สั่งจองพระพิฆเนศ รุ่น"เบญจมงคล" กับททบ.5

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 4 มกราคม 2008.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ตำนานมหาเทพพระพิฆเนศ[/FONT]
    พระพิฆเนศ คือ องค์มหาเทพที่สำคัญ และใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของ
    คนไทยมากที่สุด เห็นได้จากคนไทยยอมรับในองค์พระพิฆเนศ เป็นส่วนสำคัญในการประกอบพิธีต่างๆ รวมถึงเป็นตราประจำกรมกองต่างๆมากมาย ทุกตำราได้กล่าวถึงที่มาของพระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ สำคัญและมีฤทธิ์มีความเฉลียวฉลาด มีคุณธรรม คอยช่วยเหลือ ปกป้อง ปราบปรามสิ่งชั่วร้าย และเป็นเทพแห่งยอดกตัญญู มีความสงบนิ่ง
    ไม่เย่อหยิ่งทระนง อันเป็นคุณสมบัติอันประเสริฐยิ่งประการหนึ่งของผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง จึงกล่าวได้ว่า พระพิฆเนศ เป็น "มหาเทพ"
    ที่ดีพร้อม ครบถ้วนด้วยความดีงาม สมควรแก่การยกย่องบูชาเป็นนิจสิน


    ความเป็นมา
    ในวโรกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ขอร่วมเฉลิมพระเกียรติและ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยการจัดสร้างพระพิฆเนศ เพื่อเป็นสิ่งมงคล ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจประชาชนให้รำลึก และ การทำแต่ ความดี ถวายเป็นพระราชกุศล และยังนำรายได้ทูลเกล้า ฯถวายตามพระราชอัธยาศัยในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี ของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก 25 มกราคม 2551

    วัตถุประสงค์
    การสร้างพระพิฆเนศ "รุ่น เบญจมงคล "
    1.เพื่อนำรายได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
    2. เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่ง สมทบทุน ททบ.5 ช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยพิบัติ และกิจกรรมสาธารณกุศล
    3. เพื่อนำไปเป็นกองทุนโดยเยียวยาปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้
    4. เพื่อเป็นกิจกรรมมหากุศลในโอกาสฉลอง ครบรอบ 50 ปี ททบ.5
    5. เพื่อให้วัตถุมงคลพระพิฆเนศเป็นเครื่องเตือน และยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้ผู้บูชามีศรัทธามุ่งทำความดีอันจะนำมาซึ่งความ สำเร็จในมงคล 5 ประการ



    <CENTER>ช่อง 5 จัดสร้างพระพิฆเนศ รุ่น "เบญจมงคล"</CENTER>
    พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกเปิดเผย หลังเป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระพิฆเนศ ที่ ททบ.5 ว่า ทางสถานี จะจัดสร้างพระพิฆเนศ รุ่น "เบญจมงคล" เพื่อนำรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา และนำเงินไปสมทบกองทุน ททบ. 5 เพื่อสังคมสงเคราะห์ รวมทั้งนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้เป็นกิจกรรมมหากุศล เพื่อฉลองครบรอบ " 50 ปี ททบ. 5 " ในวันที่ 25 มกราคม 2551 ด้วย

    พระพิฆเนศ รุ่น "เบญจมงคล" ที่ ททบ. 5 จัดสร้างครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 50 ปี แห่งการก่อตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก โดยคำว่า "เบญจมงคล" นั้น สื่อความหมายถึง "พุทธานุภาพของมหาเทพแห่งความสำเร็จทั้งปวง" ซึ่งมีความโดดเด่น 5 ประการ ได้แก่ สติปัญญา , ชัยชนะ , ศิลปะการแสดง , ความอุดมสมบูรณ์ และคุณธรรม ดังนั้น การบูชาพระพิฆเนศ รุ่น "เบญจมงคล" จะเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา ให้น้อมกระทำแต่ความดี อันจะก่อให้เกิดสิ่งดีงามทั้ง 5 ประการ ในข้างต้น

    สำหรับรูปแบบในการจัดสร้างพระพิฆเนศ รุ่น "เบญจมงคล" มี 3 แบบ คือ
    พระบูชา 5 นิ้ว บูชาองค์ละ 19,995.-
    พระรูปหล่อลอยองค์ ขนาด 3 เซนติเมตร เนื้อทองคำ 49,995.- , เนื้อเงิน 3,995.- และ นวโลหะ 1,995.-
    ส่วนเหรียญมี 2 ขนาด คือ เหรียญขนาด 3.2 เซนติเมตร เนื้อทองคำ 49,995.- , เนื้อเงิน 3,995.- และ เนื้อนวโลหะ 995.- เหรียญขนาด 2.2 เซนติเมตร มีเฉพาะเนื้อนวโลหะ ค่าบูชา 795.-

    มวลสารสำคัญในการจัดสร้างประกอบด้วยวัตถุของมีค่าโบราณต่างๆ อาทิ เศียรพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี อายุกว่า 1,000 ปี , สมัยศรีวิชัย , ลพบุรี , สุโขทัย และ อยุธยา ด้วย นอกจากนี้ยังมีขอเสลี่ยงขาสังข์ สำริด ศิลปบายนในนครวัดฯลฯ โดย อาจารย์ ต้อย เมืองนนท์ และ อาจารย์ โก๋ ริเวอร์ ร่วมกับสมาคมผู้นิยมพระเครื่องบูชาไทย ร่วมกันมอบสารที่หายากในครั้งนี้ด้วย

    กำหนดวันประกอบพิธีเทวาภิเษก เวลา 15.00 และพุทธาภิเษก เวลา 16.59 ในเดือนมกราคม 2551 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โดยมีเกจิอาจารย์ชื่อดังในไทยจำนวนมาก พร้อมด้วยพราหมณ์หลวงในวังมาร่วมทำพิธี นอกจากนี้ยังมี ผู้จัดรายการ ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทยจะมาร่วมพิธีในวันดังกล่าวด้วย

    สนใจติดต่อสอบถามและสั่งจองได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา และ "ศูนย์พระพิฆเนศ ททบ.5 " โทร. 0 2615 2283-4 , บัตรเครดิต KTC โทร. 0 2631 3900 หรือ www.tv5.co.th
    แผนกประชาสัมพันธ์
    โทร. /โทรสาร 0 2279 2397 , 0 2278 1698

    <TABLE><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ตารางสั่งจองพระพิฆเนศ "รุ่นเบญจมงคล"
    เชิญสั่งจองพระพิฆเนศ รุ่น " เบญจมงคล " ตั้งแต 12 ธันวาคม 2550-29 กุมภาพันธ์ 2551
    <TABLE borderColor=#660000 height=280 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=550 bgColor=#f4f4f4 border=1><TBODY><TR><TD><CENTER>ลำดับ</CENTER></TD><TD><CENTER>รายการ</CENTER></TD><TD><CENTER>ชนิดเนื้อวัตถุ</CENTER></TD><TD><CENTER>จำนวนจัดสร้าง</CENTER></TD><TD><CENTER>ราคาบูชา/องค์ </CENTER></TD><TD><CENTER>จอง จำนวน</CENTER></TD><TD><CENTER>รวมค่าบูชา</CENTER></TD></TR><TR><TD>1</TD><TD>พระบูชา 5 นิ้ว</TD><TD>นวโลหะ </TD><TD>1,995 </TD><TD>19,995 </TD><TD>.</TD><TD>.</TD></TR><TR><TD>2</TD><TD>รูปหล่อลอยองค์
    ขนาด 3 ซม.







