พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรงกับ...ปาฏิหาริย์พระหลวงปู่ภู

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 3 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรงกับ...ปาฏิหาริย์พระหลวงปู่ภู</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] "อันความตาย ชายนารี หนีไม่พ้น จะมีจน ก็ต้องวาย ตายเป็นผี ถึงแสนรัก ก็ต้องร้าง ห่างทันที ไม่วันนี้ ก็วันหน้า จริงหนาเรา อันยศลาภ หายไป ไม่ได้แน่ เว้นเสียแต่ ต้นทุน บุญกุศล ทิ้งสมบัติ ทั้งหลาย ให้ปวงชน


    แม้ร้างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ เมื่อเจ้ามา มีอะไร มากับเจ้า เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน เมื่อเจ้ามามือเปล่า จะเอาอะไร เจ้าก็ไปมือเปล่า เหมือนเจ้ามา"
    นี่เป็นคติธรรมในการดำเนินชีวิตของ พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรง อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
    พล.ร.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า พระเครื่องที่แขวนติดตัวมาเป็นเวลา ๔๐ ปี โดยคุณพ่อให้มา คือ พระหลวงปู่ภู จันทสโร พิมพ์สมเด็จฐานแปดชั้นแขนกลม เนื้อผง วัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อว่ามีพุทธคุณทางเมตตามหานิยม เราแขวนไปไหนมาไหนจะได้มีคนชอบเรา
    ทั้งนี้ มุมมองเกี่ยวกับการแขวนพระเครื่องคิดว่า เป็นการแขวนเพื่อให้เรามีสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ อย่างน้อยพระเครื่องก็ทำให้เราต้องมีคุณธรรมประจำใจ จะทำอะไรก็จะมีคนเมตตา กรุณา และไม่ประมาทกับชีวิต
    ตลอดชีวิตที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เฉียดตายกับชีวิตมาหลายครั้ง โดยเหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นอายุประมาณ ๖ ขวบ เป็นลูกชาวบ้านธรรมดา สมัยนั้นบ้านจะอยู่ที่คลองสามเสน (แถวๆ กรมสรรพสามิตในปัจจุบัน) พอตกเย็นพ่อจะไปปลูกผักโดยทิ้งตนเองไว้ตรงบันได พอกลับมาทีก็ไม่เห็นตนเองแล้ว ทำให้พ่อว้าวุ่นใจมาก
    ทันใดนั้นเอง ก็เห็นตนลอยอยู่ห่างจากบันไดประมาณ ๕๐ เมตร พ่อว่ายน้ำไปคว้าตัวขึ้นมา ปรากฏว่า ท้องโต เพราะกินน้ำเข้าไปมาก พ่อเอาไปนอนคว่ำในกะละมัง และนั่นก็เป็นเรื่องที่ตกน้ำไม่ตาย จึงก็เกิดความแน่ใจว่าไม่ตายกับน้ำแน่ๆ ตกลงไปสอบเป็นทหารเรือ
    ส่วนเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้น พล.ร.อ.ประเสริฐ เล่าว่า สมัยเป็นเสนาธิการทหารเรือ ที่มีเส้นก้าวหน้าในทางการเลื่อนยศเป็นรองผู้บัญชาการทหารเรือ จากนั้นถึงจะได้ขึ้นต่อเป็นผู้บัญชาการทหาร ในเดือนตุลาคม ๒๕๔๑ พอเดือนตุลาคม ๒๕๔๒ มีคำสั่งย้ายไปเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ปกติเป็นเสนาธิการ แล้วต้องขึ้นเป็นรอง หรือไม่ก็ขึ้นเป็น ผบ.ทร. ในปีนั้นทำให้หมดหวังว่า ชีวิตนี้ไม่ได้เป็น ผบ.ทร.แล้ว เพราะจะเกษียณในเดือนตุลาคม ๒๕๔๕ โอกาสได้เป็น ผบ.ทร.มีอยู่น้อยมาก
    "แต่เรื่องปาฏิหาริย์อย่างไร หรือเป็นเรื่องบังเอิญไม่ทราบ ก่อนสิ้นปี ๒๕๔๓ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ เมื่อผมได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผบ.ทร. ผมคิดว่าวันที่ได้รับการแต่งตั้งถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมาก ขนาดมีเพื่อนๆ ต่างพูดเล่นกันว่า โอกาสที่ผมจะก้าวขึ้นมาเป็น ผบ.ทร. มันมีโอกาสอยู่น้อยมาก ถ้าได้เป็นก็คงเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ และเมื่อผมได้เป็นมันเหมือนเป็นเรื่องปาฏิหาริย์จริงๆ ซึ่งน่าจะเกิดจากพระหลวงปู่ภูก็ได้" พล.ร.อ.ประเสริฐ กล่าว
    พร้อมกันนี้ พล.ร.อ.ประเสริฐ บอกด้วยว่า ชีวิตที่ผ่านมาชอบทำบุญเป็นประจำ โดยมีความเชื่อว่า การทำบุญเหมือนเราเอาบุญไปฝากไว้ในธนาคาร เราทำบุญไม่ว่าจะทำในรูปแบบใด ไม่ต้องไปคิดว่า จะได้อะไรตอบแทน แต่ขอให้ทำไว้ ผลของบุญจะออกมาเป็นเหมือนดอกผลที่เราฝากนั่นเอง
    สิ่งเหล่านี้อย่างน้อยก็เป็นกรรมดี ที่จะมาแบ่งเบากับกรรมที่ไม่ดีของเรา สังเกตได้ว่า ช่วงเวลาที่เราเกิดวิกฤติ เราจะเห็นว่า บุญเหล่านั้นจะกลับมาช่วยเราเอง และสิ่งที่ภูมิใจเมื่อครั้งบวชพระใหม่ๆ ในปี ๒๕๐๙ ท่องปาฏิโมกข์ได้ภายใน ๔๕ วัน ต่อจากนั้นได้ขึ้นว่าปาฏิโมกข์แทนพระอาจารย์ในพรรษาด้วย "หลักธรรมที่ผมนำมาใช้กับการทำงานที่ผ่านมา ก็จะเป็น พรหมวิหาร ๔ เพราะถือเป็นธรรมประจำใจอันประเสริฐ ซึ่งได้แก่ เมตตา ความรักใคร่ ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข มีจิตใจแผ่ไมตรี และคิดทำประโยชน์แก่มนุษย์สัตว์ทั่วหน้า กรุณา คือ ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์ มุทิตา คือ ความยินดีในเมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข และ อุเบกขา คือ ความวางใจเป็นกลาง ไม่ดีหรือเสียใจเกินไปในเหตุอันสุดวิสัยไม่มีอคติปลงใจได้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน ผู้ทำดีย่อมได้ดี ผู้ทำชั่วย่อมได้ชั่ว" พล.ร.อ.ประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ สุรจิตร ศิริ 0

