"เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์"ลาทีปีหมูไฟ รวมข่าว"โลกพิสดาร"2550

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 31 ธันวาคม 2007.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    "เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์"ลาทีปีหมูไฟ รวมข่าว"โลกพิสดาร"2550
    http://matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObWIzSXlNRE14TVRJMU1BPT0=&sectionid=TURNd05nPT0=&day=TWpBd055MHhNaTB6TVE9PQ==

    วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6241 ข่าวสดรายวัน
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมาคลีเขมร

    ช่วงต้นปี 2550 สื่อต่างประเทศทุกสำนัก รายงานข่าวการพบตัวหญิงสาวลึกลับชาวกัมพูชา ซึ่งคาดว่ามีอายุราวๆ 18-19 ปี

    เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อข้าวปลาอาหารในหมู่บ้านโอยาดาว พื้นที่ห่างไกลของจังหวัดรัตนคีรี มักหายไปเฉยๆ บ่อยครั้ง

    เมื่อชาวบ้านตัดสินใจบุกเข้าไปสำรวจในป่าว่า สัตว์ตัวไหนมาแอบกินของชาวบ้านก็ต้องผงะ!

    เพราะพบสาวคนนี้ในสภาพเปลือยเปล่า ไม่สวมเสื้อผ้า พูดภาษาคนไม่ได้ มีอากัปกิริยาเหมือนสัตว์ป่าไม่ผิดเพี้ยน

    สื่อจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อให้เธอว่า "เมาคลีเขมร" ซึ่งนำมาจาก "เมาคลีลูกหมาป่า" นั่นเอง

    เมื่อ นายสาโย กับ นางรอชม สองผัวเมียในหมู่บ้านทราบข่าว ก็มาดูเด็กสาวเมาคลีและอ้างว่าเป็นลูกที่หายตัวไปช่วง 10 ปีก่อนขณะพาควายไปเดินในทุ่ง

    นางรอชมดูแลเมาคลีเขมรอยู่นาน 7 เดือน แต่เธอก็ยังปรับตัวให้เข้ากับสังคมมนุษย์ไม่ได้ และหายตัวไปในอีก 7 เดือนต่อมา

    โดยที่ทางการไม่มีโอกาสตรวจพิสูจน์ "ดีเอ็นเอ" ของสองผัวเมียกับสาวเมาคลี!



    มนุษย์ต้นไม้

    นายเดเด วัย 32 ปี กลายเป็น "ดารา" ประจำหมู่บ้านแสนทุรกัน ดารในเมืองซิลิลิน อินโดนีเซีย

    เพราะร่างกายผิดปกติมี "หูด" ยุ่บยั่บขึ้นกระจายลุกลามไปทั่ว มองดูคล้ายกับว่ามีต้นไม้มางอกอยู่ตามตัว

    สถานีโทรทัศน์ดิสคัฟเวอรี่ สหรัฐ สนใจส่งทีมงานเข้ามาถ่ายทำ ชีวิตนายเดเด "มนุษย์ต้นไม้" พร้อมส่ง ดร.แอนโธนี่ แกสปารี ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์มาตรวจ

    ผลวินิจฉัยเบื้องต้นพบว่า หูดตามตัวของนายเดเดเกิดจากการผสมผสานระหว่างไวรัสพาพิลโลมาที่ทำให้เกิดหูด บวกกับความผิดปกติของยีน ทำให้ภูมิคุ้มกันของคนไข้อ่อนแอเกินไปที่จะต่อสู้ได้ เชื้อจึงลุกลามไปทั่วทั้งร่าง

    ดร.แกสปารีพยายามขอนำตัวนายเดเดไปรักษาที่สหรัฐ แต่กระ ทรวงสาธารณสุขแดนอิเหนาไม่ยอม โดยอ้างว่า นายเดเดไม่เต็มใจจะเดินทางไปสหรัฐ และไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้ชาวต่างชาตินำตัวอย่างเลือดของนายเดเด ซึ่งเป็นคนอินโดเซียไปตรวจวิเคราะห์



    เทพอวตาร

    ฮือฮากันไปทั้งโลกกับข่าว ด.ญ.ลักษมี ทัตมา วัย 2 ขวบ ชาวรัฐพิหาร ประ เทศอินเดีย เกิดมามี 4 แขน 4 ขา!
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คนในหมู่บ้านร่ำลือกันว่า ด.ญ.ลักษมีคือร่างอวตารของ "พระนางลักษมี" เทพแห่งทรัพย์สมบัติ

    แต่ นายแพทย์ชรัน ปาติล ผู้นำทีมศัลยแพทย์ 30 คนในเมืองบังกาลอร์ที่ร่วมกันผ่าตัดช่วยเหลือหนูน้อย ระบุว่า สาเหตุเป็นเพราะเด็กมีอวัยวะเจริญมากกว่าปกติ

    เนื่องจากระหว่างอยู่ในครรภ์ ส่วนกระ ดูกเชิงกรานของเด็กหญิงไปเชื่อมกับอวัยวะของฝาแฝดไข่ใบเดียวกันที่ไม่เจริญเติบโตและไม่มีศีรษะ ทำให้มีแขนขาเกินด้านละ 2 ข้าง

