ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    จีนประกาศกร้าววันนี้ (8 เม.ย.) ว่าจะไม่ยอมก้มหัวให้กับพฤติกรรม "แบล็กเมล" ของสหรัฐฯ ท่ามกลางสงครามการค้าโลกที่ทวีความร้อนแรงสุดขีดหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่มีวี่แววจะยอมถอยจากคำสั่งรีดภาษีประเทศคู่ค้าทั่วโลก
    .
    ท่าทีแข็งกร้าวจากปักกิ่งมีขึ้นหลัง ทรัมป์ ออกมาขู่วานนี้ (7) ว่าจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจีนเพิ่มอีก 50% ในวันพุธ (9) หากว่าจีนไม่ยอมเพิกถอนการรีดภาษีตอบโต้สหรัฐฯ 34%
    .
    ตัวเลขดังกล่าวเมื่อรวมกับอัตราภาษี 20% ที่ ทรัมป์ บังคับใช้กับจีนไปก่อนหน้านี้ และ 34% ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะทำให้สินค้าจีนที่นำเข้าอเมริกาถูกเก็บภาษีสูงถึง 104%
    .
    "การที่สหรัฐฯ ข่มขู่จะรีดภาษีสินค้าจีนเพิ่มขึ้นถือเป็นความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเป็นอีกครั้งที่ฝ่ายอเมริกาได้แสดงให้เห็นถึงนิสัยชอบแบล็กเมล" กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในถ้อยแถลง
    .
    "หากสหรัฐฯ ยังยืนกรานที่จะใช้วิธีเช่นนี้ จีนก็จะสู้จนถึงที่สุด"
    .
    สหภาพยุโรป (อียู) ได้เสนอมาตรการขึ้นภาษีตอบโต้คำสั่งของ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายสิบประเทศทั่วโลก และทำให้ตลาดการเงินนานาชาติปันป่วนอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (recession)
    .
    ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่นักลงทุนแตกตื่นจนเกิดแรงเทขายหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทำให้บรรดาผู้นำภาคธุรกิจ ซึ่งรวมถึงบุคคลใกล้ชิด ทรัมป์ ต้องออกมาเตือนให้ผู้นำสหรัฐฯ ทบทวนนโยบาย
    .
    ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดภาคเช้าปรับตัวขึ้น 6% จากที่เคยร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่งเมื่อวานนี้ (7) หลังจากที่ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ แห่งญี่ปุ่น เห็นพ้องให้มีการเปิดเจรจาการค้า
    .
    ทรัมป์ ประกาศว่ามาตรการรีดภาษีศุลกากรขั้นต่ำ 10% จากสินค้าทุกชนิดที่นำเข้าอเมริกา และสูงสุด 50% สำหรับสินค้าจากบางประเทศ จะช่วยฟื้นฟูภาคการผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งตกต่ำซบเซามานานหลายสิบปีจากนโยบายการเปิดเสรีทางการค้า (trade liberalization)
    .
    "นี่เป็นโอกาสเดียวที่สหรัฐฯ จะสามารถรีเซ็ตทุกอย่างใหม่ เพราะไม่มีประธานาธิบดีคนไหนที่พร้อมจะทำในสิ่งที่ผมทำอยู่ หรือแม้กระทั่งคิดจะทำด้วยซ้ำ" ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาว
    .
    คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอมาตรการรีดภาษีสินค้าอเมริกันหลายประเภทในอัตรา 25% รวมถึงถั่วเหลือง ถั่วเปลือกแข็ง และไส้กรอกต่างๆ ทว่ายังคงมีสินค้าบางประเภทที่ถูกยกเว้น เช่น เบอร์เบินวิสกี้ ตามข้อมูลเอกสารที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้เห็น
    .
    เจ้าหน้าที่ยุโรประบุว่า พวกเขาพร้อมจะเจรจาข้อตกลงกับรัฐบาลทรัมป์ในรูปแบบ "ศูนย์ต่อศูนย์"
    .
    "ไม่ช้าก็เร็ว เราจะต้องนั่งลงเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกที่รับได้กันทั้ง 2 ฝ่าย" มารอส เซฟโกวิช กรรมาธิการการค้าของอียู ระบุในงานแถลงข่าว
    .
    รัฐอียู 27 ประเทศได้รับผลกระทบหนักอยู่แล้วจากคำสั่งรีดภาษีรถยนต์และโลหะที่ ทรัมป์ ประกาศไปก่อนหน้านี้ และกำลังจะถูกรีดภาษีเพิ่มกับสินค้าอื่นๆ อีก 20% ในวันพุธ (9) นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังขู่จะลงดาบรีดภาษีกับพวกสุรายาเมาที่นำเข้าจากยุโรปด้วย
    .
    นักลงทุนและผู้นำการเมืองทั่วโลกกำลังประเมินกันอยู่ว่า มาตรการทางภาษีของ ทรัมป์ จะคงอยู่แบบถาวร หรือเป็นเพียงกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อกดดันให้ประเทศคู่ค้าเข้ามาเจรจามอบผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้สหรัฐฯ มากขึ้น
    .
    เว็บไซต์ Politico รายงานว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เดินทางไปพบ ทรัมป์ ที่รัฐฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์ (6) เพื่อขอให้ผู้นำสหรัฐฯ เน้นทำข้อตกลงการค้ากับชาติหุ้นส่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ายุทธศาสตร์รีดภาษีครั้งนี้ของสหรัฐฯ จะมี "จุดจบ"
    .
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าเวลานี้มีหลายสิบประเทศทั่วโลกที่ติดต่อขอเจรจากับวอชิงตันด้วยความหวังว่าจะโน้มน้าวให้สหรัฐฯ ยกเลิกการรีดภาษีที่จะเริ่มมีผลบังคับในวันพรุ่งนี้ (9)
    .
    เจ้าหน้าที่รัฐบาล ทรัมป์ ยังชี้แจงด้วยว่า ประธานาธิบดีกำลังทำตามคำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าแบบเสรีที่เขาเชื่อว่าเป็นตัวการบ่อนทำลายความเข้มแข็งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มานานหลายทศวรรษ
    .
    "ท่านจะยกระดับมาตรการที่ท่านเชื่อว่าได้ผล และจะทำเช่นนั้นต่อไป" เควิน แฮสเซ็ตต์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับ Fox News "แต่ท่านก็พร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอของประเทศคู่ค้า และหากพวกเขาเข้ามาหาเราด้วยข้อเสนอที่ดีจริงๆ และเป็นประโยชน์ต่อภาคการผลิตและเกษตรกรอเมริกัน ผมมั่นใจว่าท่านจะรับฟัง"
    .
    บรรดาผู้นำวอลล์สตรีทได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบจากมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ โดย เจมี ไดมอน ประธาน JP Morgan Chase ชี้ว่ามันอาจส่งผลเชิงลบต่อเนื่องในระยะยาว ขณะที่ บิล แอคแมน ผู้บริหารกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่สนับสนุน ทรัมป์ ให้ลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ก็ออกมาเตือนถึง "ฤดูหนาวนิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจ" ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้
    .
    ด้าน อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลาซึ่งเข้ามาเป็นผู้นำในการตัดลดรายจ่ายภาครัฐให้กับทรัมป์ ก็เรียกร้องให้สหรัฐฯ และยุโรปใช้มาตรการเก็บภาษีเป็น "ศูนย์" และยังวิงวอนผู้นำสหรัฐฯ ให้เพิกถอนคำสั่งรีดภาษีด้วย ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์
    .
    ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ ออกมาปฏิเสธแนวคิดของ มัสก์ ในวันจันทร์ (7) พร้อมระบุว่าไม่แปลกใจที่ได้ยินข้อเสนอเช่นนี้จาก "เจ้าของโรงงานประกอบรถยนต์" (car assembler)
    .
    นักลงทุนหลายคนคาดการณ์ว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า ขณะที่ ทรัมป์ เองก็ออกมาย้ำให้เฟดลดดอกเบี้ยลงเมื่อวานนี้ (7) ทว่า เจโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ยังคงแสดงท่าทีว่า "ไม่รีบร้อน" ในเรื่องนี้
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
    https://www.facebook.com/share/p/12FditZbikr/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    สหภาพยุโรปจะต้องรับปากซื้อพลังงานสหรัฐฯ 350,000 ล้านดอลลาร์(ราว 1.2 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ได้รับการบรรเทามาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากคำกล่าวของผู้นำรายนี้ในช่วงค่ำวันจันทร์(7เม.ย.) ปฏิเสธข้อเสนอของบรัสเซลส์สำหรับเรียกเก็บภาษีเป็นศูนย์แลกกับการไม่รีดภาษีรถยนต์และสินค้าอุตสาหกรม
    ความคิดเห็นของทรัมป์ ระหว่างการแถลงข่าวในทำเนียบขาว เป็นการตอบโต้ อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เผยก่อนหน้านี้ในวันดียวกัน ว่าอียูเสนอปรับลดเพดานภาษีที่ทางกลุ่มจัดเก็บกับรถยนต์และอุตสาหกรรมนำเข้าจากสหรัฐฯเหลือ 0% ถ้า ทรัมป์ ยอมถอนมาตรการรีดภาษีเป็นการแลกเปลี่ยน
    เมื่อถูกผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถามว่าข้อเสนอดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้เขายอมถอยหรือไม่ ทรัมป์ บอกว่า "ไม่ ไมเพียงพอ" ประธานาธิบดีสหรัฐฯระบุ "เราขาดดุลการค้าสหภาพยุโรป 350,000 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในหนทางที่มันจะสามารถหายวับไปอย่างง่ายดายและอย่างรวดเร็ว ก็คือการที่พวกเขาต้องซื้อพลังงานจากเรา พวกเขาสามารถซื้อมันได้ และเราสามารถทำให้การขาดดุลการค้า 350,000 ล้านดอลลาร์ หายไปใน 1 สัปดาห์ จากคำมั่นสัญญาในการซื้อพลังงานในปริมาณพอๆกัน"
