเราจะมีใครอยู่ก็ตามที่เราจะต้องคอยปกป้อง
    โดยที่เราต้องดูเจตนา อะไรก็ตามที่จะเข้ามาก่อน
    บางที ที่เค้าเข้ามาคือหน้าตาไม่รับแขก
    แต่หน้าเค้าเป็นอย่างนั้นปกติ
    เค้าแค่มาดูเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ดูแล้วก็ไป
    ถ้าเราไปชัดเลย แสดงว่า นอกจากจะไม่ผ่านด้าน
    ความเฉลียวในการใช้งานแล้ว
    ความเมตตาเรายังไม่ผ่าน
    อะไรประมาณนี้.....

    มันเป็นอะไรที่ซับซ้อน
    ไม่ใช่ว่าจะผ่านกันได้ง่ายๆกันนะ
    ส่วนตัวถึงบอกว่า ให้นึกซะว่า
    "สอบได้เรื่องตลก
    สอบตกเรื่องธรรมดา......"


    สมัยก่อน ช่วงก่อนที่จะสามารถพลิกเอากรรมฐานกองหนึ่ง
    ให้ขึ้นมาใช้งานได้ปกติในชีวิตประจำว่า
    ส่วนตัวสอบตกไปยี่สิบกว่าครั้ง.......
    ครั้งแรกเรียกว่า กิริยาไปเร็วกว่าความคิดเลย
    ตกแบบเห็นๆ ตกแบบร้อยเปอร์เซนต์เต็ม

    กว่าจะแค่พอผ่านนะ คือมันจะมีทั้ง
    การทดสอบความเฉลียวในการใช้งาน
    เช่น จะมีอุปสรรคมาให้ และให้เราใช้
    กรรมฐานที่เราฝึกมา เพื่อที่จะผ่านไปให้ได้นั่นหละ
    และเรื่องเมตตา ดูว่าเราเข้าไปช่วยใคร
    และต้องไม่ได้ทำร้ายอะไรก็ตาม ที่จะทำให้
    ที่เราไปช่วยเค้ากลัวด้วย และความกลัวตาย
    ต้องประมาณว่า เห็นอะไรก็ตาม ที่ใหญ่มาก
    จะเข้ามาทำร้ายตัวเราเอง เราพร้อมที่จะยอมตายหรือไม่

    ไม่มาเป็นอสูร เป็นผีหรอก ถ้าเกี่ยวกับกรรมฐาน
    พวกนี้จะมาหลังจากที่เราจะใช้งานได้แล้ว
    จะมาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเมตตาและการไม่กลัวตาย


    ส่วนตัวฉากสุดท้ายที่จะผ่าน อันนี้โม้ จำได้ว่า
    เจอสิงโตตัวสูง ๒ เมตรได้ วิ่งเข้ามาหา
    สุดท้ายเลยตัดสินใจว่า เอาตามสบาย
    จะทำอะไรก็ทำไปเลย จะไม่สู้ ไม่อะไรเลย
    ยืนเฉยๆให้ พี่แก รับประทานตามอัธยาศัย

    สุดท้าย สิงโตตัวนั้น ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า
    แล้วก็ ยิ้มให้เหมือนรู้ทันและค่อยๆกลับตัวแล้วหายไป
    ซึ่งก่อนหน้านั้น ถ้าได้เจอสัตว์แต่ละตัว
    มีแต่ตัว โครตตตตตต ใหญ่
    พวกนี้ มันเรื่องธรรมดา ที่เราจะต้องผ่าน
    การทดสอบ จากครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิก่อน
    เป็นเรื่องปกติ เพราะกรรมฐานบางอย่าง
    มันเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ง่าย
    ดังนั้นภูมิต้านทานเราจะต้องดีกว่าปกติทั่วไปหน่อย

    ซึ่งมันจะมี ๓ เรื่องหลักๆนี่หละ
    ก่อนที่จะใช้งานกรรมฐานกองนั้นๆได้จริง
    ในชีวิตประจำวันนะ นี่เล่าให้ฟังเล่นๆ

    และประกันได้เลย ระดับพระมีชื่อต่างๆ ท่านเหล่านั้น
    ก็เคยสอบตกมาแล้วทั้งนั้น...ระดับมีชื่อ บางท่าน
    เคยสนทนากัน ท่านบอก เมื่อก่อนใช้กสิณเผาผีเป็น
    กองทัพโน้นช่วงแรกๆ ๕๕๕ อะไรประมาณนี้
    เรียกว่า เมตตาไม่ผ่านเลย สอบตกแบบร้อยเปอร์เซนต์
    เล่าให้กันฟังก็ฮาๆไป อะไรประมาณนี้ เล่าให้ฟังเล่นๆ....