    </TD><TD>-ทองคำ
    -เงิน
    -นวโลหะ







    </TD><TD>ตามยอดจอง
    ตามยอดจอง
    3,995







    </TD><TD>49,995
    3,995
    1,995







    </TD><TD>.</TD><TD>.</TD></TR><TR><TD>3</TD><TD>เหรียญขนาด 2.2 ซม.</TD><TD>นวโลหะ</TD><TD>75,555</TD><TD>795</TD><TD>.</TD><TD>.</TD></TR><TR><TD>4</TD><TD>เหรียญขนาด 3.2 ซม.</TD><TD>-ทองคำ
    -เงิน
    -นวโลหะ







    </TD><TD>ตามยอดจอง
    ตามยอดจอง
    75,555







    </TD><TD>49,995
    3,995
    995








    </TD><TD>.</TD><TD>.</TD></TR><!-- <tr><td rows="5"></td></tr> --></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#660000 height=20 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=550 bgColor=#f4f4f4 border=1><TBODY><TR><TD width=320></TD><TD width=150>รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>


    สถานที่สั่งจอง
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]1.สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เลขที่ 210 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ ฯ 10400 ศูนย์พระพิฆาเนศ ททบ. โทร 0 2615 2283-4
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]2.ธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน ทุกสาขา
    โดยโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขางามวงศ์วาน ชื่อบัญชี "พระพิฆเนศ ททบ.5"
    เลขที่ 141-0-15586-2 ติดต่อผู้จัดการอาวุโส โทร 0 2591 6180-1 , 0 2580 5194 โทรสาร : 0 2589 8855
    *รับมอบองค์พระพิฆเนศได้ที่ ททบ.5 ตั้งแต่ 25 มีนาคม 51

    พระพุทธคุณแห่งองค์พระพิฆเนศเบญจมงคลมหาเทพแห่งความสำเร็จทั้งปวง


    ประกอบด้วยมงคล 5 ประการ คือ สติปัญญา ชัยชนะ ศิลปะการแสดง ความอุดมสมบูรณ์ และ คุณธรรม







    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>คาถาบูชาพระพิฆเนศ</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>นโมตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ</CENTER><CENTER>นโมตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ</CENTER><CENTER>นโมตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ</CENTER><CENTER>โองการ พินธุ นาถัง อุปปันนัจ พรหมมโน จะอินโธ</CENTER><CENTER>พิฆเนศโต มหาเทโว อหัง วันทามิ สัพพาท</CENTER><CENTER>สิทธินิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยัง ประสิทธิ เม โอม (3 จบ)</CENTER>








    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    มวลสารสำคัญ

    ในการจัดสร้าง พระพิฆเนศ รุ่น "เบญจมงคล"ประกอบด้วย สิ่งมีค่าโบราณต่างๆ ได้แก่
    - เศียรพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ที่ชำรุด อายุกว่า 1,000 ปี
    - เศียรพระพุทธรูปสมัยศรีวิชัยที่ชำรุด อายุกว่า 900 ปี
    - เศียรพระพุทธรูปสมัยลพบุรีที่ชำรุด อายุกว่า 800 ปี
    - เศียรพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่ชำรุด อายุกว่า 700 ปี - ขอเสลี่ยง ขาสังข์ สำริด ศิลปบายน ในนครวัด อายุกว่า 500ปี
    - กำไลแขน เศียรพระพุทธรูปสมัยอยุธยา อายุกว่า 300 ปี
    - ฐานพระพุทธรูป และขันลองหิน สมัยกรุงศรีอยุธยา
    - เกศพระสมัยสุโขทัย
    - กระดิ่ง พระกร ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ชำรุด ฯลฯ
    -พระสัมฤทธิ์จาก จว.สุโขทัย ที่ชำรุด หนัก 15 กก.
    เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นของศักดิ์สิทธิ์ ที่หายาก รวมเป็นชนวนมวลสาร ประกอบผสม ในการหล่อพระพิฆเนศ เบญจมงคลครั้งนี้ โดยมี อาจารย์ต้อย เมืองนนท์ (คุณพิศาล เตชะวิภาค)และ อาจารย์ โก๋ ริเวอร์(คุณภควัต สุทธิประภา) ช่างสิบหมู่ เป็นผู้มอบมวลสารเก่าแก่ และมากด้วยคุณค่าหายากยิ่งในครั้งนี้ ร่วมด้วย สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันมอบมวลสารหายาก ในครั้งนี้ด้วย โดยมีพิธีเทวาภิเษกและมังคลาภิเษก ใน วันที่ 11 มกราคม2551 ณ วัดเบญจมบพิตร สถิตย์มหาสีมาราม พร้อมด้วยเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และพรามณ์หลวง มาร่วมทำพิธีในวันดังกล่าว

    http://www.tv5.co.th/2007/phikanet/


    วัตถุประสงค์ดี เป็นการเร่งบารมีจากบุญโดยเสด็จพระราชกุศล อีกทั้งมวลสารก็เก่าแก่หายาก
    [/FONT]
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2008
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หากถือตามจันทรคติ วันขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๕ คือวันที่เปลี่ยนศักราชใหม่ของไทย ปีหนูจึงนับเริ่มต้นที่วันนี้ อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทั้งวาระฝรั่ง หรือ ไทยก็ตามในวันเที่ยงคืนของวันที่ ๓๑ ธันวาคม ต่อเวลา ๐.๐๐ น. ของวันที่ ๑ มกราคม ให้บูชาพระพิฆเณศวรในที่กลางแจ้ง เป็นการอัญเชิญ และบอกกล่าวท่านให้คุ้มครองปัดเป่าอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น และบันดาลความสำเร็จตามความมุ่งหมาย ให้สังเกตว่า ก่อนขอความสำเร็จ ควรขอการปัดเป่าอุปสรรคไปก่อน หนูเป็นพาหนะของท่าน ดังนั้นท่านเป็นใหญ่เหนือหนู ดังนั้นพระเครื่องตามโฉลกนี้ หากได้เสริมด้วยพระเครื่องอีก ๑ องค์คือพระพิฆเณศวรก็ดีไม่น้อยครับ


    คาถาบูชาพระพิฆเณศวร เทพแห่งความสำเร็จ
    ______________________________________________________________

    โองการพินธุ นาถัง อุปปันนัง พรหมมะโน จะ อินโธ

    พิฆฆะเนศโต มหาเทโว อะหัง วันทามิ สัพพะทา สิทธิกิจจัง

    สิทธิกัมมัง สิทธิการิยัง ประสิทธิเมฯ

    ลักษณะทางประติมากรรมของพระพิฆเณศ

    พระคเณศนั้นมีหลายปาง และมีให้เลือกสรรการบูชาตามความเหมาะสม แต่ภาพโดยสรุป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศียรก็ดี สัตว์พาหนะ ตลอดจนถึงเครื่องประดับและอิริยบทต่างก็ดี พอจะแยกได้ดังนี้


    เศียร
    พระคเณศมีตั้งแต่ 1 เศียรหรือพระพักตร์เดียว ไปจนถึง 2-5 เศียร
    ซึ่งปาง 5 เศียรนี้นิยมใช้ในปางเหรัมภะซึ่งแพร่หลายในอินเดียและเนปาล ส่วนพระคเณศในแบบของคนไทยนั้นจะมีเพียงเศียรเดียวเท่านั้นส่วนใหญ่แล้วพระคเณศจะมีเพียงสองตาเท่านั้น ส่วนตาที่ 3 บริเวณหน้าผาก (บ้างใช้เปลวไฟเป็นสัญลักษณ์แทน ) นิยมใช้ในลัทธิตันตระที่ชัดเจนมากเห็นจะเป็นพระพิฆเณศวร์ในศิลปะแบบธิเบต
    นอกจากนี้บริเวณหน้าผากทั่วไป อาจจะเป็นรูปจันทร์เสี้ยว หรือเส้น 3 เส้นตามลักษณะของไศวะนิกาย หรือพระเศียรอาจจะสวมมงกุฎชนิดแบบราบ(กรัณฑมุกุฎ) หรือสวมชฎาทรงสูงก็ได้ ส่วนงานั้น จะมีเพียงงาเดียวข้างขวาเท่านั้นส่วนงาข้างซ้ายนิยมทำหักไว้

