ครั้งหนึ่ง.. แห่งประสบการณ์.. ความศรัทธา.. การค้นหา.. การรอคอย.. ตามรอยมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... ของผู้รอคอยการพิสูจน์..

ครั้งหนึ่ง.. แห่งประสบการณ์.. ความศรัทธา.. การค้นหา.. การรอคอย.. ตามรอยมณีนาคราชสมบัติแห่งเมื

"เมื่อกระผมได้นำมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... ที่เป็นสัณฐานเขี้ยวแก้วสีม่วงเข้ม.. มาครอบครองภายในอุ้งมือซ้ายของกระผม.. ได้เกิดปาฏิหารย์กับตัวของกระผมเองที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ใจ รู้สึกถึงความปิติ ขนพองสยองเกล้าตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาจนถึงบนศีรษะเป็นละลอกๆ ตัวสั่นตลอดเวลาอย่างไร้เหตุผล.. แล้วก็มีควันลอยออกจากฝ่ามือซ้ายที่มีมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... ที่เป็นสัณฐานเขี้ยวแก้วสีม่วงเข้ม..เป็นควันกลุ่มใหญ่ที่ลอยออกจากฝ่ามือกระผมเป็นละลอกๆปกคลุมฝ่ามือกระผมอย่างหนาแน่น.. คุณกฤษณะจึงได้เรียกให้ทุกๆคนมาชมเป็นขวัญตา.. อย่างอัศจรรย์ยิ่ง.. คุณน้ำใสได้ยืนอยู่ข้างๆกระผม.. ได้บอกให้กระผมลองวางมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... ที่เป็นสัณฐานเขี้ยวแก้วสีม่วงเข้ม..ในฝ่ามือทั้งสองดู.. จะเป็นเยี่ยงไร.. ปรากฏว่าควันก็ยิ่งลอยออกจากฝ่ามือทั้งสองของกระผมอย่าหนาแน่นมากว่าเดิม.. ทุกๆคนรู้สึกปีติเป็นอย่างมาก.. โดยเฉพาะตัวกระผมเอง.. ทีมงานวัชรธาตุ รวมถึงคุณกฤษณะ บอกกับทุกคนว่าเหตุการณ์อย่างนี้ ตั้งแต่มีการอัญเชิญมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... ยังไม่เคยมีปรากฏการณ์ครั้งมีมาก่อนเลย.. ครั้งนี้ครั้งแรก.. ขอรับกระผม.."

 