    ถ้าในการใช้ชีวิตทางโลกทั่วไป
    ถ้าเราเห็นทรัพย์สินแล้วเราไม่หยิบ ไม่คิดจะเอาก็ดีแล้ว
    ไม่ว่าเค้าจะให้อะไรเราก็ตาม แต่เราไม่รับถือว่าใช้ได้แล้ว

    ถ้าเราพอผ่านเรื่อง ไม่ทำร้าย ไม่รังแกสัตว์ได้ก็ดีแล้ว
    ไม่ใช่ว่า ช่วยอีกประเภท แต่ทำร้ายอีกประเภทนะ...

    ถ้าเราพอผ่านเรื่องเกี่ยวกับ กาม คือ
    ไม่เป็นนักแสดงในฝันได้ก็ดีแล้ว ไม่จิตนาการ
    ถึงพระเอก นางเอก ดาราคนโปรด
    แล้วออกกำลังกายกันก็ดีแล้ว......

    และถ้าเราพลาดก็อย่าไปสนใจ อย่าใส่ใจเก็บมาคิด
    เราก็เริ่มต้นใหม่แค่นั้นเอง....เพราะตราบใดที่เรายัง
    ไม่ใช่พระอรหันต์ ยังไงเราก็สอบตกได้
    มันเป็นเรื่องธรรมดาของชาวโลก ในระบบสุริยะจักรวาลนี้ ๕๕

    ส่วนฝันเรื่อยเปื่อย จากกินเยอะ นอนเยอะ มันเรื่องปกติ
    ส่วนฝันแบบ รางสังหรณ์ หรือ อนาคตังสญานอย่างอ่อน
    ก็มีเป็นปกติ ถ้าเรายังทำบุญ ไม่คิดร้ายใคร ไม่คนไม่โกง
    พูดง่ายๆ ทำตัวเป็นมนุษย์ปกติอยู่ ท่านๆก็มาเตือนได้ปกติอยู่แล้ว....


    ก็ประมาณนี้หละ ทั่วๆไป เกี่ยวกับเรื่องฝัน
    ตามสโลแกน

    สอบได้เรื่องตลก
    สอบตกเรื่องธรรมดา
    ...นั่นแหล
    :rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes:o_Oo_Oo_O

    บุรุษไร้เงา, 13 พฤศจิกายน 2018
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,461
    อีกวิธี ก็คือ ฝึกระลึกย้อนว่าแต่ละวันทำอะไรมาบ้าง
    เช่น วันนี้ก่อนนอนตั้งแต่ตื่นจะจะนอน วันนี้ทำอะไรบ้าง แต่งชุดอะไร ทานข้าวกับอะไร ฯลฯ
    และก่อนลืมตาตื่นให้ระลึกซ้ำอีกที ทำย้อนได้ สามวันย้อนหลังก็สังเกตุการเปลี่ยนแปลงของระบบความจำได้แล้ว...
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,921
    ค่าพลัง:
    +4,778
    (ปักหมุด77) หน้า109
    :oops::oops::oops::oops:o_Oo_Oo_O

    เรื่อง นานาพญานาค พญาครุฑ
    และหลากหลายเรื่องลี้ลับ:cool::cool::cool:

    บุรุษไร้เงา(อจ.นพ)เล่าให้ฟัง

    ปกติพยานาคที่เด่นไปทาง
    สีแดงเรื่องฤทธิ์จะเก่งที่สุดอยู่แล้ว
    ถ้าเทียบเป็นสีเดียวโดดๆใส่กันนะ....
    (แต่ละท่านไม่ค่อยมีสีเดียว มีหลายๆสีปนกันไป
    ยกเว้นทาง สีดำที่ทำหน้าที่ทหาร สีขาวล้วน
    ที่เหมือนเราๆเป็นคนปฏิบัติธรรม หรือสีเขียวล้วน
    ที่อยู่ตามวัด ก็จะยังมีสีอื่นๆ ปนๆกันเช่น ม่วง ฟ้า
    ทอง น้ำตาล ฯลฯ)
    แม้ว่า จะมีเมตตามากๆ แต่ด้วยบารมีทางด้านฤิทธิ์
    ที่ได้สร้างสะสมมานั้น ก็จะทำให้ดวงจิตอื่นๆ
    รู้สึกได้ ถึงความน่าเกรงขาม

    ส่วนการบำเพ็ญตบะ เป็นเวลานานๆ เป็นปกติ
    วิสัยอย่างหนึ่งของพยานาค จริงๆแล้วมันเป็นวิบากอย่างหนึ่ง
    (คือ เหตุที่ทำให้ไปเกิดเป็นพยานาค)
    ไม่ใช่แบบที่มีพยานาคเห็นพยานาคมาตาม
    ในเรื่องเชิงความรัก เพราะความรักนี้
    มันล่อหลวงมนุษย์ทั่วไปได้ง่ายให้ติดภพติดชาติ