    ข้อเสนอของ ฟ็อน แดร์ ไลเอิน มีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ รีดภาษีอียู 20% และปรับขึ้นเพดานภาษีขั้นต่ำ 10% กับคู่หูการค้าอื่นๆ ความเคลื่อนไหวที่ทำตลาดการเงินทั่วโลกสูญเสียมูลค่าไปหลายล้านล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงตลาดหุ้นยุโรป ที่ในวันจันทร์(7เม.ย.) ร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตังแต่ช่วงเริ่มต้นของโรคระบาดใหญ่โควิด-19
    คำแถลงนี้มีขึ้นในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในวันจันทร์(7เม.ย.) เคียงข้างนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ซึ่งเดินทางมาเยือนวอชิงตัน เพื่อเจรจากับทรัมป์ และหาทางปลดเปลื้องมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ
    ในคำแถลงหลังการประชุม ประธานาธิบดีสหรัฐฯเน้นย้ำเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเขาที่มีต่ออียู แต่บ่งชี้ว่าเขาพร้อมเจรจาทำข้อตกลงกับทางกลุ่ม ตราบใดที่อียูรับปากว่าจะทำให้ตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯลดน้อยลงจนอยู่ในระดับพอๆกัน ด้วยการซื้อพลังงานของอเมริกาเพิ่มเติม
    แนวคิดซื้อพลังงานของสหรัฐฯ ในความพยายามขจัดมาตรการรีดภาษีไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยแทบจะทันทีที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย ฟ็อน แดร์ ไลเอิน บ่งชี้ถึงการเปิดเจรจาเพื่อซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) จากสหรัฐฯเพิ่มเติม แต่เว็บไซต์โพลิติโก สื่อมวลชนอเมริกา รายงานว่าจากท่าทีตอบสนองของสหรัฐฯ ไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงนี้จะได้ผลหรือไม่
    ในวันจันทร์(7เม.ย.) เมื่อถามว่ามาตรการรีดภาษีทั่วโลกของเขา เป็นเพียงกลยุทธ์เจรจาแบบขู่บังคับหรือเป็นมาตรการถาวร ทางทรัมป์ตอบว่า "มันอาจเป็นการรีดภาษีถาวร และอาจเป็นการเจรจาต่อรองด้วยเช่นกัน เพราะว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราจำเป็นต้องดำเนินการมากกว่าการรีดภาษี ถ้าเราสามารถทำข้อตกลงที่ยุติธรรมอย่างแท้จริง และเป็นข้อตกลงที่ดีกับสหรัฐฯ ไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีสำหรับคนอื่น นี่คืออเมริกาต้องมาก่อน ตอนนี้คืออเมริกาต้องมาก่อน"
    (ที่มา:โพลิติโก)
    https://www.facebook.com/share/p/16ePJbagpL/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    งานเข้า! ต่างประเทศสหรัฐฯยุคทรัมป์มาดุ จ้องเล่นงาน “ซูดานใต้” ยกเลิกวีซ่าหมดทุกคนไม่มีเว้น กระทบดาราดังทีมบาสเก็ตบอลม. DUKE จ่อโดนเนรเทศกลับ
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ - กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯแถลงวันเสาร์(5 เม.ย) ประกาศชัดเจนสั่งยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของซูดานใต้มีผลทันที กระทบ Khaman Maluach ดารานักบาสเก็ตบอลทีมมหาวิทยาลัย DUKE เจ้าของความสูง 7 ฟุต 2 นิ้วมีสิทธิ์โดนเนรเทศกลับซูดานใต้
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์(6 เม.ย)ว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯของทรัมป์แถลงวันเสาร์(5) อ้าง อเมริกาโดนเอาเปรียบจากฝีมือของ “ซูดานใต้” อ้างล้มเหลวร่วมมือกับสหรัฐฯในการรับตัวพลเมืองกลับคืนประเทศ
    .
    กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯสั่งยกเลิกวีซ่าที่ออกให้ชาวซูดานใต้ทุกคน และจะห้ามพลเมืองซูดานใต้ไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐฯ
    .
    “ทุกประเทศต้องยอมรับการกลับคืนของพลเมืองตัวเองอย่างรวดเร็มเมื่อประเทศอื่น รวมถึง สหรัฐฯ ต้องการที่จะส่งตัวคนเหล่านั้นกลับ”
    .
    ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คริสโตเฟอร์ แลนเดา (Christopher Landau) กล่าวเปิดเผยว่า ความขัดแย้งเกี่ยวข้องกับพลเมืองซูดานคนหนึ่งและอ้างว่า ความพยายามทางการทูตในเรื่องนี้กับรัฐบาลซูดานใต้ถูกปฎิเสธ
    .
    “การนัดหมายวีซ่าทั้งหมดถูกยกเลิก จะไม่มีการออกวีซ่าใหม่ออกมา” พร้อมกล่าวว่า จะไม่มีใครจากซูดานใต้สามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯจนกว่าจะมีการแก้ไขในความขัดแย้ง
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ เปิดเผยว่า วอชิงตันพร้อมที่จะทบทวนมาตรการเหล่านี้เมื่อซูดานใต้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
    .
    ทั้งนี้กระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯเปิดเผยว่า มีพลเมืองซูดานใต้ 133 คนที่ได้รับการปกป้องอย่างเป็นทางการชั่วคราวในสมัยอดีตรัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา และโครงการได้รับการต่ออายุมาในสมัยอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน แต่จะหมดอายุลงในเดือนหน้า
    .
    CNN ของสหรัฐฯรายงานวันจันทร์(6)ว่า คำสั่งของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า น่าจะกระทบ Khaman Maluachดารานักบาสเก็ตบอลทีมมหาวิทยาลัย DUKE ที่เพิ่งเสร็จสิ้นการศึกษาปีแรกที่นี่
    .
    ทั้งนี้ Maluach เจ้าของความสูง 7 ฟุต 2 นิ้วเป็นผู้เล่นตัวกลางเซ็นเตอร์ และได้เล่นไม่ต่ำกว่า 800 นาทีให้กับมหาวิทยาลัย DUKE ในฤดูกาลนี้
    .
    ซึ่งทางมหาวิทยาลัย DUKE ได้แถลงว่า ทางมหาวิทยาลัยนั้นตระหนักต่อการประกาศของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเกี่ยวข้องผู้ถือหนังสือเดินทางซูดานใต้ และชี้แจงว่ากำลังศึกษาสถานการณ์และจะทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าใจต่อผลกระทบต่อนักศึกษามหาวิทยาลัย DUKE
    https://www.facebook.com/share/p/156Snkqb3m/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันจันทร์(7เม.ย.) เรียกร้องประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "ยืนหยัดร่วมกัน" หลังจากเหล่าชาติสมาชิกอาเซียนเป็นหนึ่้งในบรรดาชาติที่ถูกสหรัฐฯสั่งรีดภาษีหนักหน่วงที่สุด
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำหนดมาตรการรีดภาษีอย่างกว้างขวางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน ความเคลื่อนไหวที่สั่นสะเทือนตลาดหุ้น และก่อความวิตกกังวลแก่รัฐบาลต่างๆทั่วโลก
    "เราต้องยืนหยัดร่วมกันในฐานะอาเซียน ด้วยประชากร 640 ล้านคนและมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในลำดับต้นๆของโลก" อันวาร์ กล่าวระหว่างประชุมร่วมกับบรรดาเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบนายกรัฐมนตรี พร้อมเผยว่าบรรดารัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนจะประชุมกันในวันพฤหัสบดี(10เม.ย.) เพื่อหารือกันเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ
    อันวาร์บอกว่าหน้าที่ของรัฐบาลของเขาคือ "ติดต่อไปยังเพื่อนๆของเราในอาเซียน เพื่อแต่ละประเทศจะสามารถเน้นย้ำจุดยืน แต่ขณะเดียวกัน เราก็จะเคลื่อนไหวไปด้วยกันเป็นกลุ่ม" ทั้งนี้ มาเลเซีย ดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของ 10 ชาติสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในปีนี้
    หนึ่งในศูนย์กลางการผลิตอย่างเวียดนาม เจอรีดภาษี 46% สำหรับสินค้าที่พวกเขาส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่วนชาติเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ผู้ผลิตหลักเสื้อผ้าต้นทุนต่ำสำหรับแบรนด์ดังทั้งหลายของตะวันตก ถูกรีดภาษี 49%
    มาเลเซีย ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของอาเซียน โดนรีดภาษีต่ำกว่าที่ 24% ในขณะที่ ไทย โดนไป 36%
    เหมือนกับชาติสมาชิกอื่นๆในอาเซียน มาเลเซียบอกว่าพวกเขาจะไม่ดำเนินการตอบโต้ใดๆเล่นงานสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ และปฏิเสธคำกล่าวอ้างของวอชิงตัน ที่บอกว่ามาเลเซียกำหนดเพดานภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 47%
    "ผมคิดว่าการอ้างความผิดของคนอื่น ไม่ได้ทำให้การทำผิดของเราถูกต้องขึ้น" รัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียกล่าวในถ้อยแถลง "มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องยังคงอยู่ในความสงบ เพราะว่าสิ่งต่างๆที่เป็นผลลัพธ์จากสงครามการค้า มันจะไม่เป็นประโยชน์ใดๆกับเศรษฐกิจโลก"
    (ที่มา:เอเอฟพี)
    https://www.facebook.com/share/p/14hkJUs7db/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    ฮุน มาเนต แจงรัฐบาลทำงานหนักพร้อมแก้ปัญหาภาษีสหรัฐฯ ไม่ได้นิ่งเฉยอย่างที่ฝ่ายค้านวิจารณ์
    .
    .
    MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ตอบโต้คำวิจารณ์ที่ระบุว่ารัฐบาลนิ่งเฉยต่อการประกาศของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีตอบโต้กับกัมพูชา โดยระบุว่ารัฐบาลกำลังทำงานอย่างแข็งขันอยู่เบื้องหลังเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
    .