    -->[​IMG]
    "อันความตาย ชายนารี หนีไม่พ้น จะมีจน ก็ต้องวาย ตายเป็นผี ถึงแสนรัก ก็ต้องร้าง ห่างทันที ไม่วันนี้ ก็วันหน้า จริงหนาเรา อันยศลาภ หายไป ไม่ได้แน่ เว้นเสียแต่ ต้นทุน บุญกุศล ทิ้งสมบัติ ทั้งหลาย ให้ปวงชน
    แม้ร้างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ เมื่อเจ้ามา มีอะไร มากับเจ้า เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน เมื่อเจ้ามามือเปล่า จะเอาอะไร เจ้าก็ไปมือเปล่า เหมือนเจ้ามา"
    นี่เป็นคติธรรมในการดำเนินชีวิตของ พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรง อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
    พล.ร.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า พระเครื่องที่แขวนติดตัวมาเป็นเวลา ๔๐ ปี โดยคุณพ่อให้มา คือ พระหลวงปู่ภู จันทสโร พิมพ์สมเด็จฐานแปดชั้นแขนกลม เนื้อผง วัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อว่ามีพุทธคุณทางเมตตามหานิยม เราแขวนไปไหนมาไหนจะได้มีคนชอบเรา
    ทั้งนี้ มุมมองเกี่ยวกับการแขวนพระเครื่องคิดว่า เป็นการแขวนเพื่อให้เรามีสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ อย่างน้อยพระเครื่องก็ทำให้เราต้องมีคุณธรรมประจำใจ จะทำอะไรก็จะมีคนเมตตา กรุณา และไม่ประมาทกับชีวิต
    ตลอดชีวิตที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เฉียดตายกับชีวิตมาหลายครั้ง โดยเหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นอายุประมาณ ๖ ขวบ เป็นลูกชาวบ้านธรรมดา สมัยนั้นบ้านจะอยู่ที่คลองสามเสน (แถวๆ กรมสรรพสามิตในปัจจุบัน) พอตกเย็นพ่อจะไปปลูกผักโดยทิ้งตนเองไว้ตรงบันได พอกลับมาทีก็ไม่เห็นตนเองแล้ว ทำให้พ่อว้าวุ่นใจมาก
    ทันใดนั้นเอง ก็เห็นตนลอยอยู่ห่างจากบันไดประมาณ ๕๐ เมตร พ่อว่ายน้ำไปคว้าตัวขึ้นมา ปรากฏว่า ท้องโต เพราะกินน้ำเข้าไปมาก พ่อเอาไปนอนคว่ำในกะละมัง และนั่นก็เป็นเรื่องที่ตกน้ำไม่ตาย จึงก็เกิดความแน่ใจว่าไม่ตายกับน้ำแน่ๆ ตกลงไปสอบเป็นทหารเรือ
    ส่วนเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้น พล.ร.อ.ประเสริฐ เล่าว่า สมัยเป็นเสนาธิการทหารเรือ ที่มีเส้นก้าวหน้าในทางการเลื่อนยศเป็นรองผู้บัญชาการทหารเรือ จากนั้นถึงจะได้ขึ้นต่อเป็นผู้บัญชาการทหาร ในเดือนตุลาคม ๒๕๔๑ พอเดือนตุลาคม ๒๕๔๒ มีคำสั่งย้ายไปเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ปกติเป็นเสนาธิการ แล้วต้องขึ้นเป็นรอง หรือไม่ก็ขึ้นเป็น ผบ.ทร. ในปีนั้นทำให้หมดหวังว่า ชีวิตนี้ไม่ได้เป็น ผบ.ทร.แล้ว เพราะจะเกษียณในเดือนตุลาคม ๒๕๔๕ โอกาสได้เป็น ผบ.ทร.มีอยู่น้อยมาก