    พวกนี้เป็นปกติที่ภูมิไหน
    ก็ทำได้ เพียงแต่จะแสดงออกทางด้านไหนเท่านั้นเอง
    เมื่อภูมิไหน แสดงทางด้านไหน ถ้าคนนั้นยึดติด
    จิตก็จะไปเกิดเป็นภูมินั้นๆได้ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

    ก็คือสัญญามันชัด เหมือนเวลาปกติเราฝัน
    เรานั่งสมาธิเห็นโน้นนี่นั้น สัญญาไหนที่ชัด
    เราก็เห็นก่อนนั้นหละ ไม่ใช่เรื่องแปลก
    เพียงแต่ไม่ยึด เราก็จะเข้าใจตรงนี้

    คือ ติดในสมาธิ ตบะ. มนุษย์หลายๆคน
    ที่บ้านั่งสมาธิ ทั้งหลาย พอตายก็มักจะไปเกิด
    เป็นภูมิพยานาค มีให้เห็นเยอะแยะมากมาก..

    เรียกว่า ถ้าในเมืองนั้น
    ใครไม่นั่งสมาธิ เรียกว่า เพื่อนไม่คบ
    เหมือนเป็นอะไรที่ประหลาด
    เทียบกับสังคมเรา ประมาณว่า
    อยู่ดีๆ เห็นคนเดินแก้ผ้าโตงเตงไปมา อะไรประมาณนั้น
    นั่งจนมีลูกแก้วบารมีประจำตน ที่มักจะห้อยเป็นสังวาล
    อยู่ที่ตรงหน้าอก
    เวลาปรากฏร่างคล้ายคนนั้น

    ส่วนหลวงพ่อชื่อดังในอดีตที่ จ.อุทัยธานี นั้น
    ในวงการผู้โปรดจะรู้ๆกันว่า ท่านเป็นพระที่มากบารมี
    ท่านมีพันธมิตร ทางภพภูมิมากมาย
    คล้ายๆถ้าเปรียบกับคน คล้ายๆคนเวลาไปไหนก็มี
    แต่คนรู้จัก เคารพนับถือนั่นหละ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหน
    ตำบลใด ตรงนี้เป็นบารมีเฉพาะตน....

    ส่วนในวงการปฏิบัติ ท่านถือว่า เป็นพระสงฆ์
    ที่เป็นเลิศในเรื่องของความเฉลียวฉลาด
    ในการสอนเทคนิคทางด้านกรรมฐานต่างๆ
    ด้วยจริตที่ละเอียด และมีต้นทุนที่สูง
    มีความสามารถเข้าสมาธิระดับสูงได้ตั้งแต่
    สมัยยังเป็นเด็ก เป็นเอกลักษณ์ของดวงจิต
    ที่ทางโลกเราเรียกว่า ปฏิสัมภิทาญาน
    และเต็มเปี่ยมไปด้วยความเฉลียวฉลาด
    และความสามารถทางจิตที่สูง
    แต่มักจะถ่อมตัวถ่อมตน......
    เปรียบเหมือนคนมีเงินพันล้านบาท
    แต่พูดจาธรรมดา แต่งตัวธรรมดา
    เดินไปคุยได้กับทุกคน
    และทุกคนที่คุยด้วย ก็จะเคารพนับถือท่าน
    เป็นเรื่องปกติประมาณนี้.......


    และด้วยที่ท่านมีบารมีมากมายทางภพภูมิ
    ลูกศิษย์ท่านบางกลุ่ม ย้ำว่าแค่บางกลุ่มและส่วนน้อย
    ก็มักจะได้ไปต่อยอด กับครูบาร์อาจารย์
    ทางภพภูมิที่มีชื่อเสียงในอดีตต่างๆอีกมากมาย
    ถ้าผ่านด่านด้านนิสัย และอื่นๆได้.....

    ส่วนพยาครุฑ ย้ำอีกรอบว่า ปกติจะไม่ลงมายุ่ง
    หรือไม่ถ้าจะลงมา บริเวณนั้นจะต้องมีพระเกจิ
    ที่เหล่าบรรดาพยาครุฑท่านให้ความเคารพ
    ซึ่งแน่นอนว่า มักจะเป็นท่านที่เต็มไปด้วยความสามารถพิเศษ


    และในบรรดาพระมากความสามารถพิเศษเหล่านั้น
    ก็บ่อยครั้ง ท่านมักจะทำเครื่องราง ในลักษณะที่
    เป็นรูปพยาครุฑ เป็นอย่างน้อย...