    ผู้นำกัมพูชาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของกลุ่มฝ่ายค้านที่ระบุว่ารัฐบาลไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ โดยอธิบายว่ารัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นแล้ว
    .
    ความคิดเห็นของฮุน มาเนต เกิดขึ้นหลังจากอดีตผู้นำฝ่ายค้าน สม รังสี และมู สุจัว ได้ออกมาวิจารณ์ว่า ฮุน มาเนต ควรเป็นผู้นำการเจรจากับสหรัฐฯ มากกว่าที่จะตอบสนองอย่างเชื่องช้า โดยทั้งสองได้เน้นย้ำว่าจำเป็นต้องดำเนินการในทันที
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากกัมพูชาในอัตรา 49% เพื่อตอบโต้ที่กัมพูชาเกินดุลการค้า 97% เมื่อเทียบกับที่กัมพูชานำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ
    .
    ฮุน มาเนต ได้ชี้แจงว่าสหรัฐฯ ได้กำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้กับสินค้านำเข้าจาก 180 ประเทศ ไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีจากประเทศอื่นๆ กำลังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีต่างๆ
    .
    สำหรับกัมพูชา รัฐบาลกำลังหาทางแก้ไขเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและสวัสดิการของชาวกัมพูชา
    .
    ฮุน มาเนต ตอบโต้ฝ่ายค้านในต่างประเทศโดยระบุว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยตามที่ถูกกล่าวหา รัฐบาลกำลังทำงานอยู่เบื้องหลัง และคณะกรรมการด้านนโยบายได้ประเมินสถานการณ์ต่างๆ โดยเขาอธิบายว่าพวกเขาเพียงแค่รอการยืนยันก่อนที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม
    .
    เขากล่าวเสริมว่า “41 ชั่วโมงหลังจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษี ผมได้ตอบกลับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผ่านทางจดหมายโดยขอให้มีการเจรจาเรื่องภาษีระหว่างสองประเทศ”
    .
    ฮุน มาเนต กล่าวว่าเขาได้ทำงานอย่างเงียบๆ เป็นเวลา 37 ชั่วโมงอยู่เบื้องหลัง ก่อนจะมอบความรับผิดชอบให้กับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์
    .
    เกี่ยวกับการเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐฯ ฮุน มาเนต อธิบายว่าขั้นตอนแรกของกัมพูชาคือการลดภาษีสินค้า 19 รายการที่ครอบคลุมสินค้าสหรัฐฯ 85 ชนิด จาก 35% เหลือ 5% และเมื่อสหรัฐฯ เปิดการเจรจา เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะเดินทางไปสหรัฐฯ ทันทีเพื่อหารือเพิ่มเติม เขาอธิบายว่านี่เป็นแนวทางที่รับผิดชอบในการลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด เนื่องจากสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของกัมพูชา
    .
    นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ตอบโต้อย่างเร่งรีบตามคำเรียกร้องของกลุ่มฝ่ายค้าน โดยเขาย้ำว่ารัฐบาลมีนโยบายและกลยุทธ์ที่ชัดเจน
    .
    เขาระบุว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ เนื่องจากฝ่ายค้านที่นำโดย สม รังสี พยายามหลอกลวงและทำให้ประชาชนสับสนในเรื่องต่างๆ อยู่เป็นประจำ รวมถึงประเด็นภาษีสหรัฐฯ
    .
    เขากล่าวว่า “ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ผมมีความรับผิดชอบเช่นเดียวกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการดำเนินการเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติและสวัสดิการของประชาชน”
    .
    ฮุน มาเนต เสริมว่าประเทศอื่นๆ ทั้งฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลมักจะร่วมกันเรียกร้องให้มีการเจรจาเมื่อเผชิญกับความท้าทายดังกล่าว แต่ในกัมพูชา กลุ่มฝ่ายค้านในต่างประเทศไม่เพียงล้มเหลวที่จะช่วยเหลือประเทศในช่วงเวลาที่ยากลำบากเท่านั้น แต่ยังโจมตีรัฐบาลและทำให้ประชาชนเข้าในผิด
    .
    เขาเสริมว่าถ้าฝ่ายค้านห่วงใยประชาชนอย่างแท้จริง พวกเขาควรออกข้อความหรือดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพลเมืองที่กำลังทุกข์ยาก มากกว่าที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
    .
    ฮุน มาเนต ระบุว่า สม รังสี ขาดความรู้ด้านนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน โดยระบุว่าเขาอาศัยการใช้เอไอเขียนข้อเสนอนโนบายแทนการใช้ความเข้าใจของเขาเอง.
    https://www.facebook.com/share/p/1YVX7hUxab/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    สหภาพยุโรปจะต้องรับปากซื้อพลังงานสหรัฐฯ 350,000 ล้านดอลลาร์(ราว 1.2 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ได้รับการบรรเทามาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากคำกล่าวของผู้นำรายนี้ในช่วงค่ำวันจันทร์(7เม.ย.) ปฏิเสธข้อเสนอของบรัสเซลส์สำหรับเรียกเก็บภาษีเป็นศูนย์แลกกับการไม่รีดภาษีรถยนต์และสินค้าอุตสาหกรม
    ความคิดเห็นของทรัมป์ ระหว่างการแถลงข่าวในทำเนียบขาว เป็นการตอบโต้ อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เผยก่อนหน้านี้ในวันดียวกัน ว่าอียูเสนอปรับลดเพดานภาษีที่ทางกลุ่มจัดเก็บกับรถยนต์และอุตสาหกรรมนำเข้าจากสหรัฐฯเหลือ 0% ถ้า ทรัมป์ ยอมถอนมาตรการรีดภาษีเป็นการแลกเปลี่ยน
    เมื่อถูกผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถามว่าข้อเสนอดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้เขายอมถอยหรือไม่ ทรัมป์ บอกว่า "ไม่ ไมเพียงพอ" ประธานาธิบดีสหรัฐฯระบุ "เราขาดดุลการค้าสหภาพยุโรป 350,000 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในหนทางที่มันจะสามารถหายวับไปอย่างง่ายดายและอย่างรวดเร็ว ก็คือการที่พวกเขาต้องซื้อพลังงานจากเรา พวกเขาสามารถซื้อมันได้ และเราสามารถทำให้การขาดดุลการค้า 350,000 ล้านดอลลาร์ หายไปใน 1 สัปดาห์ จากคำมั่นสัญญาในการซื้อพลังงานในปริมาณพอๆกัน"
    ข้อเสนอของ ฟ็อน แดร์ ไลเอิน มีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ รีดภาษีอียู 20% และปรับขึ้นเพดานภาษีขั้นต่ำ 10% กับคู่หูการค้าอื่นๆ ความเคลื่อนไหวที่ทำตลาดการเงินทั่วโลกสูญเสียมูลค่าไปหลายล้านล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงตลาดหุ้นยุโรป ที่ในวันจันทร์(7เม.ย.) ร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตังแต่ช่วงเริ่มต้นของโรคระบาดใหญ่โควิด-19
    คำแถลงนี้มีขึ้นในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในวันจันทร์(7เม.ย.) เคียงข้างนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ซึ่งเดินทางมาเยือนวอชิงตัน เพื่อเจรจากับทรัมป์ และหาทางปลดเปลื้องมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ
    ในคำแถลงหลังการประชุม ประธานาธิบดีสหรัฐฯเน้นย้ำเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเขาที่มีต่ออียู แต่บ่งชี้ว่าเขาพร้อมเจรจาทำข้อตกลงกับทางกลุ่ม ตราบใดที่อียูรับปากว่าจะทำให้ตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯลดน้อยลงจนอยู่ในระดับพอๆกัน ด้วยการซื้อพลังงานของอเมริกาเพิ่มเติม
    แนวคิดซื้อพลังงานของสหรัฐฯ ในความพยายามขจัดมาตรการรีดภาษีไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยแทบจะทันทีที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย ฟ็อน แดร์ ไลเอิน บ่งชี้ถึงการเปิดเจรจาเพื่อซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) จากสหรัฐฯเพิ่มเติม แต่เว็บไซต์โพลิติโก สื่อมวลชนอเมริกา รายงานว่าจากท่าทีตอบสนองของสหรัฐฯ ไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงนี้จะได้ผลหรือไม่
    ในวันจันทร์(7เม.ย.) เมื่อถามว่ามาตรการรีดภาษีทั่วโลกของเขา เป็นเพียงกลยุทธ์เจรจาแบบขู่บังคับหรือเป็นมาตรการถาวร ทางทรัมป์ตอบว่า "มันอาจเป็นการรีดภาษีถาวร และอาจเป็นการเจรจาต่อรองด้วยเช่นกัน เพราะว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราจำเป็นต้องดำเนินการมากกว่าการรีดภาษี ถ้าเราสามารถทำข้อตกลงที่ยุติธรรมอย่างแท้จริง และเป็นข้อตกลงที่ดีกับสหรัฐฯ ไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีสำหรับคนอื่น นี่คืออเมริกาต้องมาก่อน ตอนนี้คืออเมริกาต้องมาก่อน"
    (ที่มา:โพลิติโก)
    https://www.facebook.com/share/p/16ePJbagpL/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    ด่วน! ปธน.ทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีต่างตอบแทนเพิ่มขึ้น 50% รวมเป็น 104% กับสินค้าจีนมีผล 9 เม.ย. และเตรียมประกาศเก็บภาษีนำเข้าเวชภัณฑ์จากทั่วโลก ชี้จีนจงใจปล่อยเงินหยวนร่วงมาชดเชยถูกเก็บภาษี BTimes
    https://www.facebook.com/share/p/15hY92gFkE/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    Apr 9, 2025 ด่วน! ทำเนียบขาว สหรัฐ แถลง อัตราภาษีนำเข้าเพิ่มเป็น 104% กับสินค้าจีนมีผลวันนี้ 8 เม.ย. และเริ่มเก็บภาษีตั้งแต่ 9 เม.ย. เหตุจีนไม่ถอนภาษีตอบโต้ 34% กับสหรัฐ