กระผมเป็นบุคคลหนึ่งที่ทีมงานวัชรธาตุได้เปิดโอกาสให้กระผมได้พิสูจน์ ค้นพบประสบการณ์จริง ! ของมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล...<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ก่อนที่กระผมจะมีโอกาสได้รู้จักคุณกฤษณะ ไตรลักษณ์ และทีมงานวัชรธาตุ กระผมได้มีความสนใจทางวัตถุมงคล เกี่ยวกับเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาร์ฏิหารย์<o></o>
จนกระทั่งวันหนึ่งมีเหตุดลใจ ให้กระผมต้องโยกย้ายสถานที่ทำงานใหม่ได้มาพบเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง ได้มีการแนะนำ และชักจูงให้รู้จักถึงการปฏิบัติตนทั้งทางโลกและทางธรรม และเมื่อถึงเวลาอันสมควร กระผมได้สังเกตุเห็นแหวนเงินของรุ่นพี่คนนี้ได้มีหัวแหวนเป็นอัญมณีที่สวยแบบแปลกๆ แบบติดตาติดใจ เหมือนกับเราเคยผูกพันธ์ เคยครอบครองสิ่งๆนี้มาด้วยเช่นกัน กระผมจึงได้สอบถามเรื่องราว ประวัติความเป็นมาเป็นไปต่างๆ ที่พี่เขาได้ครอบครองมาอย่างสนอกสนใจเป็นที่สุด..<o></o>
จึงได้เริ่มศึกษาและค้นคว้า และค้นหา ไม่ว่าจะเป็นตำหรับตำรา หนังสือหนังหา รายการโทรทัศน์ รายการสารคดี วัดวาอาราม สถานที่ต่างๆที่เคยมีประวัติมา ครูบาอาจารย์ และ ทางInternet <o></o>
จนกระทั่งวันหนึ่งกระผมได้เปิดเวบ เวบหนึ่งที่มีความเป็นมาเป็นไปของมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... รวมถึงการเชิญชวน สำรวจ พิสูจน์กันให้เห็นจะๆ.. ตามถ้ำต่างๆที่บริเวณเทือกเขาภูพาน ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อน และเป็นที่ขนานนาม ของมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล...อีกแห่งหนึ่ง ที่ได้มีการค้นพบ และผู้คนทั้งหลายที่เคารพ เชื่อถือกัน นำมากราบสักการะบูชากันเป็นจำนวนมาก <o></o>
กระผมและรุ่นพี่ที่ทำงานต่างมี่ความเชื่อและศรัทธา รวมถึงอยากพิสูจน์ที่มาที่ไป จึงได้พากันเดินทางไปที่หมู่บ้านอ้อมน้อย ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของคุณกฤษณะ ไตรลักษณ์ รวมถึงเป็นฐานทัพของผู้ร่วมบุญใหญ๋ในทีมงานวัชรธาตุ ก้าวแรกที่กระผมได้สัมผัสย่างก้าวเข้าไปในบ้าน รู้สึกมีความปีติอย่างอัศจรรย์ยิ่ง ทั้งๆที่ยังไม่ได้พบเห็นอะไร.. และเมื่อเข้าไปในบ้านกระผมได้พบกับมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... สารพัดรูปแบบ ต่างสันฐานกันเยอะแยะมากมาย.. อย่างตืนตาตื่นใจ.. และที่น่าปีติเป็นที่สุด คือ กระผมได้พบพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ หลากสัณฐาน <o></o>
เมื่อกระผมได้ทำความรู้จักกับคุณกฤษณะ ไตรลักษณ์ ท่านได้แนะนำ เสนอแนะ และชี้แนะแนวทางในการปฏิบัติทั้งทางโลก ทางธรรม ให้เกิดความก้าวหน้า.. ซึ่งหลักคำสั่งสอนของคุณกฤษณะ ไตรลักษณ์ เป็นแนวทางเดียวกับหลักคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ที่กระผมเคารพและศรัทธายิ่ง.. เหมือนกับเคยรู้จัก สนิทสนม และผูกพันธ์กันเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆที่กระผมเพิ่งได้รู้จักกันเอง..<o></o>
<o></o>
<o> </o><o> </o><o> </o>
จนกระทั่งมาถึงวันที่กระผมรอคอย.. ในวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2551 ถึงวันพฤหัสฯที่ 9 ตุลาคม 2551 กระผมได้มีโอกาสไปพิสูจน์ให้หายอยากเสียที่.. <o></o>
กระผม ทีมงานวัชรธาตุ และผู้ร่วมบุญ รวมจำนวน 8 คน ใช้รถยนต์ในการเดินทาง จำนวน 2 คัน ได้เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2551 กระผมได้นั่งรถเดียวกันกับคุณกฤษณะ ไตรลักษณ์ (ผู้ขับ และเครื่อง GPS คู่ใจ) และผู้ร่วมบุญสุภาพสตรี 3 ท่าน อีกคันหนึ่งมีคุณชายพลขับมือหนึ่งด่วนอาสา !! คุณน้ำใส และคุณปุ๊ก จุดมุ่งหมายที่แรกคือไปกราบนมัสการพระอาจารย์ชยางกูล วัดป่าโนนจ่าหอม อ.เหล่าเสือโก๊ก จ.อุบลฯ กว่าจะถึงวัดก็เล่นเอาซะเย็นเลย (ขับเรื่อยๆ ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวใคร ยกเว้นตามใจเชื่อถือเครื่อง GPS ) จากอ้อมน้อยถึงเมืองอุบลฯ จาก 07.00

 