    ****** ปกติในระดับท่านที่ทำเครื่องราง เครื่องบูชานั้น
    ทั่วไปแล้ว ๑. จะใช้การเชื่อมกับต้นกระแสในระดับสูงก่อน
    เชื่อมเสร็จแล้วก็ตัด (เวลาใครห้อย แค่ระลึก
    ก็จะเข้าถึงต้นกระแสทันที คล้ายๆว่า กระแสที่ถูกตัด
    จากการเชื่อมครั้งแรกเหมือนการเตรียมคลื่นความถี่
    เอาไว้สำหรับติดต่อสื่อสาร พอระลึกถึง ก็เหมือนเปิดเครื่อง
    วิทยุที่ได้รับการจูนคลื่นความถี่ไว้แล้ว)
    การเชื่อมอาจจะทำด้วยตนเอง
    หรือแบบพิธีกรรมก็ได้ ตามความเหมาะสม.......
    ซึ่งเป็นพื้นฐานที่รู้กันปกติ ในระดับดวงจิตที่ทำได้

    ที่นี้ ๒.ในขณะที่เชื่อมกระแสนั้น ก็จะมีสิ่งหนึ่งที่จะติด
    เข้าไปอยู่ในวัตถุนั้นๆร่วมด้วยเช่นกัน...
    ซึ่งสิ่งที่จะติดเข้าไป มีทั้ง วิชาเฉพาะทางต่างๆ
    ที่ได้ร่ำเรียนมา ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ของจิตท่าน
    นั้นๆ เช่น ท่าน ก ชำนาญเมตตา ด้านการอฐิษฐานขอ
    และ ท่าน ข ชำนาญกสิณ
    เวลาเพิ่มกำลังในวัตถุมงคลจากข้อ ที่ ๑ มาแล้ว
    . เวลาท่าน ก ปลุกเสก
    นอกจากต้นกระแสที่เชื่อมแล้ว ก็จะติดวิชาเมตตา และลักษณะพลังงานในการอฐิษฐานขอ จากท่าน ก
    ไปอยู่ในวัตถุนั้นๆ ท่าน ก อาจจะดังในหมู่ฆารวาสว่า
    ขอให้ช่วยอะไรมักจะประสบความสำเร็จ
    และถ้าเป็นท่าน ข ก็จะติดพลังงานของ
    กสิณเข้าไปเช่นกัน.. ท่าน ข ก็มักจะดังในเรื่อง
    ของการป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ การแคล้วคลาดปลอดภัย
    อะไรมานนี้....

    และที่สำคัญเลย ที่ท่านเหล่านั้นมีเป็นปกตืคือ
    ๓.เหล่าพันธมิตรทางภพภูมิ ที่เคารพนับถือท่าน
    เนื่องจากการที่ท่านได้สร้างสมบารมีต่างๆมา..
    เหล่าพันธมิตรเหล่านี้
    ที่อยู่ในช่วงสร้างบารมี ก็จะมีจิตญาน ของเหล่าพันธมิตร
    ที่เคารพนับถือท่าน เข้าไปในวัตถุในลักษณะของพลังงาน
    อย่างหนึ่งเช่นกัน.....
    เช่น หลวงปู่ท่านหนึ่ง มีวิชาเฉพาะเรียกว่า เขาควาย
    ท่านนี้เคยทำวัตถุมงคล เป็นรูปพยาครุฑ. ในรูปนั้น
    ก็จะมีจิตวิญญานพยาครุฑที่ยังสร้างบารมีเป็นปกติ.....
    เมื่อเต๊มแล้วก็จะยกระดับต่อไป แล้วก็มีใหม่เข้ามาเป็นปกติ
    และวันดีคืนดี มีลูกศิษย์ไปขอให้ท่านไปทำรูป
    กุมารทองบ้าง ท่านก็ทำ ตามศรัทธา
    เราก็จะยังพบเห็นได้อีกว่า ในรูปกุมารทองที่ท่าน
    ปลุกเสกนั้น ก็จะ มีพลังงานของพยาครุฑอยู่ได้เช่นกัน
    ให้บางคนได้งงกันเล่นๆ

    ตรงนี้ที่เล่าให้ฟังไม่ใช่เรื่องแปลก

    ดังนั้นที่สถิตย์ของเหล่าพยาครุฑนั้น
    จะไม่อยู่ในระดับชั้นความสูงเดียวกันกับโลกเรา
    ยกเว้นที่แวะเวียนลงมาหาท่านที่เคารพ
    หรือไม่ก็มาในลักษณะของจิตญาน
    ดังที่เล่าให้ฟังมานั่นหละ.......