    นอกจากนี้ ยังมีไตข้างละ 2 ข้าง มีเส้นประสาทที่พัวพันอยู่ มีโพรงกระเพาะ 2 ช่อง และโพรงปอด 2 แห่ง ทำให้เด็กเดินไม่ได้

    "การผ่าตัดต้องใช้เวลาราว 40 ชั่วโมง โอกาสที่เด็กจะเสียชีวิตอยู่ร้อยละ 20-25 ลักษณะของเด็กหญิง ซึ่งอวัยวะเชื่อมต่อกับฝาแฝดไม่พบบ่อยนัก โดยจะพบเพียง 1 ใน 200,000 คน โอกาสรอดชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 5-25" นายแพทย์ชรัน กล่าว

    อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้เวลาผ่าตัดไปทั้งสิ้น 27 ชั่วโมงและรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบ 1 เดือน

    ด.ญ.ลักษมีก็เดินทางกลับบ้านได้ ในสภาพ 2 แขน 2 ขาเหมือนคนปกติทุกประการ!



    "ไอ้เข้"หม่ำแขน

    ดูแล้วน่าจะเป็นหนึ่งในบรรดา "ภาพหวาดเสียว" ที่สุดแห่งปี 2550

    ตากล้องเอพีถ่ายภาพนาทีที่ "จระเข้" สายพันธุ์แม่น้ำไนล์ กัดแขนของ นายจาง โป่หยู เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เมืองเกาสง เกาะไต้หวัน จนขาดคาปากทั้งท่อน

    หลังเกิดเหตุจางยอมรับว่า วันนั้นต้องเข้าไปในบ่อเลี้ยงจระเข้เพราะมันป่วย แต่ดันประมาทไปหน่อย ไม่ตรวจดูให้ดีว่ายาสลบออกฤทธิ์ทำให้ไอ้เข้ยักษ์หลับไปแล้วรึยัง

    พอเอาแขนล้วงเข้าไปในปากไอ้เข้ จึงถูกงับขาดกระจุย

    รอดมาได้ ไม่โดนขย้ำตายคาบ่อ ก็ถือว่าบุญมากแล้ว!



    "อากุ้ย"แมวพูดได้

    เป็นวิดีโอคลิปที่น่ารักน่าเอ็นดูและมีคนจากทั่วโลกเปิดเข้าไปพิสูจน์ด้วยหูตัวเองผ่านเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงเว็บดังอย่าง "ยูทูบ"

    นั่นคือคลิปวิดีโอ "แมวพูดได้" ในเมืองจีนที่มีชื่อว่า "อากุ้ย" วัย 2 ปี

    นายซุน เจ้าของอากุ้ย เล่าว่า เมื่อปลายปี 2549 ขณะกำลังจับมันอาบน้ำมันก็ร้องครางดังลั่น ดิ้นรนหนีสุดชีวิต
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ตอนแรกเค้าร้อง "เมี้ยวๆๆๆ" อยู่ดีๆ แต่สักพักก็ร้องเสียงดังออกมาว่า "อากุ้ยๆๆ" และนับตั้งแต่วันนั้น เวลาพาเค้าไปอาบน้ำก็จะร้องชื่อตัวเองแบบนี้ทุกครั้ง" ซุน กล่าว

    ด้านหัวหน้าศูนย์ดูแลโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งได้รับเชิญให้มาตรวจเจ้าแมวพูดได้ตัวนี้ อธิบายว่า

    ต้นเหตุอาจเป็นเพราะอากุ้ยเกิดการจดจำชื่อของตนเองจากเจ้าของที่เรียกชื่ออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

    เมื่อได้รับแรงกระตุ้นจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น การทำให้กลัวหรือตกใจ ก็จะแสดงการตอบสนองสิ่งเร้านั้นด้วยการร้องออกมา



    หนุ่มอินเดียมีเมีย"โฮ่ง"

    นายป. เสวะกุมาร หนุ่มชาวนา วัย 34 คนรัฐทมิฬนาฑู ทางใต้ของอินเดีย ป่วยออดๆ แอดๆ หูหนวกไป 1 ข้าง แถมยังพิการเป็นอัมพาตเดินเหินไม่ค่อยถนัด

    เมื่อรักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ในที่สุดจึงตัดสินใจพึ่ง " หมอดู" ให้ช่วยหาต้นตอให้หน่อย และได้ความว่า

    "ชีวิตเจ้าต้องสาป ความป่วยไข้ล้วนเกิดจากกรรมเก่าสมัย 15 ปีที่แล้ว เจ้าทารุณกรรมเอาหินทั้งทุบทั้งปาฆ่าหมาตาย 2 ตัว วันนี้ถึงคราวต้องชดใช้บาป!"

    "วิธีถอนคำสาปเจ้าต้องแต่งงานกับหมาเพศเมียสถานเดียว แล้วดูแลมันอย่างดี!"

