ประสบการณ์ครั้งที่ได้รู้สึกถึงพลังขององค์พระ

คือว่าผมได้ทราบเรื่องการจับพุทธคุณของอาจารย์อาชวิน แล้วผมก็ได้ไปหาแกวันอาทิตย์ แต่ว่ามีคิวลูกค้ารออยู่มาก ลูกศิษย์ท่านก็เลยมาดูให้ มีพระสมเด็จอยู่องค์หนึงของผมแรงที่สุด 14เมตร แกก็เลยให้ลอจับดูให้หายใจลึกลึกแล้วพยายามทำจิตให้นิ่งครับ ปรากฎว่าสัก1นาที่ก็เริ่มหายใจติดติด รู้สึกหมดแรงไปทั้งตัวเลยทั้งมือทั้งขาขึ้นมาถึงหัวเลย ผ่านไปสัก2ชั่วโมงจะกลับมาปกติคับ แ คือว่าผมยังไม่ค่อยเคยฝึกจิตเลยรู้สึกแงกว่าคนอื่น จากนั้นกลับมาบ้านเราพยายามฝึกสมาธิ แล้วลองมาจับ ตอนนี้ดีขึ้น ที่หมดแรงมันจากมือ มาถึงแขนท่อนแรก ทุกครั้งที่จับจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งครับ นี่ถ้าเป็นพระสมเด็จโต ผมไม่เป็นลมเหรอนี่

 

นั่งสมาธิ หรือ ภาวนาไปด้วยครับ สอนหน่อยสิครับ

 

ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ทำแล้วได้ประโยชน์อะไรแม้กับตนเอง หรือผู้อื่นครับ

 

การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีสัมผัสที่ละเอียดขึ้น ประโยชน์ที่เราได้คือทำให้เราสามารถรับรู้ถึงพระพุทธคุณที่เกิดจากการอธิษฐานจิตของผู้สร้าง ซึ่งเมื่อเราสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเอง จะทำให้เราเกิดศรัทธาและเชื่อมั่นในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ รวมถึงพระสังฆคุณ ดีกว่ารับฟังจากผู้อื่น ซึ่งคงจะไม่ซาบซึ้งเท่าตนเอง

 

เห็นด้วยเลย

 

อืม...
ก็ดีครับ ถ้าทำแล้วเรารู้สึกดี(มั่นใจ)ในพระพุทธคุณ
แล้วน้อมนำมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้คิดดี ทำดี
อย่างน้อยๆก็ทำให้คุณเริ่มฝึกสมาธิ ใช่ไหมครับ???

 

คุณคิดว่าคุณมีพลังจิตระดับไหน
ถ้ามีจิตอัศจรรย์ขนาดสามารถจับพลังพระเครื่อวได้นี่
ไม่ธรรมดาครับ ขนาดพระที่บวชถือศีล227 ข้อ
บำเพ็ญภาวนา จิตยังไม่สงบฟุ้งซ่าน
นับประสาอะไรกับคนทั่วไปที่ถือศีล5ครบบ้างไม่ครบบ้าง
นั่งสมาธิบ้างไม่นั่งบ้าง นานๆนั่งที
มาบอกว่าจับพลังองค์พระได้
แค่ปิติเล็กน้อยๆ สำคัญไปว่าเป็นพลังพระเครื่อง
ใครที่คิดว่าจับพลังได้นี่ บอกให้เลยคุณกำลังหลงทาง
ผู้ที่จับพลังได้ ระดับจิตต้องได้ฌานสมาบัติหรือจิตอริยะเท่านั้น
มาอ้างว่ามีของเก่า บารมีเดิม
รู้สึกจะเข้าข้างสำคัญตัวเองไปหน่อย

 

ทำจิตใจให้เป็นกุศล ก็เห็นได้น่ะครับ แม้นเพียงแต่เล็กน้อย

 

เรื่องสัมผัสพลังวัตถุมงคลของ อ. อาชวิน ผมยอมรับว่าค่อนข้างแม่นยำเช่นกัน

แต่ละคนสั่งสมกุศลบารมีมาต่างๆกัน บางอย่างเกิดขึ้นได้เสมอเมื่อถึงเวลาและกุศลเก่าช่วยหนุน

ท่านเจ้าของกระทู้ก็เพียรรักษาศีลเป็นฐาน สิ่งใดควรมีควรได้....เดี๋ยวมาเอง

ประถม...สู่มัธยม...สู่มหาวิทยาลัย ความรู้ย่อมมาเป็นลำดับ ขอให้มีความเพียรเถิด

ประโยชน์.......เดี๋ยวรู้เห็นด้วยตนเอง การลังเลสงสัยย่อมคลายไปเอง

ความรู้เหล่านี้เป็นในขั้นของโลกียะญาณ ไม่ว่าพระหรือฆราวาสปฏิบัติตนถึง...ก็รู้ได้

แต่โอกาสผิดพลาดก็มีได้ไม่ยากเหมือนกัน เพราะไม่ใช่โลกุตระญาณซึ่งเป็นญาณของพระอริยะครับ

 

อาจารย์ visutto พูดได้ดีทีเดียวครับ