    งวง
    มีลักษณะที่ห้อยตรงแต่ส่ายปลายไปทางซ้ายหรือขวาแต่ที่นิยม
    คือหันงวงไปทางซ้าย และหยิบขนมบตะสะ (โมทกะ)จากถ้วยขนมที่ถืออยู่ในซ้ายมือ หรือบางทีก็เป็นพวกผลไม้ป่า

    กร
    มีจำนวนกรตั้งแต่ 2-4 เรื่อยขึ้นไปถึง 10 กว่ากรหรือมากกว่านั้น สัญลักษณ์ที่ถือตามพระกรต่าง ๆเช่น งาหัก,ผลมะนาว, ผลไม้ป่า,มะขวิด,ลูกหว้า,หัวผักกาด,ขนมโมทกะ,ผลทับทิม,ส่วนอาวุธนั้นมีมากมายอาทิ ขวาน,บ่วงบาศ,ดาบ,ตรีศูล ฯลฯ สิ่งอันเป็นมงคล เช่น สังข์,แก้วจินดามณี,ครอบน้ำ ฯลฯ

    ท่าทาง
    พระคเณศในยุคแรกนั้นจะเป็นพระคเณศในรูปแบบของการยืนเสียเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นจึงได้พัฒนาเป็นการนั่ง ซึ่งมีการนั่งถึง 4 ลักษณะด้วยกันคือ
    1. ท่ามหาราชลีลา หรือเข่าข้างหนึ่งยกขึ้น อีกข้างหนึ่งงอพับบนอาสนะ (ซึ่งมีมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12)
    2. นั่งขาไขว้กัน
    3. นั่งห้อยพระบาทข้างใดข้างหนึ่งส่วนอีกข้างวางพับอยู่บนอาสนะ
    4. นั่งโดยขาทั้งสองพับอยู่ทางด้านหน้า ฝ่าเท้าทั้งสองอยู่ชิดกัน (ศิลปชวา,บาหลี)

    เครื่องประดับ
    ในยุคแรกไม่นิยมการทรงเครื่องประดับต่อมาจึงเริ่มมีเครื่องทรงมากขึ้น เริ่มจากสายยัชโญปวีต (สายศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาพราหมณ์ บางทีก็เป็นงูธรรมดา ส่วนผ้าที่นุ่งนั้น จะแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นที่สร้างรูปเคารพส่วนเครื่องทรงนั้นมีการเพิ่มเติมมากขึ้นเช่น มงกุฏ ,สร้อยคอ,สร้อยข้อมือ,สร้อยข้อเท้า,สร้อยกระดิ่ง

    พาหนะ เท่าที่พบในปัจจุบันมีเพียง หนู นกยูงและสิงโตเท่านั้น

    http://www.geocities.com/ganes108/ganes13.htm

    ข้อมูลอ้างอิง

    ______________________________________________________________

    ความหมายของหนูกับช้าง

    หนูกับช้างเป็นสัญลักษณ์ของการพึ่งพาและปรองดอง ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงอำนาจและความมีชัยของฝ่ายที่อยู่เหนือกว่า

    ในทางมนุษยวิทยาแล้วมีผู้วิเคราะห์ไว้ว่า


    หนูกับช้างเป็นสัญลักษณ์ของชนเผ่าสองกลุ่ม เผ่าที่มีชัยเหนือกว่าอาจจะเป็นชนกลุ่มที่นับถือช้างอยู่แต่เดิม จึงได้สร้างและยึดเอาประเพณีการนับถือช้างเป็นเทพเจ้ามาเป็นตัวแทนกลุ่ม หรืออีกอย่างที่เป็นไปได้คือ คนสมัยดั้งเดิมนั้นประกอบอาชีพทางด้านกสิกรรม และแน่นอน หนูย่อมเป็นศัตรูอันร้ายกาจของไร่นา ภาพที่แสดงออกในรูปของช้างและงูที่เป็นสังวาลนั้น ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้ทำลายหนูอันเป็นศัตรูสำคัญของผลิตผลทางการเกษตรอย่างชัดเจน ทั้งการนำหนูมาเป็นบริวารนั้น เนื่องจากหนูขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วเพราะหนูได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความฉลาดและกัดทุกอย่างให้ขาดได้ ดังนั้นจึงเป็นความเหมาะสมสำหรับการเป็นพาหนะของเทพเจ้าแห่งปัญญา อันมีคุณสมบัติในการขจัดซึ่งอุปสรรค


    พิธีกรรม การบูชาต่อพระพิฆเณศ

    การนับถือบูชาพระคเณศในประเทศไทยปรากฏเป็นรูปธรรมอย่างเด่นชัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะว่าพระราชพิธีที่สำคัญ ๆ ในราชสำนักจะมีพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการบูชาพระคเณศประกอบเข้ามาในพิธีต่าง ๆ ดังกล่าวด้วย ซึ่งพิธีกรรม ที่มีการบูชาพระคเณศตามคติพราหมณ์ที่ปฏิบัติอยู่ในประเทศไทยสมัยปัจจุบันก็คือ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา

    พระราชพิธีต่างๆเหล่านี้จะมีการอ่านโคลกสรรเสริญบูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ โดยจะเริ่มด้วยคาถาบูชาพระคเณศก่อนเป็นอันดับแรกสุด ก่อนจะบูชาพระศิวะเสียอีกทั้งนี้เพื่อให้พระคเณศประทานพรให้สามารถทำพิธีนั้นให้สำเร็จ ได้ด้วยดี พิธีกรรมที่มีการบวงสรวงบูชาพระคเณศในฐานะเทวรูปประธานในพิธีที่น่าสนใจได้แก่

    ๑. พระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวาย
    พระราชพิธีนี้เป็น ๒ พิธีต่อเนื่องกันคือ พิธีตรียัมปวาย กับ พิธีตรีปวายจะกระทำในเดือนยี่ของทุกปีเป็นเวลา ๑๕ วัน พิธีนี้จัดเป็นพิธีใหญ่ของศาสนาพราหมณ์ และ แต่เดิมจะมีการโล้ชิงช้าด้วย ในพิธีดังกล่าวจะมีการอ่านโคลกสรรเสริญ และถวายโภชนาหารแด่เทพพระเจ้า ณ เทวสถานทั้ง ๓ หลัง คือ สถานพระอิศวร สถานพระคเณศ และ สถานพระนารายณ์ เรียงกันไปตามลำดับ มีการอัญเชิญเทวรูปพระอิศวร พระอุมา พระมหาวิฆเณศวร และพระนารายณ์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจิมแล้วอัญเชิญมาเข้าพิธีโดยรถยนต์หลวง


    ๒. พิธีจับเชิง
    พิธีนี้เป็นการขอขมาโทษต่อช้างสำคัญ ที่สำคัญที่จะได้เป็นใหญ่เป็นโตต่อไป พิธีนี้ต้องมีการผู้มัดช้างเพื่อฝึกสอนช้าง การฝึกบางครั้งต้องดุหรือลงโทษประกอบด้วย จึงต้องขอขมาเสียก่อน และเพื่อเป็นการกล่อมเกลานิสัยช้างป่าที่ดุร้ายให้เชื่องขึ้น พิธีจับช้างนี้ภายในปะรำพิธีตรงข้ามกับเบญจภาคจะจัดตั้งโต๊ะ หมู่บูชาพระมหาวิฆเณศวรอันประกอบด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ขันน้ำมนต์ (ขันสาคร) และ กำหญ้าคา ถัดไปทางซ้ายตั้งโต๊ะเชือกบาศก์ ชะนัก (ขอสับช้าง) และเชือกมะนิลาหุ้มด้วยผ้าขาว พิธีนี้จะมีการบูชาพระรัตนตรัย บูชาพระมหาวิฆเณศวรโดยกราบตามวิธีรำพัดชา
    กล่าวคำสรรเสริญพระมหาวิฆเณศวร และขอพรตามแต่ปรารถนา เสร็จแล้วอัญเชิญพระมหาวิฆเนศวร์ลงสรงในขันน้ำมนต์ แล้วอัญเชิญกลับไปโต๊ะหมู่บูชา น้ำสรงในขันสาครนี้จะใช้ประพรมให้ผู้ฝึกช้างทุกคนถือเป็นสวัสดิพิพัฒน์มงคล