เช้าวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 07.00 น. พวกเราทั้งคณะได้ออกเดินทางไปสำรวจถ้ำปาฏิหารย์ ที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งซึ่งเคยมีพระอริยสงฆ์หลายท่าน และนักปฏิบัติธรรมก็มีมาก ได้มาปฏิบัติธรรมเพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริง หรือได้บรรลุคุณธรรมขั้นสูงอันใดอันหนึ่ง ตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คืนก่อนที่เดินทางมา พระอาจารย์ชยางกูลได้ชี้แนะว่าถ้ำปาฏิหารย์นี้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงนี้เป็นช่วงน้ำหลาก ไม่แน่ใจว่าพวกเราจะสามารถลอดถ้ำเข้าไปได้หรือไม่.. เพราะในถ้ำเป็นทางน้ำไหลไปออกแม่น้ำโขงจนถึงเมืองจำปาสัก..โน้นแหน่ะ.. ท่านบอกให้พวกเราเมื่อไปถึงให้สังเกตุตัวถ้ำจะมีลักษณะแหมือนงูเห่าที่กำลังแผ่แม่เบี้ย ปากถ้ำจะเหมือนหัวงู.. เป็นห้องโถงใหญ่นั่นเอง.. แล้วให้เดินเข้าไปข้างในจะเป็นคองู.. ต้องลอดเข้าไป.. เพราะมีช่องที่เล็กพอดีคนคลาน.. ให้เราไปตามน้ำไหลแล้วจะหล่นลงไปถึงท้องงู.. เป็นแอ่งน้ำกว้าง.. ใต้น้ำมีสารพัดที่ต้องการ.. ตามจิตอธิษฐานขอ.. พอพวกเราไปหน้าทางเข้าวัดถ็ปาฏิหารย์ ต้องพากันจอดรถกันก่อนแล้วให้สามทหารเสือ ของวัชรธาตุ อพยพโยกย้ายเข้ามาในรถโฟร์วิล ที่กระผมนั่งอยู่กับผู้ร่วมบุญ 3 ท่าน โดยมีคุณกฤษณะ เป็นผู้ขับ รวม 8 คน อยู่ในรถคันเดียว เนื่องจากทางเข้านั้นเป็นทางที่ค่อนข้างจะวิบาก (รถเก๋งค่อนข้างที่จะเข้าลำบาก) ทางเข้าไปหน้าวัดประมาณ 2 กิโลฯ พวกเราต่างพากันลงรถ ได้พากันสำรวจลานวัด ได้พบพระธาตุข้าวบิณฑ์กระจายทั่วลานวัดเป็นจำนวนมาก เมื่อเข้าไปถึงศาลาวัดก็ได้พบกับท่านเจ้าอาวาสอยู่หนึ่งรูป ต่างพากันไปกราบนมัสการพระคุณเจ้า กระผมได้สังเกตุเห็นลูกแก้วพญานาคสีดำสนิทน้ำหนักประมาณ 20

 

เช้าวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 07.00 น. พวกเราทั้งคณะได้ออกเดินทางไป ณ ถ้ำแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่นักปฏิบัติธรรมที่ต้องการหาความสงบต่างพากันไปปฏิบัติธรรมเพื่อให้ได้พบกับคุณธรรมขั้นสูงอันใดอันหนึ่ง ในเขตบริเวณเทือกเขาภูพาน ตามคำชี้แนะของคุณกฤษณะ ซึ่งเป็นเวลาที่กระผมนั้นรอคอยได้มาถึง คือเวลาของการอันเชิญมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... ให้ทุกๆ คนได้เชยชมกัน..<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ก่อนที่จะมีการอันเชิญมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล...นั้น คุณกฤษณะได้แนะนำทุกคนว่า..

 

เช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2551 กระผม และผู้ร่วมบุญอีก 3 ท่าน อยากให้ทีมงานวัชรธาตุพาไปสำรวจที่ถ้ำแกลบ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีชื่อเสียง ที่เป็นตำนานของมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... คุณกฤษณะได้บอกกับทุกคนว่าช่วงนี้เป็นช่วงน้ำหลาก รวมถึงภายในถ้ำแกลบ นั้นได้มีหิน ดิน ทราย ไหลพังทลายตามทางเดินน้ำที่ค่อนข้างไหลเชี่ยว อาจเป็นอันตรายกับทุกคนได้.. สักพักคุณกฤษณะก็นิ่งอยู่สักครู่.. แล้วบอกกับทุกคนว่า.. พวกเราไปกันได้.. แต่ไปได้ไม่ลึกมากนัก.. ทุกคนก็ตกลงมุ่งหน้าไปยังถ้ำแกลบตำนานแห่งมณีนาคราชสมบัติแห่งเมืองบาดาล... อย่างมีความสุข.. โดยไม่เกรงกลัวต่ออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับทุกๆคนเลย.. fficeffice" /><O></O>
พอถึงปากทางเข้าถ้ำ พวกเราก็ได้จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และผู้ที่เป็นเจ้าของสมบัติแห่งเมืองบาดาล...ทั้งหลาย แล้วต่างพากันทำการนั่งสมาธิ อุทิศส่วนกุศล แล้วอธิษฐานจิตขอสิ่งที่ต้องการ.. หลังจากนั้นทๆคนก็พากันมุดเข้าไปในถ้ำกัน อย่างลำบาก.. ทั้งมุด.. ทั้งคลาน.. ภายในถ้ำจะเห็นทางน้ำไหลตลอดเวลา.. เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง กระผมได้มองไปรอบๆถ้ำ ดูแล้วค่อนข้างอันตรายมากเพราะเห็นผนังถ้ำแทบทุกจุดได้เคยมีการพังถล่มลงมาแล้วทั้งนั้น ไม่รู้ว่าจะพังลงมาอีกเมื่อไร ภายในถ้ำไม่มีโอกาสยืนเลย.. ต้องมุด.. ต้องคลาน.. ไปตามทางน้ำไหล..ทุกๆคนกระจักกระจายหากันอย่างขมักเขม้น.. สรุปภายในถ้ำแกลบนี้พวกเราได้ สัณฐานเขี้ยวแก้วสีแดง 1 องค์ สัณฐานเขี้ยวแก้วสีเหลือง 1 องค์ หลังเบี้ย 3 องค์<O></O>
เมื่อได้เวลาอันควรก็พากันกลับที่พัก อาบน้ำแต่งตัว เก็บข้าวเก็บของ เดินทางกลับอย่างมีความสุข ไร้ข้อสงสัย ประทับใจ และเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้ามากขึ้น.. คุ้มต่อการรอคอย..<O></O>
บทความข้างต้นทั้งหมดนี้.. กระผมไม่ได้แต่งเสริมเติมแต่ง.. เป็นความจริงทุกประการ.. จากประสบการณ์ตรงของตัวกระผมเองทั้งนั้น.. ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านการชม..
<O></O>
<O>เรียบเรียงโดย.. p_pond</O>