    จบแระนิทานช่วงนี้

    ปล. เสียงดังฟังชัดกังวาล
    จะเป็นท่านที่มากบารมี ดังนั้นจะวัดกันที่
    ระดับชั้นความสูงที่อยู่เป็นเกณฑ์ไม่ได้
    อย่างเช่น ท่านที่เป็น ดูแลทิศต่างๆ บารมีระดับพรหม
    แต่อยู่ระดับเทพ เสียงท่านจึงเบานิ่ม เป็นต้น
    พูดพอให้เห็นภาพ

    เสียงเบานิ่มเป็นเอกลักษณ์ระดับพรหมทั่วไป....
    เสียงระดับพระพุทธฯเบา นิ่ม แต่มีความกังวาล
    ไพเราะ พูดทั้งประโยคจนจบ แต่เราจะรู้สึกว่า
    เป็นแค่พยางค์เดียว.
    ระดับโพธิสัตว์มาไม่ค่อยพูด แต่จะเป็นรอยยิ้มแทน

    เสียงชัดพูดแจ๋วๆคล้ายคนมาทางหูซ้าย
    เป็นวิญญานมีฤทธิ์อาจจะมีทั้งที่กำลังสร้างบารมี
    และที่ไม่ดีก็ได้...

    มาทางหูขวา เสียงคล้ายมนุษย์ เป็นวิญญานมีบุญบ้าง
    มีฤทธิ์บ้าง อยู่มานานได้รับบุญบ้าง อะไรมาณนี้

    เอาแค่นี้หละ เรื่องเสียง...โม้ไว้หลายรอบมากแล้ว
    ในพลังจิตเนี่ย....

    ส่วนตัวไม่ทันยุคพระยาพิชัย
    พอดีทันยุคพระนเรศฯ อยู่ใกล้ๆตัวท่านนั้นหละ
    ช่วงปลายบวชเป็นพระหายเข้าป่าไปก่อน แล้วย้ายนิวาศสถาน
    ไปเป็นพระอยู่ทางประเทศจีนโน้น
    จะวกกลับมา เมดอินไทยแลนด์อีกที
    ในช่วง รัชกาลที่ ๒ , ๕ แล้วมา ๘ เกิดไม่นาน
    แล้วเป็นโรคตายก่อนตั้งแต่แบเบาะ
    แล้วค่อย เกิดมาเท่ห์ในยุคปัจจุบัน...นั้นแล ๕๕
    โม้จิหาย...
    :(:(:(:(:(:(:(:(

    บุรุษไร้เงา(อจ.นพ)
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,921
    ค่าพลัง:
    +4,778
    Trips & Tricks
    (เก็บไว้ทดลองใช้เมื่อถึงวัยเกษียณหรือวัยจำเป็น)

    (คำถามจากคุณง่าวต่าย)

    มีวิธีทำให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ไหมคะ บนที่ไหนดี 555 จะเตรียมสอบท้องถิ่น ค่ะ

    โพสต์ตอบโดยบุรุษไร้เงา(อจ.นพ)
    อีกวิธี ก็คือ ฝึกระลึกย้อนว่าแต่ละวันทำอะไรมาบ้าง
    เช่น วันนี้ก่อนนอนตั้งแต่ตื่นจะจะนอน วันนี้ทำอะไรบ้าง แต่งชุดอะไร ทานข้าวกับอะไร ฯลฯ
    และก่อนลืมตาตื่นให้ระลึกซ้ำอีกที ทำย้อนได้ สามวันย้อนหลังก็สังเกตุการเปลี่ยนแปลงของระบบความจำได้แล้ว...
    T

    :):):(:(:mad::mad::mad::rolleyes::rolleyes:
     
  5. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +1,218
    คาถาพระอินทร์“สหัสสเนตโต เทวินโต ทิพพจักขุง วิโสทายิ อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู” ท่องคาถานี้ก่อนเริ่มอ่านหนังสือ 1 จบ และหลังจากอ่านหนังสืออีก 1 จบ หรืออาจจะท่อง 5 จบ 9จบ หรือสวดจนมีสมาธิก็ได้ เชื่อว่าหากสวดท่องเป็นประจำจะช่วยให้ความจำดีขึ้น อ่านหนังสือจำได้นาน สามารถทำข้อสอบได้อย่างแม่นยำ
     
  6. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,239
    ค่าพลัง:
    +10,146
    ช่วงนี้แปลกมากครับ ว่าจะเรียนถามอ.นพ คือผมจะชอบฝันว่าไปเรียนที่มหาลัยอยู่ตลอดครับ ปีนึงอาจจะฝัน 20 ครั้ง มาปีนี้ฝันถี่ขึั้นมากครับ ไม่รู่ว่าอ.นพพอมีคำตอบไหมครับ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,461
    ภาระทางสมมุติยังไม่คลายครับ
    ยังมีภาระทางอย่างทางโลกที่ยังทำไม่เสร็จนั่นเอง ....
     