    ๓. พิธีน้อมเกล้าถวายและพระราชพิธีมีีขึ้นระหว่างสมโภชในวันพระราชพิธีฯ
    จะมีการแห่ช้างสำคัญในกระบวนแห่ พราหมณ์จะอัญเชิญพระเทวกรรมเข้าในพิธีด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมายังโรงพิธี ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธปฏิมาพระชัยหลังช้าง และจุดธูปเทียนบูชาพระเทวกรรม พร้อมกับทรงศีลในตอนท้ายพระราชพิธีนี้ พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พราหมณ์ คู่สวดอ่านฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างเป็นอันเสร็จพระราชพิธี


    ๔. พิธีบวงสรวงพระคเณศก่อนการดำเนินการจัดสร้างพระเมรุมาศ
    การจัดสร้างพระเมรุมาศเพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิง
    พระบรมศพของพระมหากษัตริย์และ พระบรมวงศานุวงศ์องค์สำคัญ ๆ
    ณ บริเวณท้องสนามหลวง ก่อนที่จะดำเนินการจัดสร้างพระเมรุมาศ
    จะต้องประกอบพิธีบวงสรวงพระพิฆเณศวรเสียก่อน เพื่อความสวัสดีและการจัดสร้างจะได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจะไม่มีการอัญเชิญพระพิฆเณศวรมาเข้าพิธี แสดงว่าพระพิฆเณศวรจะเกี่ยวกับพิธีทางช่างเท่านั้น (พิธีศพไม่เกี่ยว)


    ๕. พิธีไหว้ครูทางนาฎกรรมและการช่าง
    ในทางนาฏกรรมนั้นบรมครูจะปรากฏรูปเคารพในลักษณะของหัวโขนซึ่งจะอัญเชิญมาประกอบวิธีไหว้ครูพร้อมกับเครื่องใช้ในการแสดงต่างๆ หัวโขนที่ใช้ประกอบการแสดงอันได้แก่ ศีรษะของเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ (เทพเจ้าสูงสุด) คือพระอินทร์ พระคเณศ พระปรคนธรรพ์ และ พระปัญจสีขร ซึ่งเป็นเทพเจ้าฝ่ายดุริยางค์ศิลป์ โดยเฉพาะศีรษะพระคเณศนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานไว้โต๊ะหมู่บูชาที่จัดไว้โดยเฉพาะแยกจากศีรษะเทพองค์อื่นๆสำหรับการบูชาเป็นพิเศษ ส่วนศิลปะทางการช่างนั้น แม้จะไม่ได้นับถือพระคเณศเป็นเทพสำคัญโดยตรง เช่นเดียวกับพระวิษณุ แต่พระคเณศก็มีบทบาทไม่น้อยในพิธีไหว้ครูศิลปะการช่าง ตามคติดั้งเดิมที่ว่า ในการเล่าเรียนศิลปวิทยาการทั้งปวงต้องมีการสวดบูชาพระคเณศก่อน ซึ่งพระคเณศนั้นทางนาฏศิลป์ถือว่ามีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ศึกษาทางการนี้จะเชื่อกันว่าแรงครู หากไม่เคารพบูชาหรือทำการใดๆอันไม่เหมาะสมเป็นการลบหลูก็มักจะประสบภัยพิบัติ


    ๖. การไหว้ครูของนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาลัยช่างศิลป์ นาฏศิลป์
    สถาบันต่างๆเหล่านี้มีรูปของพระคเณศเป็นตราสัญลักษณ์ ของสถาบันเมื่อมีการไหว้ครู ก็จะต้องไหว้บรมครูทางงานศิลปะคือพระคเณศเสียก่อนโดยจะมีการประกอบพิธีตามรายละเอียดที่กล่าวไว้แล้วในข้างต้น


    ๗. การบูชาพระคเณศในพิธีคเณศจตุรถี
    พิธีคเณศจตุรถีหรือพิธีอุทิศต่อพระคเณศนี้เป็นพิธีที่ชาวฮินดูในประเทศอินเดียกระทำกันในวันขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ดังได้กล่าวรายละเอียดไว้แล้ว


    ๘. การบูชากราบไหว้พระคเณศของคนธรรมดาทั่วๆไป
    การบูชาพระคเณศจากคติความเชื่อของพ่อค้าวาณิชในสมัยโบราณ โดยเฉพาะพ่อค้าชาวอินเดีย จะกราบไหว้บูชาพระคเณศในแง่ของเทพผู้อำนวยความสำเร็จทางการค้าและความร่ำรวย จวบจนกระทั่งปัจจุบันคติความเชื่อดังกล่าวกลับมาได้รับความนิยมกันอีก ดังจะเห็นได้จากบรรดาร้านค้าต่างๆ จะมีหิ้งบูชาพระคเณศเป็นการบูชาพระคเณศเพื่ออำนวยความสำเร็จ และความร่ำรวยทางการค้าให้แก่ผู้บูชาโดยจะบูชาทุกวัน ด้วยผลไม้บ้าง ขนมหวานบ้าง อ้อยควั่น ดอกไม้สีแดงสดใส น้ำนมเปรี้ยว น้ำสะอาด ฯลฯ
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ปางพระพิฆเณศ

    แม้ว่าพระคเณศจะมีพระนามมากมายถึง 108 พระนามไปจนถึง 1008 พระนาม แต่ในแง่เทวประติมานั้นมีอยู่เพียง 8 ถึง 9 ปางเท่านั้นที่คนนิยมบูชา โดยการบูชาในแต่ละปางก็ให้คุณที่แตกต่างกันออกไป เชิญเลือกบูชาได้ตามอัธยาศัย


    ปางพาลคเณศ
    เป็นพระคเณศในวัยเด็กรูปลักษณ์ที่เห็น มักจะเป็นพระคเณศยังคลานอยู่กับพื้น หรือยังอยู่ในอิริยบถไร้เดียงสาอย่างเด็ก ๆ ถ้าโตขึ้นมาหน่อย จะนั่งขัดสมาธิเพชรบนดอกบัวมี 4 กร ถือขนมโมทกะ กล้วย รวงข้าว ซึ่งหมายถึงความเป็นสุขภาพดีของเด็ก ๆในครอบครัวรวมความหมายถึงให้เด็ก ๆได้ระลึกถึงการเคารพรักในบิดา มารดา ปางนี้นิยมบูชากันในบ้านที่มีเด็กเล็กและเด็กในวัยเรียน

    ปางนารทคเณศ
    ปางนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นพระคเณศมักจะอยู่ในอิริยาบถยืน มี 4 กร ในคัมภีร์และหม้อน้ำกมัลฑลุ ไม้เท้า และร่ม ซึ่งถ้าเป็นศาสนาพุทธแล้ว คงเปรียบได้กับพระสีวลี ซึ่งเป็นพระธุดงค์ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ผู้มีลาภมาก แต่สัญลักษณ์ของพระคเณศนั้น หมายถึงการเดินทางไกล แต่มักจะเป็นการเดินทางไปเพื่อการศึกษาต่อ หรือเป็นปางที่เหมาะสมกับวิชาชีพของคนที่เป็นครูบาจารย์เท่านั้น

    ปางลักษมีคเณศ
    ปางนี้พระคเณศจะประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมี 6 กร และพระหัตถ์หนึ่งโอบพระลักษมีเทวีไว้ การบูชาปางนี้เสมือนหนึ่งได้บูชาเทพทีเดียวกันถึง 2 พระองค์ในลักษณะของทวิภาคี (คเณศ -ลักษมี) กล่าวคือ ลักษมีคเณศ ย่อมมีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ พูนสุข ความมั่งคั่ง มั่งมีอย่างหาที่สิ้นสุดมิได้