    หลังจากใช้เวลา 4 เดือน ครอบครัวนายป. ก็เฟ้นหา "เจ้าสาว 4 ขา" มาแต่งด้วยสำเร็จ เป็นสุนัขพันทางขนสีน้ำตาล อายุ 4 ปี

    พิธีวิวาห์จัดขึ้นอย่างถูกต้องตามประเพณีฮินดู มีแขกเหรื่อร่วมเป็นพยานรัก 200 คน

    พลันที่เสร็จสิ้นพิธีทุกคนต่างส่งเสียงไชโย-อวยพรให้ "คู่ผัวเมียต่างสายพันธุ์"

    และหวังว่านายป. จะหายป่วยโดยเร็ววัน!?!



    ผู้นำเลือดร้อน

    ทริปเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดี "นิโกลาส์ ซาร์โกซี" แห่งฝรั่งเศส ไม่สนุกดังคาด เพราะมีนักข่าวตามประกบติดไปทุกที่

    ด้วยอุปนิสัยเป็นคนใจร้อน-โผงผางอยู่แล้ว

    พอเห็นนักข่าว "เอพี" ยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพขณะท่านซาร์โกซีกับครอบครัวกำลังนั่งเรือเที่ยวชมทะเลสาบวินนิเปสซอกี้ ในรัฐนิวแฮมเชียร์ ถึงกับระเบิดอารมณ์หลุดฟอร์มผู้นำมาดนิ่ง โหวก เหวกโวยวายชี้หน้าด่านักข่าวรายนี้ไม่มียั้ง

    นี่สงสัยถ้าท่านกระโดดขึ้นฝั่งมาต่อยตะบันหน้าได้ คงทำไปแล้วกระมัง! (ฮา)



    เมียจ๋า..ผัวขอโทษ!

    ท่าน ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ แม้จะยิ่งใหญ่คับประเทศอิตาลี

    ครองตำแหน่งเป็นคนรวยที่สุดอันดับต้นๆ และมีบารมีอดีตนายกรัฐมนตรีค้ำคอ

    แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องยอม "หงอ" ก้มหัวให้ นางเวโรนิกา ลาริโอ ภรรยาสุดเลิฟ ซึ่งโมโหสุดๆ ที่ท่านแบร์ลุสโคนี่ผ่าไปสอย "นางแบบเซ็กซี่" มาทำ "กิ๊ก"

    ที่ร้ายคือเชิดชูกิ๊กคนนี้อย่างออกหน้าออกตาเกินงาม ส่งผลให้คุณเวโรนิกาโวยลั่นแฉสามีผ่านสื่อแบบไม่เกรงใจ

    ในที่สุด ท่านอดีตนายกฯ เลยต้องไปซื้อโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์แบบเต็มๆ เพื่อลงประกาศขอโทษ-กราบขออภัยเมียที่เคารพ....

    รอดตายหวุดหวิด!



    กองทัพ"กระต่าย"บุกสนามบิน!

    ช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2550 สนามบินลินาเต อันเลื่องชื่อในนครมิลาน ประเทศอิตาลี กลายเป็นอัมพาต สั่งปิดใช้งานชั่วคราววุ่นวายไปหมด

    สาเหตุไม่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องของระบบอากาศยาน สภาพดินฟ้า หรือเจ้าหน้าที่

    แต่เนื่องจากมี "กองทัพกระต่ายป่า" เกือบ 100 ตัว พากันวิ่งพล่านอยู่บนรันเวย์ ทำให้เครื่องบินขึ้นลงไม่ได้!

    เจ้าหน้าที่ลินาเต 200 กว่าคนต้องระดมกำลังเปิดฉากปฏิบัติการกวาดล้างกระต่ายป่า ล่อให้พวกมันออกมาติดตาข่ายที่ดักเอาไว้ ก่อนนำไปปล่อยในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า

    คราวนี้จะกระโดดโลดเต้น-ขยันผสมพันธุ์ผลิตลูกอีกกี่ตัวก็ตามสบาย!



    "รัก"ต่างระดับ

    คนเรารักกันทั้งที ความแตกต่างเรื่องรูปกายไม่มีผลต่อระดับความรักที่อัดแน่นล้นหัวใจ

    เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายเป่า ซื่อชุน วัย 56 ปี คนเลี้ยงสัตว์จากเขตมองโกเลียของจีน เจ้าของสถิติมนุษย์สูงที่สุดในโลก 236 เซนติเมตร ก็สมรสสมรัก มีคู่ตุนาหงันเป็นของตัวเองจนได้

    หลังจากสาว "เซี่ย ซู่ฉวน" 29 ปี ตกลงรับรักแต่งงานใช้ชีวิตร่วมหอลงโรงกับนายเป่า แม้ความสูงจะห่างกันถึง 68 เซนติเมตร

    พิธีวิวาห์ของ "คู่รักต่างระดับ" จัดขึ้นอย่างงดงามในสุสานเจงกิสข่าน เขตมองโกเลียใน มีแขกเหรื่อ 500 คน บวกกับนักข่าวจีน-ฝรั่ง ร่วมยินดีอีกร่วมๆ 100 คน
     

แชร์หน้านี้

Loading...