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,239
    ค่าพลัง:
    +10,146
    สงสัยมีภารกิจลับแน่ๆเลย ขอบคุณครับ
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,921
    ค่าพลัง:
    +4,778
    (ปักหมุด78) หน้า109
    :cool::cool::cool::cool::cool::eek::eek::eek::oops::oops::oops:o_Oo_O

    เรื่อง ปู่ ท.กรรมที่กระทำสั่นสะเทือนไปทั้งโลกทั้งแผ่นดิน
    ยิ่งกว่าแผ่นดินไหว100ลิเตอร์+++

    "แผ่นดินทรุดจมธรณี เศรษฐกิจพังพินาศโกลาหลไปทั้งโลก"



    (โพส์ตชี้แนะแอม)โดยบุรุษไร้เงา(อจ.นพ)

    การแก้ปัญหาทั่วไปทางโลกมี ๔ วิธี

    ๑ ประนีประนอม(ใช้ได้กับคนมีเหตุผล)
    ๒ การใช้กฎหมาย(เหมาะกับคนขี้โกง)
    ๓ การถอยออกมา(เหมาะกับคนไร้ตรรกะ)
    เอาตัวเองเป็นใหญ่ ดูถูกคน
    ๔ การใช้กำลังหรืออำนาจ
    (ใช้กับพวกที่พูดดีแล้วชอบยกตนข่มท่าน ไม่เคยโทษตัวเอง)
    เราให้ฟังเฉยๆ ว่าถ้าเราอยู่ในสังคมเราจะต้องเจอคนทั้ง ๔ ประเภท

    เมตตานะควรมี แต่อย่าไปหวังว่า
    เสือทุกตัวทั่วไปในป่า รวมเสือดำ ๕๕
    มันจะมองเราแบบมีเมตตา
    แบบที่เราถูกสอนมาให้เมตตา
    เพราะในสายตามันเราเป็นแค่เหยื่อ. จำไว้


    ปล นั่งเป็นเพื่อนเจ้ากล้วย พันธ์โกลเดิ้ลผสม
    (น้องหมา ใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนภพภูมิแล้ว ปีนี้ อายุ ๑๕ ปีเต็มแระ)
    ถึงเวลา ไม่ว่าใครก็ต้องไป มันเป็นเรื่องธรรมดา

    เรื่องภาพ ๑๒ ราศีนักษัตรนั้น
    นัยยะแฝงจากโบรานคือ
    คือ การปฎิบัติจากความเป็นสัตว์
    ให้กลายเป็นมนุษย์
    ปฎิบัติจากมนุษย์ให้เป็นโพธิสัตว์
    :(:(:(:mad::mad::mad::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes:o_O
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2025
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,921
    ค่าพลัง:
    +4,778
    (ปักหมุด79) หน้า112
    :eek::eek::eek::eek::eek::oops::oops::oops::oops::oops::cool::cool:

    ตอน ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ(เหมือนละคร ไม่ก็โกหก)

    เรื่องนี้9เคยเขียนลงในกระทู้เวปพลังจิต

    เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา

    ผมเห็นว่าน่าสนใจในการศึกษาค้นหา...
    ...เหตุแห่ง"กรรม" หรือ"กรรมลิขิต"
    หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับ"กรรม"
    หรืออะไรที่บางท่านรู้...แต่ผมไม่รู้
    หรือมันเป็นแค่เรื่อง "บังเอิญ"

    *วันนี้ผมนำมาเรียบเรียงใหม่*
    แต่ยังคงเนื้อหาหลักๆไว้ 99 %


    จะชน จะชน แล้วชนจนได้(ชื่อใหม่)

    วันหนึ่งใกล้พลบค่ำเมื่อประมาณปี 2545
    ขณะที่ผมขับรถติดไฟแดงคันแรก
    ตรงสี่แยกหนึ่งในตัวเมืองชุมพร
    บริเวณนั่นแสงไฟจากริมถนนค่อนข้างมืด..สลัวๆ
    ...พอไฟเขียวขึ้นมา
    ผมจึงหักพวงมาลัยเพื่อ...เลี้ยวขวา
    ...วินาทีนั่นมีผู้หญิงถีบจักรยานตัดผ่านหน้ารถ
    อย่างกระชั้นชิด...ห่างไม่เกินเมตร
    ผมรีบเหยียบเบรคกะทันหัน
    แต่เพราะมันใกล้มากๆ
    หน้ารถจึงไปสะกิดจักรยานของเขาเล็กน้อย
    เขาประคองตัวได้อย่างฉิวเฉียด
    ...หันหลังมอง..ยกมือเชิงขอโทษ
    แล้วรีบถีบจักรยานออกไป
    ช่วงนั่นจะว่าผมใจลอยหรือประมาทก็ไม่ใช่
    ...เพราะเขาตัดผ่านหน้ารถกระชั้นชิด
    หรืออาจเป็นเพราะหล่อนเหม่อลอยซะเอง
    ผมจึงบีบแตรใส่และบ่นว่า
    “ไอ้บ้า จะตายหรือไง”