http://www.watcharathath.com

 

ถ้าเราเจออะไรพวกนี้เราต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ราชการหรือกรมทรัพยากรฯหรือเปล่าครับ แต่ผมเห็นก้อนพวกนี้มีวางขายเยอะแยะนะครับ ฝั่งลาวก็มีขาย เขาว่ามาจากจีน

 

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง.. สำหรับคุณมันตรัยที่ตอบกระทู้นี้ และให้ความเห็น.. เพราะทุกๆคนย่อมมีความสงสัย.. (จงอย่าเชื่อในสิ่งที่เชื่อ..ถ้ายังไม่ไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยตนเอง..) ก่อนที่กระผมจะเชื่อเรื่องนี้.. กระผมได้ตามพิสูจน์มาตลอดเหมือนกับรายการหนึ่งทางโทรทัศน์ที่ค้นหาความจริง.. ที่มาที่ไปในเรื่องต่างๆที่คนสนใจ..มันเป็นอย่างไรมาอย่างไร..จนกระผมได้พบจุดที่ทำให้ร้องอ๋อ!! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง.. กระผมคิดว่าทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นมากับบุคคลต่างๆในเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนมีเหตุผล บางเรื่องก็สามารถที่จะอธิบายได้ และบางเรื่องก็สุดแสนยากที่จะอธิบายได้.. มันเป็นปัจจัตตัง.. อีกอย่างหนึ่งกระผมคิดว่าถ้ามีของจริงเกิดก็ย่อมมีของเลียนแบบเกิดขึ้นเป็นของคู่โลก.. ตราบใดที่มีคำว่า..รายได้เลี้ยงชีพเกิดขึ้นกับมนุษย์โลก.. แต่กระผมก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่คุณมันตรัยไปประสบพบมาเป็นของจริง.. หรือเลียนแบบ..
และถ้าเป็นไปได้อยากจะเลียนเชิญให้คุณมันตรัยไปร่วมพิสูจน์..หาความจริงกัน !!
ขอโมทนาบุญด้วยขอรับ..

 

ขอขอบพระคุณ!! กับคุณchattrgที่ร่วมอนุโมทนากับกระผมด้วยขอรับ..

 

เอาว่าถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่มีเจ้าของ ก็ต้องตกเป็นสมบัติของรัฐ หรือคุณเป็นเจ้าของถ้ำถึงหยิบฉวยมาได้ อย่างถ้าเจอบ่อน้ำมันในที่ดินของบ้านคุณ คุณเป็นเจ้าของก็จริงครับ แต่ยังไงก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการดำเนินงานขอสัมปทาน เฉกเช่นเดียวกัน หากคุณไปขุดเพชรพลอยที่มีค่าขึ้นมา โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอนุญาตุ เกรงว่าจะผิดกฏหมายนะครับ ผมขอเวลาสักระยะนึง จะลองสอบถามผู้รู้กฏหมาย และจะแจ้งให้ทราบครับ