    นางแคโรไลน์ ลีวิทท์ โฆษกทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เปิดแถลงว่า อัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ให้เก็บเพิ่มขึ้นอีก 50% กับสินค้าจากประเทศจีน รวมอัตราภาษีดังกล่าวเป็น 104% มีผลบังคับใช้วันนี้ 8 เมษายน 2025 ตามเวลาของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยจะเริ่มเก็บรายได้จากอัตราภาษีดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่ยกเลิกมาตรการเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราเพิ่มขึ้น 34% กับสินค้าสหรัฐอเมริกาตามระยะเวลาที่ประธานาธิบดีสหรัฐกำหนดไว้ภายในวันที่ 8 เมษายน 2025 ตามเวลาสหรัฐ

    ก่อนหน้าที่ทำเนียบขาว สหรัฐ จะเปิดการแถลงในเรื่องดังกล่าวไม่กี่นาทีนั้น ฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งเป็นสำนักข่าว และสถานีโทรทัศน์ชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการรายงานข่าวด่วนว่า ทำเนียบขาวสหรัฐ เตรียมจะแถลงมาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับจีนด้วยการเก็บภาษีดังกล่าวขึ้นอีก 50% โดยมีผลบังคับใช้วันนี้ 8 เมษายนตั้งแต่เวลาเที่ยงตรงเป็นต้นไป ส่งผลให้อัตราภาษีดังกล่าวรวมเป็น 104% กับจีน

    ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ 7 เมษายน 2025 ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความว่า เมื่อวานนี้ จีนประกาศเก็บภาษีตอบโต้ 34% เพื่มสูงขึ้นจากอัตราภาษีนำเข้าที่สูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว ภาษีที่ไม่อยู่ในรูปแบบเม็ดเงิน การอุดหนุนบริษัทที่ผิดกฎหมาย และการครอบงำค่าเงินมาเป็นระยะยาวนาน ถึงแม้ว่า ผมจะเตือนว่าประเทศใด ๆ ก็ตามที่ตอบโต้สหรัฐด้วยการประกาศบังคับใช้ภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นเหนือ และเกินกว่าการใช้ภาษีนำเข้าในระยะยาวที่ใช้อยู่แล้วมาทำให้สหรัฐเสียหายนั้น ประเทศเหล่านั้นต้องเจอกับอัตราภาษีนำเข้าใหม่และมีอัตราเก็บสูงขึ้นมากมาย ซึ่งจะสูงกว่าและเกินกว่าที่ประกาศใช้ในครั้งแรก

    ดังนั้น หากจีนไม่ถอนการเก็บภาษีนำเข้าสูงขึ้นอีก 34% ซึ่งเก็บเพิ่มขึ้นจากการใช้อัตราภาษีที่สูงอยู่แล้วมาเป็นเวลายาวนาน ภายในวันพรุ่งนี้ 8 เมษายน 2025 สหรัฐอเมริกาจะบังคับใช้การเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้นอีก 50% กับจีน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025 เป็นต้นไป นอกจากนี้ การเจรจาทั้งหมดกับจีนที่เกี่ยวข้องกับการร้องขอกับสหรัฐจะถูกยกเลิก! การเจรจากับประเทศอื่น ๆ ซึ่งได้ร้องขอให้มีการประชุมด้วยนั้น จะเริ่มต้นขึ้นทันที ขอบคุณที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้!

    #สงครามภาษี #สงครามการค้า #ภาษีต่างตอบแทน #ภาษีนำเข้า #ทรัมป์ #BTimes #เศรษฐกิจ #จีน #สหรัฐ

    https://www.facebook.com/share/p/1BVhvYxp8G/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    "จีน" อาจกำลังเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นจำนวนมาก เพื่อพยายามดันได้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐสูงขึ้น
    เช้านี้ถึงแม้ตลาดหุ้นจะโดนเทขายหนัก แต่ Bond Yield สหรัฐ ดีดตัวกลับขึ้นไปสูงถึง 4.35% แล้ว

    FB_IMG_1744166356291.jpg

    https://www.facebook.com/share/18kcuG21t5/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    "ทรัมป์" ประกาศว่า
    นโยบายภาษีของเขา ทำให้สหรัฐกำลังจะมีรายได้จากภาษีนำเข้ามากถึง "2 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน" หรือราว "7 หมื่นล้านบาทต่อวัน"

    FB_IMG_1744166492571.jpg

    https://www.facebook.com/share/p/15yz3Jj68F/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    “ภาษีศุลกากรทรัมป์” ยังคงตามเขย่าตลาดการเงินทั่วโลกในวันจันทร์ (7 เม.ย.) ต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ประมุขสหรัฐฯแสดงท่าทียืนกรานแข็งกร้าวว่าแผนการสะท้านเศรษฐกิจโลกของตนนั้นถูกต้องและได้ผล รวมทั้งขู่ว่าต่างชาติจะต้องยอมจ่าย “มโหฬาร” หากจะให้อเมริกายกเลิกมาตรการภาษีซึ่งตัวเขาเองบอกว่าเป็น “ยา” เพื่อแก้ปัญหา ทางด้านจีนเรียกร้องนานาชาติร่วมกันต่อต้านมาตรการภาษีของวอชิงตัน ชี้เป็นการดำเนินการฝ่ายเดียว กีดกันการค้า และข่มเหงรังแกทางเศรษฐกิจ เพื่อสนองประโยชน์ของตัวเองและผลักภาระให้ประเทศอื่น
    .
    ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (6 เม.ย.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง แอร์ฟอร์ซ วัน เพื่อเดินทางจากฟลอริดากลับสู่ทำเนียบขาว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของอเมริกา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่กังวลที่เงินหลายล้านล้านดอลลาร์ ไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก “เพราะบางครั้งคุณก็ต้องใช้ยาเพื่อแก้ปัญหาบางอย่าง”
    .
    ทั้งนี้ ตลาดหุ้นพากันร่วงอย่างรุนแรงในการซื้อขายวันพฤหัสบดี (3) และวันศุกร์ (4) สืบเนื่องจากความหวาดผวาว่า มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรอย่างแรงเอากับประเทศคู่ค้าแทบทุกรายทั่วโลกที่เขาประกาศออกมาตอนเย็นวันพุธ (2) จะทำให้เกิดสงครามการค้าบานปลายในระดับทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อพุ่งพรวด และเศรษฐกิจพากันถดถอยทั่วพื้นพิภพ
    .
    ผู้นำสหรัฐฯยังโวว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับผู้นำหลายประเทศทั้งจากยุโรปและเอเชีย ซึ่งต่างหวังจะโน้มน้าวให้ตนลดภาษีศุลกากรตอบโต้ ที่ใช้กับประเทศของพวกเขา โดยที่ทรัมป์ยืนยันว่า จะไม่มีการตกลงเรื่องดังกล่าวเว้นแต่ประเทศเหล่านั้นยอมจ่ายเงินจำนวนมากให้อเมริกาทุกปี มาตรการ“ภาษีศุลกากรทรัมป์”นี้ ขยักแรกซึ่งเป็นการขึ้นเอากับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศแทบทั้งหมดในอัตรา 10% รวดนั้น มีผลบังคับตั้งแต่วันเสาร์ (5) ขณะที่การเก็บในอัตราสูงกว่านั้นจากหลายสิบประเทศลดหลั่นกันไป เช่น จีน 34% และสหภาพยุโรป 20 % นั้น จะมีผลบังคับใช้วันพุธ (9 เม.ย.) นี้
    .
    มาตรการภาษีของทรัมป์ถูกประณามจากนานาประเทศ โดยที่จีนได้ประกาศตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีเอากับสินค้าอเมริกันนำเข้าในอัตรา 34% เท่ากัน มีผลบังคับใช้วันพฤหัสฯ (10 ) ซึ่ง หลิง จี้ รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์จีน ระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า เพื่อดึงสติให้อเมริกากลับสู่ระบบการค้าพหุภาคี และสำทับว่า ต้นตอปัญหาที่แท้จริงคืออเมริกาเอง
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามวาระปกติ โจมตี“ภาษีศุลกากรทรัมป์”อีกคำรบว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามอำเภอใจฝ่ายเดียว กีดกันการค้า และเป็นการข่มเหงรังแกทางเศรษฐกิจ เพื่อสนองประโยชน์ของตนเองและผลักภาระให้ประเทศอื่น
    .
    โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมกันคัดค้านการดำเนินการของอเมริกา รวมทั้งปกป้องระบบการค้าพหุภาคีตามค่านิยมของสหประชาชาติและองค์การการค้าโลก
    .
    ท่าทียืนกรานท้าทายไม่มีผ่อนปรนของทรัมป์ บวกกับการประกาศตอบโต้ของจีน กลายเป็นปัจจัยหลักซึ่งทำให้ราคาหุ้นในการซื้อขายวันจันทร์ (7) ของตลาดแถบเอเชียพากันไหลรูดต่อ
    .
    นายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดในเอเชียของวอชิงตัน แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ว่า กำลังพยายามทำข้อตกลงกับทรัมป์ แต่อาจต้องใช้เวลา
    .
    ทว่าดูเหมือนนักลงทุนรอไม่ไหว ดัชนีนิกเกอิในตลาดโตเกียววันจันทร์ดิ่งลง 7.8% ต่ำที่สุดในรอบ 1 ปีครึ่ง นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร
    .
    แม้แต่ตลาดหุ้นจีนที่ปกติแล้วจะไม่เคลื่อนไหวตามกระแสโลก กลับปรากฏว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงไป 7.3% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงตก 13.2% และดัชนีไทเอ็กซ์ของตลาดหุ้นไต้หวันดิ่ง 9.7%
    .
    ราคาน้ำมันในตลาดโลกรูดต่อเช่นเดียวกัน โดยราคาน้ำมันในตลาดนิวยอร์กขยับลง 2.03% อยู่ที่ 59.96 ดอลลาร์ และน้ำมันดิบชนิดเบรนท์ในตลาดลอนดอนลดลงเท่ากัน อยู่ที่ 63.55 ดอลลาร์
    .
    ด้านตลาดหุ้นยุโรปดิ่งตามเอเชียตั้งแต่เปิดการซื้อขายในวันจันทร์ ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์กก็พากันร่วงต่อเช่นกัน หลังจากทั้งดัชนีเอสแอนด์พี 500, ดาวโจนส์ และแนสแด็กตกยกเซ็ตเมื่อวันศุกร์ (4) และกลายเป็นวิกฤตการณ์เลวร้ายที่สุดในตลาดนิวยอร์กนับจากช่วงโควิดระบาด
    .
    ในยุโรปนั้น พวกรัฐมนตรีสหภาพยุโรป ที่ยังเถียงกันไม่จบว่า จะรับมือภาษีศุลกากรของทรัมป์อย่างไรโดยไม่ทำให้บริษัทและผู้บริโภคยุโรปเจ็บหนักกว่าเดิมนั้น นัดประชุมเพื่อหาแนวทางร่วมกันในวันจันทร์
    .
    ส่วนที่อเมริกา ธนาคารเพื่อการลงทุนรายบิ๊ก โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มแนวโน้มที่อเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 12 เดือนเป็น 45% ขณะที่ แบงก์ยักษ์ใหญ่ เจพี มอร์แกนประเมินว่า ภาษีศุลกากรจะทำให้อัตราเติบโตของสหรัฐฯ ติดลบ 0.3% จากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะขยายตัว 1.3%
    .
    บิลล์ แอคแมน มหาเศรษฐีและผู้จัดการกองทุนที่เคยรับรองการลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีของทรัมป์ ออกมาเรียกร้องทรัมป์ให้พักมาตรการภาษีศุลกากรเพื่อหลีกเลี่ยง “ฤดูหนาวนิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจ” พร้อมเตือนว่า ทรัมป์กำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในหมู่ผู้นำธุรกิจทั่วโลก
    .
    ขณะเดียวกัน ทั้งนักลงทุนและผู้นำทางการเมืองกำลังคิดหนักว่า ภาษีศุลกากรของทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของระบบการค้าถาวรใหม่ หรือเป็นแค่กลยุทธ์การต่อรองเพื่อเอาชนะประเทศอื่นๆ
    .
    ทางด้านที่ปรึกษาเศรษฐกิจสำคัญของทรัมป์พร้อมใจออกทีวีเพื่อตอกย้ำว่า มาตรการภาษีเป็นการปรับเปลี่ยนจุดยืนของอเมริกาในระเบียบการค้าโลก
    .
    เริ่มจากสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง ที่อวดว่า กว่า 50 ประเทศเริ่มต้นเจรจากับอเมริกานับจากที่ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ บอกว่า ภาษีศุลกากรจะบังคับใช้ “อีกหลายวันและหลายสัปดาห์”
    .
    ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาว ย้ำคำพูดของทรัมป์ก่อนหน้านี้ว่า นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก เนื่องจากแนวทางด้านการค้าของคณะบริหารสหรัฐฯ จะส่งให้ตลาดหุ้นเฟื่องฟูที่สุดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นก่อน
    .
    (ที่มา: รอยเตอร์/เอพี/เอเอฟพี)
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://mgronline.com/around/detail/9680000033220
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/1FJbBn6GqP/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    Apr 9, 2025 พังยับเยิน! ตลาดหุ้นสหรัฐพังกว่า 200 ล้านล้านบาทหรือเกือบ 6 ล้านล้านดอลลาร์ใน 4 วันทำการ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ดิ่ง 4 วันติดเสียหายมากสุดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งและใช้ดัชนีหุ้นนี้มาเกือบ 70 ปี ในแง่เปอร์เซ็นต์ ดิ่งแรงรวมกว่า -12% ตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19

    ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ซึ่งเป็นดัชนีที่จดทะเบียนบริษัทที่มีขนาดใหญ่ 500 อันดับแรกของประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ปิดที่ระดับ 4,982 จุด -79 จุด หรือ -1.57% ทำให้ ดัชนีหุ้นดังกล่าวปิดระดับ 5,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบปีนี้

    นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ดัชนีหุ้นดังกล่าวปิดดำดิ่งลงเหวถึง 4 วันติดกัน -686 จุด ไม่เพียงทำให้มูลค่าตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐเสียหายใน 4 วันทำการติดกันรวมกันถึง 5.83 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 201.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังทำสถิติความเสียหายของดัชนีหุ้นดังกล่าวปิดดำดิ่งลงเหวถึง 4 วันติดกันนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งและใช้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ในเดือนมีนาคมปี 1957 หรือในรอบ 68 ปีผ่านมา

    ที่สำคัญ ในแง่เปอร์เซ็นต์ของดัชนีหุ้นดังกล่าวดำดิ่งลงนั้น ปรากฏว่า ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ดำดิ่งอย่างรุนแรงใน 4 วันทำการติดต่อกันรวมกว่า -12% นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทนหรือ Reciprocal Tariffs ตั้งแต่เมื่อช่วง 4 วันที่ผ่านมา นั่นหมายถึงทำสถิติส่วนต่างดัชนีในแง่เปอร์เซ็นต์ทรุดหนักรุนแรงในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา

    ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดในคืนผ่านมาที่ระดับ 4,982 จุด ทำให้กำลังเข้าใกล้สู่ภาวะตลาดหมี หรือ Bear Market เนื่องจากดัชนีดำดิ่งสะสมรวมมาถึง -19% เมื่อเทียบกับค่าดัชนีดังกล่าวที่ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในช่วงที่ผ่านมา

    สาเหตุจากนางแคโรไลน์ ลีวิทท์ โฆษกทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เปิดแถลงว่า อัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ให้เก็บเพิ่มขึ้นอีก 50% กับสินค้าทุกชนิดจากประเทศจีน รวมอัตราภาษีดังกล่าวเป็น 104% มีผลบังคับใช้วันนี้ 8 เมษายน 2025 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ตามเวลาของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยจะเริ่มเก็บรายได้จากอัตราภาษีดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่ยกเลิกมาตรการเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราเพิ่มขึ้น 34% กับสินค้าสหรัฐอเมริกาตามระยะเวลาที่ประธานาธิบดีสหรัฐกำหนดไว้ภายในวันที่ 8 เมษายน 2025 ตามเวลาสหรัฐ

    ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,645 จุด -320 จุด หรือ -0.84% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,982 จุด -79 จุด หรือ -1.57% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 15,267 จุด -335 จุด หรือ -2.15% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 2 แห่ง ปิดดำดิ่งลงเหวถึง 4 วันติดกันรวม -4,579 จุด และ -686 จุด ตามลำดับ

    #ลงทุน #การเงิน #หุ้น #ตลาดหุ้น #เศรษฐกิจ #btimes #สหรัฐ #ดาวโจนส์ #นาสแดค #เอสแอนด์พี500 #ดอกเบี้ย #เงินเฟ้อ