    ....เช้าวันรุ่งขึ้น
    ผมขับรถออกจากชุมพรเพื่อเข้ากรุงเทพ
    ประมาณเที่ยงแวะวิ่งสายในเลียบชายหาด
    ...ตรงอำเภอเขาสามร้อยยอด
    ขณะที่ขับรถบนทางลูกรังแคบๆพอรถสวน
    เพลินชมวิวชายหาดแบบสโลไลฟ์
    ประมาณวิ่งๆ หยุดๆ ขับไปช้าๆเยี่ยงเต่า
    ตลอดทางไม่มีรถวิ่งสวนเลย...

    ขับเพลินๆชมวิวทะเลได้พักใหญ่
    ได้เกิดเรื่องไม่คาดคิด...
    จู่ๆแว๊บๆเห็นตัวเงินตัวทองตัวใหญ่
    กำลังคืบคลานอยู่ตำแหน่งล้อหน้าขวามือ
    ถ้าเสี้ยววินาทีไม่เห็นมันก่อน
    ไม่ว่ารถวิ่งไปช้าๆหรือเร็วขึ้น...
    ...จะโดนทับตายแน่นอน
    ...ไม่ล้อหน้าก็ล้อหลัง
    นอกจากรอดเพราะปาฎิหาริย์...
    ที่มันบังเอิญอยู่หว่างล้อเท่านั่น

    ...ผมแปลกใจคือตอนที่มันคลานอยู่กลางถนน
    ทำไมผมมองไม่เห็น...ทั้งที่อยูู่ด้านชมวิวทะเล
    เมื่อแว๊บๆเห็น...ผมจึงเหยียบเบรคเท่าที่เหยียบทัน
    มองไปที่กระจกหน้า...
    ...ไม่เห็นตัวมันแล้ว
    คือมันอยู่ใต้ล้อหน้านั่นแหละ
    หลังจากหยุดรถรอดูสักพัก
    เห็นมันค่อยๆคืบคลานออกจาก...ด้านซ้าย
    เหมือนมันไม่ตื่นรถตื่นคนเลย
    ไซด์ใหญ่มากๆเท่าที่เคยเห็นมา
    ...น่าจะเป็นปู่เงินปู่ทอง
    เออ...ยังนับว่าโชคดีที่ไม่ทับมันตายคาล้อ

    หลังจากรอดจากการทำบาป
    ผมก็ขับรถออกมาวิ่งสายหลักเพชรเกษม
    ขณะใกล้ถึงอำเภอหัวหิน
    บริเวณสามแยกปากทางเข้าหาดเขาเต่า
    ...ขณะที่ขับรถด้วยความเร็ว100-110
    ได้เกิดเหตุไม่คาดคิด โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
    เพราะจู่ๆมีอะไรไม่รู้...
    ...ตกลงมา...กระแทกกระจกหน้ารถซ้ายมืออย่างจัง
    ...เสียงดัง "ทึ๊บ" พร้อมทิ้งรอยคราบขาวขุ่นบนกระจก
    ผมสะดุ้ง...รถส่ายนิดหน่อย พอตั้งสติได้
    รีบเหยียบเบรคทันที(ดีที่ไม่มีรถตามมา)
    หันมองไปที่กระจกหลัง ห่างออกไป 20-30 ม.
    เห็นคล้ายๆตัวอะไรสีขาวๆกองอยู่ตรงข้างถนน
    ผมจึงจอดรถข้างทาง
    เดินไปดูใกล้ๆจึงรู้ว่าเป็นนกกระยางใหญ่
    [​IMG]
    เห็นมันแน่นิ่งมีเลือดไหลออกมา
    ช่วงนั่นผมรู้สึกเสียใจที่ไม่อาจช่วยอะไรได้
    ...ทำได้แค่ขออโหสิกรรม
    ...ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า...