    ปางวัลลยภาคเณศ
    ปางนี้พระคเณศจะอุ้มพระชายาทั้ง2 ไว้บนตักทั้งซ้ายและขวา ซึ่งชายาทั้งคู่คือคือนางพุทธิและสิทะ ดังที่ตำนานได้กล่าวไว้ ปางนี้ให้ความหมายในลักษณะของความสมบูรณ์ของการเป็นครอบครัวมีทรัพย์สินและบริวารมากมาย

    ปางมหาวีระคเณศ
    เป็นพระคเณศที่มีจำนวนของพระกรมากเป็นพิเศษ อาจจะ 12,14,16, กรแต่ละพระหัตถ์นั้นถือศาสตราวุธหลากหลายชนิดแตกต่างกันไปอาทิลูกศร คันธนู ดาบยาว ตะบอง ขวาน จักร บ่วงบาศ งูใหญ่ หอก ตรีศูล ปางนี้ถือกันว่าเป็นปางออกศึกเพื่อปราบศัตรูหมู่อมิตรทั้งหลาย ดังนั้นจึงเป็นความเหมาะสมพิเศษกับบรรดานักรบ แม่ทัพนายกอง ทหาร ตำรวจและข้าราชการ

    ปางเหรัมภะคเณศ
    เป็นปางพระคเณศที่ห้อยพระบาทอยู่บนพญาราชสีห์ พระคเณศปางนี้จะมีอยู่ห้าเศียร หรืออาจจะเป็นเศียรตามปกติก็ได้ เพราะสัญลักษณ์ที่แท้จริงของปรางค์นี้ก็คือ สิงโตเท่านั้น เพราะสิงโตเป็นเจ้าป่า ดังนั้นจึงเหมาะสมที่ผู้ใหญ่ที่ต้องมีบริวารในการปกครองมาก นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ที่บรรดดากษัตริย์ทั้งหลายแต่โบราณนิยมบูชากัน เรียกว่าเป็นสุดยอดปางของพระคเณศก็ว่าได้

    ปางสัมปทายะคเณศ
    เป็นพระคเณศที่เราพบเห็นกันบ่อยคือ มีอาวุธอยู่ในสองพระหัตถ์บน ส่วนพระหัตถ์ล่างด้านซ้ายนั้นถือขนม และด้านขวาอยู่ในท่าประทานพร ซึ่งความหมายของปางนี้คือ การอำนวยพรให้ประสบความสำเร็จนั่นเอง

    ปางตรีมุขคเณศ
    เป็นพระคเณศที่มี 3 พระพักตร์ 4 กร บ้างก็ว่ามีความหมายถึง 3 โลก บ้างก็ว่าหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา

    ปางปัญจคฌณศ
    บางคนเรียกปางนี้ว่า พระคเณศเปิดโลก

    ปางวิชัยคเณศ
    เป็นปางที่พระคเณศทางขี่หนูเป็นพาหนะมี 4 กร พระหัตถ์ขวาด้านล่างอยู่ในท่าประทานพร ซึ่งมีความหมายถึงการอยู่เหนือบริวารนั่นเอง
    _______________________________________________________________________

    http://www.geocities.com/ganes108/ganes6.htm
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ฤทธิ์แห่งปัญญาของพระพิฆเณศ

    มีตำนานที่กล่าวถึงความมีสติปัญญาและไหวพริบของพระคเณศไว้หลายตอน อย่างเช่นกรณี ที่ท่านเป็นผู้ลิขิตมหากาพย์ภารตะ

    ครั้งหนึ่ง มหาฤาษีวยาสะมีความต้องการที่จะเขียนมหากาพย์ภารตะ แต่เกรงว่าตนจะทำเองไม่สำเร็จ จึงไหว้วานให้ผู้อื่นช่วย แค่ไม่มีใครกล้าอาสาที่จะรับผลงานชิ้นนี้ ฤาษีนารอดเห็นว่าพระคเณศองค์เดียวเท่านั้นที่จะเขียนมหากาพย์ชิ้นนี้ได้ ในที่สุดฤาษีวยาสะจึงต้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระคเณศ พระคเณศบอกว่า จะเขียนตามที่ฤาษีบอก แต่ทันทีที่ฤาษีหยุดบอกจะหยุดเขียนทันที ฝ่ายฤาษีบอกว่า สิ่งที่พูดออกไปจากปากของเราต้องตีความให้ถ่องแท้ก่อนที่จะลงมือเขียน ฉะนั้นเมื่อฤาษีต้องใช้การคิดสำหรับโศลกต่อไปก็จะบอกศัพท์ยาก ๆเพื่อให้พระคเณศตีความเสียก่อนเพื่อเป็นการประวิงเวลา พระคเณศจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดอัจฉริยะในฐานะที่เป็นผู้ลิขิต มหาภารตะ ซึ่งถือว่าเป็นคัมภีร์มหากาพย์สุดยอดของฮินดู

    อย่างไรก็ตาม เรื่องมหากาพย์ภารตยุทธ์นี้ แน่นอน คงไม่มีใครเชื่อว่ามาจากฝีมือพระคเณศแน่ แต่นั่นเป็นภูมิปัญญาของปราชญ์โบราณที่ต้องการจะบอกกับคนในยุคสมัยต่อไปว่า การบูชาครูเพื่อขอดวงปัญญาในการทำงานให้ลุล่วงนั้น เป็นสิ่งสำคัญในลำดับแรก โดยเฉพาะการรจนางานในเชิงพระคัมภีร์ เหมือนเช่นพระมหาธีรราชเจ้า มักจะประพันธ์อักขระเพื่อถวายบูชาต่อพระคเณศก่อนที่จะเริ่มงานประพันธ์ทุกครั้ง มีอยู่หลายกรณี หลายเหตุการณ์ที่ท่านทรงแสดงความเป็นเทพแห่งปัญญาที่แท้จริง แต่กรณีที่เด่นๆก็อย่างเช่น กรณีเดินทางรอบโลกเพื่อผลมะม่วง ในคราวหนึ่ง พระนางอุมาได้นำเอาผลมะม่วงมาถวายกับพระศิวะผลหนึ่ง ปรากฏว่าลูกทั้งสองคนคือ พิฆเณศวร และขันธกุมาร ต่างก็อยากจะเสวยมะม่วงผลนี้ด้วยกันทั้งคู่ ด้วยเหตุนี้พระศิวะจึงอยากรู้ว่า ลูกทั้งสองคนนี้ใครจะเก่งกว่ากัน โดยตั้งโจทย์ว่า ใครก็ตามหากเดินทางรอบโลกถึงเจ็ดรอบและกลับสู่วิมานปาวตา(วิมานของพระศิวะและพระนางอุมา) ก่อนผู้นั้นจะได้ผลมะม่วงลูกนี้ ว่าแล้วฝ่ายขันธกุมารก็ไม่รอช้า รีบขี่นกยูงตระเวนท่องโลกทันที ฝ่ายพิฆเณศแทนที่จะเอาอย่าง กลับเดินประทักษิณรอบบิดาเจ็ดรอบ และกล่าวว่า

    " ข้าแต่พระบิดา พระองค์คือจักรวาล และจักรวาลคือพระองค์ พระองค์ผู้สร้างโลก และทรงเป็นบิดาแห่งข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทำประทักษิณพระบิดาเจ็ดรอบ ถือว่าได้กุศลเท่ากับเดินทางรอบโลกเจ็ดรอบ "

    มหาเทวะศิวะเทพยินดีในคำตอบและชื่นชมในสติปัญญา จึงมอบผลมะม่วงให้กับพระพิฆเณศวรทันที
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    บทบาทความสำคัญของพระพิฆเณศ