    "แต่เรื่องปาฏิหาริย์อย่างไร หรือเป็นเรื่องบังเอิญไม่ทราบ ก่อนสิ้นปี ๒๕๔๓ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ เมื่อผมได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผบ.ทร. ผมคิดว่าวันที่ได้รับการแต่งตั้งถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมาก ขนาดมีเพื่อนๆ ต่างพูดเล่นกันว่า โอกาสที่ผมจะก้าวขึ้นมาเป็น ผบ.ทร. มันมีโอกาสอยู่น้อยมาก ถ้าได้เป็นก็คงเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ และเมื่อผมได้เป็นมันเหมือนเป็นเรื่องปาฏิหาริย์จริงๆ ซึ่งน่าจะเกิดจากพระหลวงปู่ภูก็ได้" พล.ร.อ.ประเสริฐ กล่าว
    พร้อมกันนี้ พล.ร.อ.ประเสริฐ บอกด้วยว่า ชีวิตที่ผ่านมาชอบทำบุญเป็นประจำ โดยมีความเชื่อว่า การทำบุญเหมือนเราเอาบุญไปฝากไว้ในธนาคาร เราทำบุญไม่ว่าจะทำในรูปแบบใด ไม่ต้องไปคิดว่า จะได้อะไรตอบแทน แต่ขอให้ทำไว้ ผลของบุญจะออกมาเป็นเหมือนดอกผลที่เราฝากนั่นเอง
    สิ่งเหล่านี้อย่างน้อยก็เป็นกรรมดี ที่จะมาแบ่งเบากับกรรมที่ไม่ดีของเรา สังเกตได้ว่า ช่วงเวลาที่เราเกิดวิกฤติ เราจะเห็นว่า บุญเหล่านั้นจะกลับมาช่วยเราเอง และสิ่งที่ภูมิใจเมื่อครั้งบวชพระใหม่ๆ ในปี ๒๕๐๙ ท่องปาฏิโมกข์ได้ภายใน ๔๕ วัน ต่อจากนั้นได้ขึ้นว่าปาฏิโมกข์แทนพระอาจารย์ในพรรษาด้วย
    "หลักธรรมที่ผมนำมาใช้กับการทำงานที่ผ่านมา ก็จะเป็น พรหมวิหาร ๔ เพราะถือเป็นธรรมประจำใจอันประเสริฐ ซึ่งได้แก่ เมตตา ความรักใคร่ ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข มีจิตใจแผ่ไมตรี และคิดทำประโยชน์แก่มนุษย์สัตว์ทั่วหน้า กรุณา คือ ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์ มุทิตา คือ ความยินดีในเมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข และ อุเบกขา คือ ความวางใจเป็นกลาง ไม่ดีหรือเสียใจเกินไปในเหตุอันสุดวิสัยไม่มีอคติปลงใจได้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน ผู้ทำดีย่อมได้ดี ผู้ทำชั่วย่อมได้ชั่ว" พล.ร.อ.ประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย
    0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ สุรจิตร ศิริ 0

    ------------------
    ที่มา:คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2007/02/03/j001_87828.php?news_id=87828
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    กระแสพลังจะออกเป็นสีขาวมุก
     

แชร์หน้านี้

Loading...