    https://www.facebook.com/share/p/1B8zMTiL1M/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    เทรนด์แรงแน่! ทรัมป์บีบให้แบงก์ชาติทั่วโลกเร่งลดดอก! ล่าสุด อินเดียหั่นแล้ว หั่น0.25% ตามหลังนิวซีแลนด์ที่เพิ่งหั่นมาติดๆ! ใครต่อ?
    ก็นั่นล่ะครับ ใครที่เดิมไม่คิดหั่นก็ต้องเปลี่ยนมาหั่น หรือใครที่คิดๆ จะหั่นอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีน้ำหนักเยอะขึ้นให้หั่น อาจเร็วขึ้น อาจแรงขึ้น ดูกันได้เลยครับ (ไม่เว้นแม้แต่ "เฟด" แบงก์ชาติของอเมริกาเอง)
    เทรนด์ cycle "ขาลง" ของดอกเบี้ยโลกจะยิ่งระรัวขึ้นครับ ได้เห็นแน่ๆ
    หั่นแล้วจะทำให้เงินอ่อน ... เอ่อ นั่นก็ใช่ ผลทางตรงเลย มีแน่ คือหั่นแล้วค่าเงินจะอ่อนลง ซึ่งอย่างรูปีของอินเดียนี่ หลังๆ เพิ่งแข็งขึ้นจากระดับอ่อนสุดเป็นประวัติการณ์มาหน่อยเอง เจอสงครามการค้าล่าสุดนี้ก็อ่อนร่วงมาอีกละ และถ้าหั่นดอก ก็จะยิ่งถูกถีบให้อ่อนไปอีก แต่ แต่ แต่ มันก็ใช่เรื่องไหมล่ะ ถึงอ่อนก็ต้องยอม เพราะตอนนี้เศรษฐกิจของชาติจะรับไม่ไหวถ้าไม่รีบลดดอกมาช่วยไว้ก่อน
    แย่นะครับ แต่ไม่มีทางเลี่ยง
    จนกว่าทรัมป์จะล้มเลิกนโยบายกำแพงภาษีลง ไม่งั้นก็ต้องลดดอกกระตุ้นไว้ก่อน ซึ่งผลตามมามันก็มี ไม่ว่าจะเงินอ่อน ไม่ว่าจะเงินเฟ้อ ก็ต้องยอมกัดฟันแลกกันไปล่ะครับ
    https://www.reuters.com/markets/rat...s-add-growth-risks-changes-stance-2025-04-09/
    https://www.reuters.com/markets/rat...m-economists-expect-more-stimulus-2025-04-09/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    รัฐบาลเกาหลีใต้ออก"มาตรการฉุกเฉิน"ช่วยบริษัทรถ! เพิ่มเงินสนับสนุนเป็น15ล้านล้านวอน, ลดภาษีซื้อเหลือ3.5%, อุดหนุน ลดราคาEVให้30-80%
    ที่พอทำได้ 1.) รีบหาอะไรมาดีล ต่อรองให้อเมริกาลดภาษีหรือล้มเลยได้ยิ่งดี 2.) ขณะเดียวกัน ระหว่างนี้ ก็ต้องช่วยตัวเองก่อน รัฐบาลพอช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วยเอกชนให้ยืนไหว ประคองไปก่อน
    เกาหลีใต้ส่งออกรถและชิ้นส่วนรถไปอเมริกา ปีที่แล้ว มูลค่า 3.47 หมื่นล้านดอลลาร์เลยนะครับ คิดเป็น 49% ของยอดส่งออกรถทั้งหมด ก็ตีไปครึ่งหนึ่งอะครับ!
    ฉะนั้น อเมริกาขึ้นภาษีนำเข้ารถเป็น 25% นี่กระทบแน่ (ขึ้นทุกชาติทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะเกาหลี)
    ถามว่าช่วยอะไรได้บ้างไหม ก็ไม่มากขนาดนั้น
    อย่างน้อย ก็ต้องช่วยยก demand ในประเทศขึ้นก่อน กระตุ้น แต่เอาเข้าจริง ถามว่าเศรษฐกิจแบบนี้ ใครจะอยากซื้อรถ ต่อให้มีอะไรมาล่อใจก็เหอะ ของชิ้นใหญ่ ราคาสูงขนาดนี้
    ภาษีซื้อ เดิม 5% จะลดเหลือ 3.5% ก็ไม่ใช่เท่าไหร่
    ส่วน EV ปกติรัฐบาลมี "อุดหนุน" โปะให้อยู่แล้ว ช่วยลดราคาไป 20-40% ก็จะโปะเพิ่มยัดเข้าไปอีก ลดลงไป 30-80% เลย นี่ก็เยอะอยู่เนอะ คิดคร่าวๆ ว่าคุณจะซื้อ EV แล้วราคาลดลง 80% โอ้โห นี่ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแยะเลยล่ะครับ!
    นอกจากนี้ นอกจากด้าน demand ในประเทศ ก็ต้องช่วยอุ้มด้วยล่ะครับ จากเดิมเงินสนับสนุน 13 ล้านล้านวอนในปีนี้ ก็บวกเพิ่มไปอีกหน่อย เป็น 15 ล้านล้านวอนครับ
    ที่ว่ามายืดยาว ก็เพื่อจะยกตัวอย่างให้เห็นว่ารัฐบาลชาติใหญ่อย่างเกาหลีเขามีทำอะไรบ้างนะครับ ... จบข่าว
    https://www.reuters.com/business/au...s-auto-industry-hit-by-us-tariffs-2025-04-08/
    https://www.facebook.com/share/p/1DyXUnV2BM/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    ที่พาดหัว มันย่อนะครับ CDS นี่ของหุ้นกู้เกรดพึงลงทุน (investment grade : อันดับความน่าเชื่อถือ สูงตั้งแต่ BBB- ขึ้นไปสำหรับของสถาบัน S&P และ Fitch หรือ Baa3 ขึ้นไปของ Moody's)
    CDS ก็ทำนองว่าซื้อประกันน่ะครับ ถ้าผู้ออกหุ้นกู้ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้ (บริษัทล้มละลาย) ซึ่งถ้าค่าประกันมันสูงๆ ก็แปลว่าตอนนั้นกำลัง ... จุดจุดจุด
    ทั้งนี้ ถ้า investment grade ก็คือไม่ใช่ junk bond อะ ความเสี่ยงไม่ค่อยจะมี ฉะนั้น ค่าประกันไม่ควรจะสูงเลย (ถ้าพวก junk ก็ว่าอย่าง ; ซึ่งก็ดีดสูงไปตั้งแต่ HARD SELL-OFF พฤหัส ศุกร์ที่แล้วไปแล้วล่ะครับ)
    สิ่งที่เกิดขึ้นก็จึงแปลว่าตอนนี้น่ากลัวมากๆ ล่ะครับ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแล้ว

    รายละเอียดสืบเนื่องจากโพสต์นี้เมื่อช่วงเย็นๆ บ้านเราครับ
    FB_IMG_1744208154785.jpg FB_IMG_1744208143866.jpg
    ------
    https://www.facebook.com/share/p/1AbK2jJe5r/?mibextid=wwXIfr

    ด่วน!ด่วน!ด่วน! กระแสเปลี่ยน ไม่ใช่แค่หุ้นแล้ว! วินาทีนี้ "เทขาย" พันธบัตรอเมริกาแรงมาก โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว ระห่ำแตก
    จับตาเลย ตอนนี้ yield พันธบัตร 30 ปี ทะลุ 5%!!! (*bond : พันธบัตร/หุ้นกู้ ยิ่ง yield สูง คือยิ่งราคาตก แสดงว่า bond นั้นยิ่งแย่)
    yield สูงสุดในรอบเกือบปีครึ่ง (ตั้งแต่ปลายๆ ปี 2023 --- ซึ่งถือว่าบัดซบมาก เพราะก่อนหน้านั้นที่ทะลุ 5% ต้องย้อนไปถึงวิกฤติปี 2007 โน่นเลย!)

    คือมันน่าตกใจมาก
    เพราะ HARD SELL-OFF มหาประลัย เมื่อพฤหัส ศุกร์ที่ผ่านมานั้น กลายเป็นพันธบัตรอเมริกาที่ดี --- ส่วนน้อยในตลาดมากๆ ๆ ที่ "ดี"
    แต่พอเข้าสัปดาห์นี้ พลิก
    จันทร์ อังคาร ไม่ดีเอาซะเลย และเข้าวันพุธ บึ้ม! เละเลย!
    พันธบัตรบรรลัยสุดๆ --- yield กระชากโหดมาก
    พันธบัตร 30 ปี ใช้เวลาแค่ 3 วัน --- yield โดดพรวดจาก 4.3% ไปทะลุ 5%
    พันธบัตร 10 ปี ใช้เวลาแค่ 3 วัน --- yield จาก 3.9% พราดไป 4.5%

    ส่วนพันธบัตร 2 ปี ถือว่าระยะใกล้ๆ (ค่อนๆ มาทาง cash) นี่ยังไม่น่าห่วง ยังถูๆ ไถๆ

    เดี๋ยวๆ ไม่จบแค่ที่อเมริกา
    ข้ามฟากมาอังกฤษ ปรากฏว่าพันธบัตรบัดซบยิ่งกว่า!!!!!
    โอ๊ย yield พันธบัตร 30 ปี ทะลัก 5.5% เลวร้ายที่สุดตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งปี 1998