    คนไทยคุ้นเคยกับบรรดาเทพทั้งหลายมาช้านานแต่ในบรรดาเทพทั้งหมดคนไทยรู้จักพระพิฆเณศวรมากที่สุด เพราะท่านเป็นมหาเทพที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตคนไทยมากที่สุดจนกล่าวได้ว่าคนไทยยอมรับในองค์พระพิฆเณศ เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นตราประจำกรมกองต่างๆมากมาย


    พระพิฆเณศ เป็นเทพแห่งปราชญ์
    ความรอบรู้ต่างเป็นเทพแห่งขจัดอุปสรรคความขัดข้อง ดังนั้นหากผู้ใดเป็นผู้รู้และประสบความสำเร็จต่อกิจการทั้งปวงมักจะบูชาพระพิฆเณศก่อน ในอินเดียเองก็มีแนวความเชื่อในเรื่องพระพิฆเณศในทุกลัทธิศาสนาไม่ว่าลัทธิที่ถือองค์พระศิวะเป็นใหญ่ นับถือพระพรหมเป็นใหญ่หรือพระนารายณ์เป็นใหญ่ ทุกลัทธิล้วนให้ความสำคัญต่อพระพิฆเณศ ทั้งสิ้น

    ด้วยทุกตำราได้กล่าวถึงที่มาของพระพิฆเณศไว้สูง สำคัญและฤทธิ์มาก มีความเฉลียวฉลาด มีคุณธรรม คอยช่วยเหลือปกป้องปราบปรามสิ่งชั่วร้าย และเป็นยอดกตัญญู แม้พระพิฆเณศจะเป็นเทพที่มีความเก่งกาจสามารถยิ่งแต่ก็เป็นเทพที่สงบนิ่งไม่เย่อหยิ่งทรนงอันเป็นคุณสมบัติอันประเสริฐอีกประการหนึ่งของผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

    จึงกล่าวได้ว่า พระพิฆเณศเป็นมหาเทพที่ดีพร้อมครบถ้วนด้วยความดีงามสมควรแก่การยกย่องบูชาเป็นนิจ แม้แต่องค์พระศิวะมหาเทพผู้สร้างและพระบิดาแห่งองค์พระพิฆเณศยังกล่าวว่า ไม่ว่าจะกระทำการสิ่งใดหรือทำพิธีบูชาใด ให้ทำการบูชาพระพิฆเณศ ก่อนกระทำการทั้งปวง

    ผู้ใด ต้องการพ้นจากความขัดข้องทั้งปวง ให้บูชาพระพิฆเณศ

    ผู้ใด ต้องการความสำเร็จ ให้บูชาพระพิฆเณศ

    http://www.geocities.com/ganes108/ganes2.htm
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ความหมายของส่วนต่างๆของพระพิฆเณศ

    พระคเณศ ทรงมีรูปร่างเดียว โดยทรงมีพระเศียรเป็นช้าง มีพระกรรณกว้างใหญ่ มีงวงยาว แต่ทรงมีร่างกายเป็นมนุษย์ มี 4 หรือ 6 หรือ 8 กรแล้วแต่พระภาคที่จะเสด็จมา รูปร่างของพระองค์แสดงถึงสิ่งเป็นมงคลดีเยี่ยม ซึ่งทรงสั่งสอนถึงความดีและความสำเร็จพระคเณศ

    ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความรู้และปัญญายิ่งใหญ่ แต่ละส่วนของท่านให้ความหมายในเชิงปรัชญาได้ดังนี้

    พระเศียร - ทรงใช้เศียรอันใหญ่ที่เต็มด้วยปัญญาความรู้ เป็นที่รวมแห่งปัญญาทั้งหมด

    พระกรรณ - ทรงใช้รับฟังคำสวดจากพระคัมภีร์และความรู้ในรูปอย่างอื่น ๆอันเป็นสิ่งแรกแห่งการศึกษา

    งวง - เราได้นำเอาความรู้ต่าง ๆที่ได้รับจากการเลือกเฟ้นระหว่างทวิลักษณะ ความผิด-ถูก ความดี-ความชั่ว อันมีงวงช้างที่ยาวและใหญ่ใช้ชั่งน้ำหนักต่อการกระทำหรือการค้นหาสิ่งที่ดีงามต่างๆ อันปัญญานั้นเกิดขึ้นเพื่อช่วยในการแก้ปัญหาของชีวิตให้หลุดพ้นจากอุปสรรค และพบกับความสำเร็จสมดั่งความมุ่งหมาย

    งา - งาข้างเดียวโดยอีกข้างหักนั้น เพื่อแสดงให้รู้ว่าจะต้องอยู่ในเหตุระหว่างความดี-ความชั่ว ซึ่งต้องทำความเข้าใจให้ดีถึงความแตกต่างกัน ดั่งเช่น ความเย็น-ความร้อน การเคารพ-การดูหมิ่นเหยียดหยาม ความซื่อสัตย์-ความคดโกง

    หนู - แสดงถึงความปรารถนาของมนุษย์

    บ่วงบาศ - ทรงถือโดยทรงลากจูงคนทั้งหลายให้เดินตามรอยพระบาทของพระองค์

    ขวาน - เป็นอาวุธทรงใช้ปกป้องความชั่วร้ายและคอยขับไล่อุปสรรคทั้งหลายที่มาก่อกวนต่อบริวารของพระองค์

    ขนมโมทกะ - ข้าวสุกผสมน้ำตาลปั้นเป็นลูกเพื่อประทานให้เราเป็นรางวัลต่อการที่เราปฏิบัติตามรอยพระบาทของพระองค์

    ท่าประทานพร - หมายถึงความยิ่งใหญ่แห่งความผาสุกและความสำเร็จให้กับสาวกของพระองค์

    http://www.geocities.com/ganes108/ganes4.htm
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ตำนานแห่งการเสียงาของพระพิฆเณศ

    มีหลายตำนานมาก พอจะแบ่งได้ดังนี้


    ตำนานแรก ปรศุรามใช้ขวานจาม
    ปรศุรามนั้นเป็นอวตารของวิษณุเทพ กล่าวว่า ปรศุรามได้ยืมขวานจากพระศิวะไปทำลายเหล่ากษัตริย์ เมื่อเสร็จภารกิจจะเข้าเฝ้าที่เขาไกรลาส ระหว่างนั้นบริเวณพระที่นั่งชั้นใน พระศิวะมหาเทพกำลังสนทนาอยู่กับนางปราวตี พระคเณศไม่ยอมให้ปรศุรามเข้าพบ ปรศุรามโมโหเลยใช้ขวานของพระศิวะขว้างไปยังพระคเณศ พระองค์จำใจต้องใช้ใช้งาข้างซ้ายรับขวานนั้น ด้วยเหตุที่ท่านทรงมีความกตัญญูเป็นอย่างยิ่งในบิดา ครั้นจะต่อสู้กันไปก็อาจทำได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรกับการทำลายฤทธิ์เดชของอาวุธซึ่งเป็นของบิดาตนเอง

    ตำนานสอง ได้เศียรช้างงาเดียว
    เมื่อคราวที่พระศิวะได้ทำพิธีโสกัต์และพระวิษณุเทพพลั้งเผลอเปล่งวาจา ยังผลให้เศียรของกุมารหายไปนั้น ได้มีเทวโองการให้หาเศียรของมนุษย์ที่เสียชีวิตมาต่อให้ แต่ปรากฏว่าในวันอังคารนั้นไม่มีมนุษย์ผู้ใดถึงฆาต มีเพียงช้างงาเดียวที่นอนตายอยู่ทางทิศเหนือ จึงตัดเศียรมาต่อให้

