การถือศีล หรือปฏิบัติตามข้อศีลเขียนเองโดย telwada

เทคนิค หรือ วิธีการถือศีล
การถือศีล ในทางศาสนา เขามีเทคนิคอยู่อย่างหนึ่ง คือ อย่าถือแบบ เคร่งจนเกินไป และอย่าถือให้หย่อนยาน จนเกินไป ถือศีลพองาม
การจะถือศีลได้พองามนั้น ก็ต้องทำความเข้าใจ หรือมีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องของศีล ให้ดีพอสมควรซะก่อนว่า

ข้อศีล (เอาเฉพาะศีล 5 นะขอรับ) เป็นข้อควรยึดถือหรือข้อควรปฏิบัติ สำหรับ บุคคลทั่วไป เพื่อให้เกิด สภาพสภาวะจิตใจ ที่ทางศาสนาเรียกว่า " ธรรมะ"

เมื่อท่านทั้งหลายรู้หลักการเบื้องต้นใน การยึดถือหรือปฏิบัติ ศีลแล้ว ท่านทั้งหลายก็ต้องทำความเข้าใจ ใน หลักแห่งศีลว่า ศีล มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ละเว้น คำว่าละเว้น ก็หมายถึงห้ามนั่นแหละ แต่คำว่า ละเว้น เป็นความพอดี ไม่เคร่งหรือตึงจนเกินไป และไม่หย่อนยานจนเกินเหตุ
ในที่นี้จะไม่อธิบายคำว่า ละเว้น ให้ยืดเยื้อ เอาเป็นว่าให้ท่านทั้งหลาย นำไปคิดพิจารณาด้วยตัวเอง ย่อมจะเกิดปัญญา เกิดความเข้าใจได้ด้วยตัวเอง อย่างถ่องแท้ ตามแต่กำลังสมองสติปัญญา และความรู้
ศีล ในทางศาสนา ที่มีอยู่ ก็เพื่อความสะดวก และง่ายต่อการจดจำ เหตุเพราะในสังคมการเป็นอยู่ร่วมกันของมนุษย์ ย่อมต้องมีการดิ้นรน เพื่อการดำรงชีวิตอยู่เป็นประจำวัน บุคคลส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาคิดพิจารณาในข้อธรรมะต่างๆได้ หรือบ้างก็มีเวลาน้อยที่จะมาคิดพิจารณา และยึดถือปฏิบัติ ตามหลักธรรมะ ดังนั้น ข้อศีลจึงเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ศรัทธาในศาสนา ไม่ว่าจะมีระดับสมองสติปัญญาขนาดไหน สามารถยึดถือและปฏิบัติได้ ตามกำลังความรู้ความสามารถ และกำลังสมองสติปัญญา ถ้าจะกล่าวให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น ก็หมายความว่า ข้อศีลเป็นสิ่งที่บุคคลทุกชนชั้น ไม่ว่าจะยากดีมีจน สมองดีหรือไม่ดี ความรู้ดีหรือไม่มีความรู้ สามารถยึดถือและนำไปปฏิบัติ ในการสังคมเป็นอยู่ร่วมกันได้ ใครจะคิดพิจารณาอย่างไร หรือจะถือตรงๆ ไม่ต้องคิดพิจารณา ก็ย่อมมีผลไปตามลำดับ ผลที่ได้รับจากการถือศีลหรือปฏิบัติตามข้อศีล ก็คือสภาพสภาวะจิตใจ อันเรียกว่า “ธรรมะ” หมายความว่า หากยึดถือและปฏิบัติตามข้อศีล ก็จะเกิดธรรมะขึ้นในจิตใจเป็นอัตโนมัติ
บุคคลที่มีสมองสติปัญญา ไม่ดีนัก หรืออาจจะมีเวลาในการค้นหาหรือปฏิบัติ ตามหลักธรรมะได้ยาก เพียงถือหรือปฏิบัติ ตามข้อศีล ก็เท่ากับปฏิบัติตามหลักธรรมะ ได้หลายข้อ หลายหมวดธรรมะไปพร้อมกัน ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงหลักธรรมเหล่านั้น เอาเพียงให้ท่านทั้งหลายได้เกิดความเข้าใจ เกี่ยวกับการรักษาศีล ถือศีล หรือปฏิบัติ ตามข้อศีล อย่างถูกต้อง ตามความเป็นจริง
ส่วนบุคคลที่มีเวลามาก จะยึดถือหรือปฏิบัติตามข้อศีลก็ได้ หรือจะยึดถือหรือปฏิบัติ ตามหลักธรรมะโดยไม่ยึดถือข้อศีลก็ได้ เหตุเพราะ บุคคลที่มีเวลามาก เพียงพอที่จะคิดพิจารณาในข้อธรรมะ ก็ย่อมปฏิบัติ ไปตามข้อธรรมะ รู้และเข้าใจในข้อธรรมะ อันเป็นการถือศีลปฏิบัติ ตามข้อศีลไปโดยอัตโนมัติ ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะข้อศีล(ในที่นี้หมายเอาเฉพาะศีล๕)เกิดจากธรรมะนั่นเอง
ดังนั้นการยึดถือหรือปฏิบัติ ตามข้อศีล จะพิจารณาแยกแยะรายละเอียดในข้อศีลก็ได้ หรือไม่พิจารณาถือตรงๆไม่ต้องคิดมากก็ได้ มีค่าเท่ากัน มีผลเท่ากัน นั่นคือเมื่อยึดถือข้อศีล หรือปฏิบัติตามข้อศีลย่อมเกิด “ธรรมะ” หรือสภาพสภาวะจิตใจในรูปแบบต่างๆกัน ซึ่งในทางพุทธศาสนาเรียกว่า ธรรมะ เพราะศีลถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อการยึดถือ หรือรักษา หรือปฏิบัติตามได้ ในทุกระดับชนชั้น ในที่นี้จะไม่อธิบายในรายละเอียดการถือศีลในแต่ระดับชนชั้น เพราะในบทความได้อรรถาธิบายพอเป็นแนวทางให้ท่านทั้งหลายได้เกิดความเข้าใจบ้างแล้ว