    เฮ้ย ไม่ใช่เล่นแล้วนะ
    ไม่ใช่เล่นแน่ๆ
    ลาม

    น่ากลัวมากกกกกกกกก
    แล้วหุ้นก็ยังไม่ใช่จะจบนะ ยังพร้อมจะร่วงทุกเมื่อ
    ถ้ามาเพิ่มความวายวอดของพันธบัตรอีกล่ะก็ ... ไม่อยากจินตนาการ

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    https://www.bloomberg.com/news/arti...-hit-highest-since-1998-amid-global-bond-rout

    https://www.facebook.com/share/1Bt5E71ZfP/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    5.5 ล้านล้านบาท!
    คือกำไรรวมของนักลงทุนที่ SHORT หุ้นอเมริกา (เก็ง"ขาลง) ใน 6 วันนี้! #ป๊าดดดด (เน้นๆ หุ้นเทคฯ
    FB_IMG_1744208361679.jpg
    กอบโกยได้หนักมือสุด คือ SHORT หุ้น 7 สิงห์แดนเสือครับ พวกบิ๊กๆ เทคฯ นั่นเอง

    https://www.facebook.com/share/p/18s876jk4Z/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    "จีนขายพันธบัตรอเมริกา คือขางทางปืนกู!!!" รัฐมนตรีคลังอเมริกากล่าว
    แปลว่าจะตบจีน???
    ซี้ดดดด
    ตอนนี้ไม่รู้นะครับว่าตลาดพันธบัตรรัฐบาลอเมริการะยะยาวที่ถูกขย่มหนัก เป็นฝีมือจีนหรือไม่??? หรือว่าเป็นไปตามกลไกของนักลงทุน ... ไม่รู้เลยครับ แต่อเมริกาโวยแล้ววว
    ----
    ต่อเนื่องจากโพสต์นี้ครับ แต่ความคิดผม ว่าไม่เกี่ยวกับจีนครับ
    ยังไม่ได้เข้าสู่เกมตรงนี้ (หมากนี้จีนไม่ใช้ทะเล่อทะล่าแน่ครับ ไม่ถึงคราวจริงๆ คงไม่ใช้)

    FB_IMG_1744208464047.jpg

    https://www.facebook.com/share/p/1AbK2jJe5r/?mibextid=wwXIfr

    https://www.facebook.com/share/p/1BN4nkA4eR/
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    อเมริกาด่ากราด จีนปล่อยเงินหยวนอ่อน เหมือนขึ้นภาษีกับทั้งโลก ต้องโดนโต้แน่ (วันนี้ หยวน offshore อ่อนสุดในประวัติศาสตร์!)
    คือเมื่อเช้า ผมไม่ได้โพสต์เรื่องหยวน เพราะผมมองว่าไม่ใช่ความจงใจ หากแต่เป็นกลไกของมันเอง --- หมายความว่ารัฐบาลจีนก็ไม่ได้ปรารถนาจะให้เงินหยวนอ่อนขนาดนั้น แต่กลไกตลาดมันพาไป (ก็แหม ล่อสงครามการค้ากันยับขนาดนั้น!!! จะไม่ให้หยวนอ่อนได้ยังไหงไหวล่ะ!!!) (*ไม่มีชาติไหนที่อยากให้เงินตัวเองอ่อนสาหัสเกินไป ; คืออ่อนเพื่อเอื้อส่งออกน่ะได้ แต่อ่อนบรรลัยเกินไปน่ะใครจะอยาก พังกันพอดี!)
    ใช่ครับ จีนตั้งอัตราอ้างอิงหยวน onshore อ่อนสุดในรอบครึ่งปี แต่แต่แต่ ก็ทางมันเป็นงั้นนิ! (จีนจะเป็นแบบนี้ครับ เปิดตลาดมา รัฐบาลจะมีอัตราอ้างอิงให้ก่อนเลย แล้วเทรดจากตรงนั้น โดยที่ก็มีลิมิตที่วางไว้ ว่าห้ามขึ้นลงเกินกี่เปอร์เซ็นต์ --- เสรีแต่มีการควบคุมประมาณหนึ่ง!)
    ซึ่งเห็นมะครับ บางทีมันตั้งตัวเลขอ้างอิงขืนๆ ตลาดได้หน่อย (ไม่ว่าจะขืนขาไหน) แต่มันก็ไม่ได้มากนักหรอกครับ ถ้าแรงตลาดมันหนาพอ แล้วการตั้งมันก็ต้องดูความเป็นจริงด้วยพอสมควร
    อะไรยังไงไม่รู้ล่ะ พอเป็นงี้ อเมริกาก็โวยแหลก (ทรัมป์ชอบโวยประจำว่าจีนชอบทำให้หยวนอ่อนเกินควร) ละก็ตอนนี้ดันเผอิญหยวน offshore อ่อนสุดเป็นประวัติการณ์ (นับตั้งแต่สถาปนาการเทรดหยวน offshore เมื่อปี 2010) ที่ 7.4290 หยวน/ดอลลาร์ ก็ยิ่งเอามาผสมโรงจงกได้เลย! เข้าทาง! (ซึ่งจะไม่ให้หยวน offshore ไม่อ่อนได้ไง ก็โดนสงครามการค้าขนาดนั้น)
    ส่วนหยวน onshore แม้ไม่ถึงขั้น record low แบบ offshore แต่ก็ไม่ใช่ดีนักนะครับ เพจเดือดฯ มีโพสต์เนืองๆ เหมือนกัน
    เดี๋ยวไว้ว่ากันต่อครับ
    ส่วนเรื่องหยวนอ่อน แล้วเหมือนขึ้นภาษียังไง ไม่ขออธิบายละนะครับ เคยเขียนยาวๆ บ่อยๆ ละ (ผมขอไปกินข้าวก่อนละครับ)

    FB_IMG_1744208784077.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/1AKM4ggLjD/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    เอาแล้ว! "ดอยช์แบงค์"จี้ #เฟด จำเป็นต้องโดดทำ #QE ฉุกเฉิน ถ้าพันธบัตรอเมริกาโดน #เทขาย ไม่หยุดงี้! วุ่นสุดๆแน่ๆ! ระทึก!
    เฮ้ยยย ขนาดนั้น!?!?!
    คนละเหตุผลจากการทำ QE ที่เคยๆ นะครับ และสเกลไม่ใหญ่เท่านั้นแน่ๆ แต่เมื่อเห็นว่าพันธบัตรรัฐบาลอเมริการะยะยาวโดนเทขายหนักๆ ถ้ายังต่อเนื่องไม่บันยะบันยัง ทาง "เฟด" แบงก์ชาติอเมริกาต้องสอดมือเข้าไปแทรกแซงนะครับ ไม่งั้นฉิบหายแน่ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเจียนอยู่เจียนไปสุดๆ สั่นคลอนสุดๆ แทบไม่เหลือหลักยึดแล้ว ทาง "เฟด" นิ่งเฉยไม่ได้แล้ว (ถ้ายังเป็นงี้ไม่จบไม่สิ้นนะ)
    ติดตามดูครับ!

    FB_IMG_1744208874234.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/16LwXQE66n/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,117
    ค่าพลัง:
    +97,151
    #ด่วน
    84%
    จีนขึ้นกำแพงภาษีโต้อเมริกาาาาา!!!!!

    เอาว่ะ! แรงมาก แรงจริง แลก!!!!!
    ไม่กี่อึดใจ แค่ไม่กี่ชั่วโมง ที่อเมริกาขึ้นบวกไป 104% (จากเดิม 54%) จีนก็สวนบวกไป 84% (จากเดิม 34%)
    เอาดิ
    ละถ้าบวกขนาดนี้ หุ้นจะลบเท่าไหร่??????????????????
    https://www.bloomberg.com/news/live-blog/2025-04-08/trump-tariffs-stock-market-updates

    https://www.facebook.com/share/p/15B5615rmD/
     

แชร์หน้านี้

Loading...