    ตำนานสาม โดนพระศิวะใช้ขวานจาม
    เมื่อคราวที่กุมารน้อยถือกำเนิดใหม่ ๆและเฝ้าปากทวารห้องสรงน้ำของพระแม่ปราวตีนั้นพระศิวะไม่ทราบว่าเป็นลูก เลยเกิดการต่อสู้กันพระศิวะโมโหจึงใช้ขวานขว้างไปโดนงาของพระคเณศหัก

    ตำนานสี่ งาถอดได้เองตามธรรมชาติ
    เมื่อคราวที่พระคเณศต่อสู้กับอสูรอสุรภัค พระคเณศแสดงเดชโดยการถอดงาของตัวเองขว้างไปที่อสูร


    http://www.geocities.com/ganes108/ganes9.htm
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    [​IMG]


    *****พระพิฆเณศ*****
    เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ (ความเชื่อของ...ฮินดู)

    เป็นเทพเจ้าผู้บันดาลให้เกิดอุปสรรค ความขัดข้องทั้งมวล
    หรือจะทรงนำพาข้ามพ้นอุปสรรค จึงมีความเชื่อต่อผู้นับถือ
    เป็นเทพเจ้าผู้บันดาลความสำเร็จแห่งกิจการทั้งปวง

    คาถา...
    โอม ศรีคเณศายะ นมะ

    ศาสนาฮินดู นับถือยิ่งนัก

    ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เคยออกแบบเทวรูปพระคเณศ สร้างไว้ในวิทยาลัยนาฏศิลปตามจังหวัดต่างๆเป็นตราสัญลักษณ์ ของกรมศิลปกร หรือตามพิพิธภัณฑ์ องค์ที่นับว่าสวยที่สุดในเมืองไทย พระคเณศ ณ เทวาลัยหน้าห้างสรรพสินค้าอิเชตัน
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    *** ในพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
    เป็นกลอนเสภาว่าไว้...


    *** แถลงเรื่องพระคเณศวิเศษศักดิ์
    ถูกพระจอมไตรจักรมหาศาล
    เรืองอิทธิ์ไกรวิชัยชาญ
    ชำนิชำนาญเจนจิตวิทยา

    เศียรเธอเป็นเศียรกะรีสีแดงชาด
    แสนประหลาดน่าดูเปนหนักหนา
    แต่เยาว์วัยเธอไซร้ได้เสียงา
    เพราะแกล้วกล้าสามิภักดิ์พระปิตุรงค์

    ด้วยรามปรศุรามาไกรลาศ
    จะเฝ้าพระปิตุราชดังประสงค์
    จะเข้าไปในวิมานบรรยงก์
    พระคชพักตร์จึงตรงเข้าห้ามปราม

    จึงได้โกรธขึ้งถึงวิวาท
    ต่างคนต่างอาจไม่เกรงขาม
    พระคณาบดีเสียทีพราหมณ์
    ปรศุรามขว้างขวานไปรานรอน

    คเณศเห็นขวานเพชรระเห็จมา
    ก็รู้ว่าบิดามหิศร
    ประทานพราหมณ์รามณรงค์ให้คงกร
    จะสู้ขวานพระบิดรไม่ควรกัน

    จึ่งก้มเศียรคอยรับให้มั่นเหมาะ
    ขวานจำเพาะถูกงาข้างหนึ่งสบั้น
    จึงคงงาข้างเดียวแต่ปางนั้น
    เลยมีนามว่าเอกทันต์บันลือแรง

    กายาเธอจ้ำม่ำและล่ำสัน
    ผิวโรหิตะพรรณกั่นกำแหง
    ทรงเครื่องเรืองรามอร่ามแดง
    แสงกายจับแสงวราภรณ์

    เป็นใหญ่ในปวงวิทยา
    สง่าทรงซึ่งวินัยสโมสร
    เนืองนิตย์ประสิทธิ์ประสาทพร
    สถาวรสวัสดิ์วัฒนา

    ชนใดหวังข้ามอุปสรรค
    พึงพำนักพิฆเนศนาถา
    สำเร็จเสร็จสมดังจินดา
    พระองค์พาข้ามพิฆนะจัญไร ***
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    การนำประวัติบางส่วนของพระพิฆเณศมาบันทึกไว้ที่กระทู้นี้ เพื่อให้ผู้ที่กำลังคิดจะบูชาได้ทราบความเป็นมาบางส่วน เป็นกำลังในการก้าวไปศึกษาส่วนที่สูงขึ้น ละเอียดขึ้นต่อไป และเป็นการสร้างใจให้สามารถเข้าถึงคุณความดีเพื่อเป็นสื่อถึงพระองค์ท่านได้ง่ายขึ้นในขณะบริกรรมบทพระคาถาบูชาพระองค์ท่าน ทางกายนมัสการด้วยความเคารพ ทางวจีบทพระคาถาว่ากล่าวด้วยความเข้าใจ เข้าถึงคุณความดี ทางใจเห็นภาพสัญญลักษณ์ที่ปรากฎทางรูปธรรมนี้เป็นภาพนามธรรมที่สัมผัสความดีนั้นได้ เช่นเห็นพระเศียรที่ใหญ่โตนั้น ไม่ได้มองว่าคือพระเศียรเท่านั้น แต่ระลึกได้ถึงความรู้ และสติปัญญา เห็นบ่วงบาศก็ไม่ได้หมายความเพียงบ่วงบาศที่เห็น แต่เห็นภาพการกระทำที่จะเจริญตามรอยพระบาทของพระองค์ เป็นต้น แบบนี้ขึ้นชื่อว่า"เข้าถึงกระแส"คุณความดีของพระองค์

    เมื่อเข้าใจ และเห็นชอบตามความข้างต้นนี้ดีแล้ว ในวันเปลี่ยนศักราชของความเชื่อใดก็ดี เมื่อต้องการความช่วยเหลือปัดเป่าอุปสรรคอันจะเกิดขึ้นนี้ก็ดี ความสำเร็จในกิจการงานใดๆก็ดี พึงน้อมกาย ใจ และวจีบริกรรมพระคาถาด้วยความเข้าใจ และซาบซึ้งเข้าถึงกระแสความดีของพระองค์...


    คาถาบูชาพระพิฆเณศวร เทพแห่งความสำเร็จ
    ______________________________________________________________

    โองการพินธุ นาถัง อุปปันนัง พรหมมะโน จะ อินโธ

    พิฆฆะเนศโต มหาเทโว อะหัง วันทามิ สัพพะทา สิทธิกิจจัง

    สิทธิกัมมัง สิทธิการิยัง ประสิทธิเมฯ
     
  11. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ

    ขอขอบคุณ คุณเพชร ครับที่ให้ข้อมูล ข่าวสาร ดีดีมีมงคลครับ
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    การบูชาพระพิฆเณศ ก็คือควรมีหิ้ง หรือโต๊ะต่างหากแยกจากพระพุทธรูป และควรต่ำกว่าพระพุทธรูป ทิศทางที่นิยมหันพระพักตร์เทวรูป ตามปกติควรหันไปทางทิศตะวันออกหรือทิศใดก็ได้ตามสะดวก แต่ควรเว้นทิศตะวันตก และทิศใต้ ส่วนเครื่องบูชาควรจะมีกระถางธูป ๑ ใบ กระถางกำยาน ๑ ใบ และเชิงเทียน ๑ คู่ หรืออาจจะใช้เป็นตะเกียง เหตุที่ต้องใช้ตะเกียง ก็เพราะว่า ปกติผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู หลังจากที่สวดมนต์ถวายสักการะองค์เทพแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายจะต้องมีการทำ"อารตี" แด่องค์เทพ

    การทำอารตีก็คือการนำตะเกียงเขียนเป็นตัวสัญญลักษณ์ "โอม"[​IMG] ที่หน้าผากเทวรูป ตาเทวรูป ตรงหัวใจเทวรูป และตรงกลางองค์เทวรูป หรือตรงสะดือ และที่เท้าขององค์เทวรูป จึงวนต่อหน้าเทวรูปเป็นวงกลม ๓ รอบ การถือตะเกียงควรถือด้วย มือขวาประคองด้วยมือซ้าย และตอนวนเป็นวงกลม ๓ รอบต่อหน้าองค์เทวรูป โดยให้วนตามเข็มนาฬิกาซึ่งหมายถึงเวลาปัจจุบัน และอนาคต

    จากนั้นก็สวดมนต์บทอารตีดังนี้

    โอม...สัตยัม ธีรวาธี สัมยุคทัม ดีปัม คุรุฮานาเดวาชา ทัยโลกิยาธีมิราบาฮัม โอม ศรี กะนะปะตะเย นมะฮา รัม อัคนี ยัทมาเนดีปัมทราชายามิ

    จากนั้นจึงนำมืออังที่ตะเกียง และนำมาแตะที่หน้าผาก ตา หูทั้งสองข้าง การทำอย่างนี้เหมือนกับเป็นการขจัดสิ่งไม่ดีออกไปจากตัวเรา และเป็นการรับพระพรจากองค์เทพด้วย จากนั้นทำใจให้สบาย...สงบ...