    (ขอบคุณ...ภาพประกอบจากคุณTeo)


    เรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้ผ่านไปกว่า 10 ปี
    แต่วันนี้ยังเป็นปริศนาคาใจที่ผมหาคำตอบไม่ได้
    ว่าเหตุใดภายใน 18 ชั่วโมง(1 วัน)
    ได้เกิดเหตุการณ์นาทีชีวิตที่คล้ายคลึงกันถึง 3 ครั้ง

    จนในที่สุด...นกกะยางเคราะห์ร้าย
    โผบินมาจากฝากฟ้าไหนไม่รู้

    "ต้องมารับกรรมบางอย่างแทน"

    ...เมื่อนั่งทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    รู้สึกว่าเป็นอะไรที่แปลก

    ค่ำคืนขับรถเฉียดชนคน(เฉี่ยวถูกเล็กน้อย)

    ก่อนเที่ยงอีกวันหวิดทับเหี้ยตัวใหญ่

    บ่ายๆ..นกกระยางบินมาชนกระจกหน้ารถตายคาที่

    ทั้ง 3 เหตุการณ์เกิดขึ้นภายใน 1 วัน(18 ชม.)

    คน-เหี้ย-นก...ล้วนเป็นสัตว์ใหญ่ในตระกูลนั่นๆ

    เหมือนเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง
    หรือคือการฟาดเคราะห์
    โดยมีชีวิตสัตว์อื่นมาแทน
    หรืออาจเป็นเรื่องบังเอิญที่แสนจะบังเอิญ


    สุดท้ายรบกวนท่านอจ.นพ(อีกแล้ว)ว่า

    คำว่า”บังเอิญ”ที่เคยใช้คือคำว่า”ปัจจัยบุญ”

    แต่ถ้าเป็นกรณีเหตุการณ์ที่เล่ามาทั้งหมด

    จะบอกว่าเหตุมาจาก “ปัจจัยบุญ”

    ...คงไม่ถูกต้องใช่ไหมครับ???

    ...แล้วควรจะเรียกว่าอะไรครับ
    *แล้วทำไมจึงบังเอิญเกิดเหตุคล้ายกันเช่นนี้*

    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::(:(:(:rolleyes::rolleyes:

    ขอบคุณครับ

    (9@Phonlee, 19 พฤศจิกายน 2018)



     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,921
    ค่าพลัง:
    +4,778
    (ปักหมุด80) หน้า112
    :):):):):):):):oops::oops::oops:o_Oo_O

    ***โพสต์ตอบโดย อจ.นพ***

    คือทั้ง ๓ เหตุการณ์ไม่ใช่
    เรื่องที่เกิดไม่ได้ครับ
    ประเทศไทยไข้หวัดนกระบาดปี ๔๗ ถึง ๕๐ ครับ
    นกกะยางร่วงมีให้เห็นได้มากโดยเฉพาะภาคตะวันออกครับ
    ส่วนจรเข้น้อยนั้น(ส่วนตัวเรียกแบบนี้)
    เวลาข้ามถนนนิสัยเค้าจะแบบนี้หละครับ
    และการเลี้ยวรถ ปกติสายตาเราจะโพกัสแค่จุดเดียวปกติครับ

    ตรงนี้บอกว่าสติเราอาจไม่พอตอนนั้นครับ
    ทั่วไปแม้ไฟเขียว เราจะต้องมองซ้ายขวาก่อน
    อย่างที่รู้ๆในพื้นฐานเรื่องวินัยการจราจร
    ของผู้ขับขี่บ้านเราเป็นอย่างไรนั่นหละครับ


    แต่ประมวลเหตุการณ์แล้ว
    ถ้าเจอจรเข้น้อย กับเห็นนกตกมาตาย
    บอกว่าจะมีทั้งโชคดี และเป็นการเตือนว่า

    ให้ระมัดระวังตัวให้ดีในช่วงนั้น
    เพราะมันสื่อว่าบุญที่เคยทำมันกำลังจะ
    น้อยกว่าวิบากที่กำลังจะเข้ามา
    ถ้าไม่ระมัดระวังจะเกิดเหตุการณ์
    ที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิต
    ในระยะเวลาข้างหน้าไม่นาน


    เรียกเป็นภาษาไทย สำหรับเหตุการณ์นี้ว่า

    เหตุที่เกิดจากปัจจัยที่เคยได้สร้างสะสมมา
    ที่หนุนให้ผ่อนจากหนักเป็นเบาได้นั่นเอง

    ส่วนการเตือนใครจะรู้ตัวไม่รู้ตัว
    ตรงนี้ต้องหมั่นสังเกตุ

    แต่ง่ายๆคือ มันมักจะสร้างให้อยู่ดีๆ
    หงุดหงิดรำคาญขึ้นมาเฉยๆ
    ในเรื่องเล็กๆน้อยๆครับ


    แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง. ^_^
    :rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes:

    (บุรุษไร้เงา, 19 พฤศจิกายน 2018)






     

แชร์หน้านี้

Loading...