    จากนั้นจึงกล่าวแผ่เมตตา โดยกล่าวว่า...
    โอม...ศานติ
    โอม...ศานติ
    โอม...ศานติ

    ก็เป็นวิธีการบูชาแบบพราห์มฮินดู และการบูชาปลีกย่อยก็ยังมีอีกคือ ควรหมั่นทำความสะอาดโต๊ะที่ตั้งเทวรูป หรือหิ้งเทวรูปบ่อยๆ อย่าให้ฝุ่นเกาะ หรือองค์เทวรูป หรือหิ้งสกปรกเป็นอันขาด เครื่องบูชาปกติประจำวันควรมีถ้วยน้ำเปล่า และถ้วยน้ำนม ถวายพร้อมดอกไม้ คือควรจะมีการบูชา และถวายสักการะทุกวันอาจจะเลือกเวลาในช่วงที่เราสะดวกที่สุด เป็นเวลาทำการสักการะองค์ท่าน เช่นเราว่างตอนเช้า ๒ โมงทุกวันก็ควรจะสวดมนต์บูชาองค์ท่านตอน ๒ โมงเช้าทุกวัน ที่เหตุนี้ก็เพราะเป็นการฝึกความมีระเบียบ และเป็นการให้ความสำคัญกับองค์เทพท่าน เพราะหลายท่านเชื่อว่า ถ้าเราทำการสักการะองค์เทพในเวลาเดียวกันทุกๆวัน องค์เทพท่านจะรับรู้ และเสด็จมารับการสักการะจากเราในเวลาที่เรากำหนดทุกวัน และที่สำคัญถ้าหากเรานับถือท่านเป็นครู ทุกวันพฤหัสบดี ควรจะจัดน้ำเปล่า และน้ำนมสด ตลอดจนผลไม้ถวาย ธูปที่จุดถวายก็นิยมใช้ ๙ ดอก และหากเราพบเทวรูปองค์ท่านที่ใดก็ควรตั้งจิตระลึกถึงท่าน และสวดมนต์ โอม...ศรีคเณศายะ นมะ ในใจ ๓ จบ จะเป็นสิริมงคลกับตัวเรา

    บทสวดมนต์บูชาองพระพิฆเณศ
    โอม...ศรีคเณศายะ นมะ
    โอม...วิฆเณศวรา ทายะ สุรปริยาย ลัมโพทราย สกลาย ชคัททิตาย นาคานะนาย ศรุติชยัญญะวิภูสิตาย เคารีสุตาย คณะนาถ นะโม นมัสเต

    http://www.krusiam.com/community/for...ForumID0001390
     
  13. ดั่งจันทรา

    ดั่งจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +693
    เอาเศียรพระพุทธรูปมาทุบเพื่อสร้างรูปเทพนี่ฟังดูชอบกลดีครับ เคยเห็นแต่เอามวลสารอื่นๆ(ที่เหมาะสมกับคำว่าวัตถุมงคล)มาสร้างพระ นี่กลับเอาเศียรพระมาบดทุบทำลายเพื่อสร้างสิ่งที่มิใช่พระ ช่างแปลกดีแท้ครับ...









    เชิญบูชาวัตถุพลังแสงทิพย์
    http://palungjit.org/showthread.php?t=105421
    เชิญร่วมสร้างองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา
    http://palungjit.org/showthread.php?t=105420
    อัตตนาโจทยัตตานัง
    จงกล่าวโทษโจษความผิดตนเองเสมอffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
     
  14. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    อื่ม .....................

    พุทธ หรือ พราหมณ์ เนี่ย ...?
    (cry)
     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ในมุมมองของผม กลับมองว่ายิ่งเป็นการตอกย้ำว่า"พุทธ และพราหมณ์"นั้นแยกแยะกันไม่ค่อยจะออกจากวิถีชีวิตของคนไทยเราแล้ว พระเครื่องที่แขวนใส่คอติดตัวนี้ มีทั้งพรหม ทั้งเทพ ทั้งพระ เรายังไม่ค่อยอยากจะแยกแยะออกเลย ผมได้นำรายละเอียดของการปลุกเสกพระพิฆเนศบางพิธีมาให้ชมกันก็เพื่อให้ทราบว่าพิธีทางพราหมณ์ แต่เราก็ยังนิมนต์พระทางสายพุทธมาปลุกเสก และเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษก คู่กับพิธีเทวาภิเษกกันอยู่เลย เช่นพระพิฆเนศของ work point นี้เป็นต้น เจตนาของทาง"เซียนพระ"ที่นำของเก่าโบราณมาเป็นส่วนหนึ่งของมวลสารนี้เขาก็ไม่ได้เอาไปทุบทำลายดังที่เข้าใจ หรือกล่าวกันไป แต่เอาเข้าหลอมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อการจัดสร้างนี้ ผมก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงไม่ได้มีส่วนได้เสียกับทางททบ. 5 และก็ไม่ได้รู้จักกันกับผู้จัดสร้างทั้งโดยตรง และโดยอ้อม จึงให้ความเห็นแบบสบายๆไม่กังวลใจว่าท่านใดจะไปบูชา หรือไม่ ตามสบายครับ เอาความสบายใจ เอาความเคารพเป็นส่วนตัวเป็นหลักดีกว่าครับ...

    <TABLE class=bodystyle borderColor=#333366 cellSpacing=1 cellPadding=2 width=598 border=1><TBODY><TR height=18><TD vAlign=top width=496 bgColor=#26273c colSpan=2>เหรียญพระพิฆเนศ Workpoint รุ่นพิเศษ กรรมการ Code 9999 (พร้อมกล่องและหนังสือ)</TD></TR><TR height=18><TD vAlign=top align=middle width=85 bgColor=#003399>รายละเอียด :</TD><TD vAlign=top align=middle bgColor=#26273c colSpan=2>[​IMG]
    เหรียญพระพิฆเนศวร ปางมหาเทพแห่งศิลปะของแผ่นดินจัดสร้างโดยบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด(คุณปัญญา นิรันด์กุล) เนื้อบรอนซ์ เพื่อนำรายได้ทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ ในมหาวโรกาสมงคลสมัยพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา

    พิธีปลุกเสก
    ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ประธานผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยในวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประกอบพิธีผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ณ สตูดิโอ เวิร์คพอยท์ฯ บางพูน เพื่อประทานให้ นายปัญญา นิรันดร์กุล เชิญไปประกอบพิธีมหามังคลาภิเษกสถาปนาเหรียญพระพิฆเนศวร ปางมหาเทพแห่งศิลปะของแผ่นดิน รุ่นเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันศุกร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร จากนั้นในวันเสาร์ที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ จะจัดให้มีพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารพระอัฏฐารศ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และกำหนดทำพิธีมหาเทวาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ตามโบราณราชประเพณี ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาต่อไป

    ราคาเหรียญละ 3800 บาท
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...