พระกริ่งงามทรัพย์ลป ไข เสกพระสมเด็จไตรมาสหลวงพ่อผัน แปดอาร์ ผงรูปเหมือนเจ้าคุณนร๒๕๑๓

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,139
    ค่าพลัง:
    +21,386
    วันนี้จัดส่ง
    1745850373693.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,139
    ค่าพลัง:
    +21,386
    5f4c3876e807060cb707eac0_800x0xcover_8gqgg0vK.jpg

    พระกริ่งงามทรัพย์เนื้อตะกั่วหัวลูกปืน
    คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อไข ที่เล่าขานกัน คือ ความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น การทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำได้อย่างน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ วัว ควาย ท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน
    ตามที่ทราบทั่วประเทศนั้น พระอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม ได้สร้างตำนานตะกรุดปอกลูปปืน แต่ท่านสาธุชนทราบหรือไม่ว่า หัวลูกปืนท่านเอาไปทำอะไร นี้คือเหตุผลหนึ่งที่ทุกท่านไม่เคยทราบ "หลวงพ่อโส" เจ้าอาวาสวัดปทุมวงษาวาส จ.นครนายก ได้ขอหัวตะกั่วลูกปืนนำมาทำสุดยอดวัตถุมงคล "พระกริ่งงามทรัพย์" พุทธาภิเษกโดย หลวงปู่ไข เกจิดังแห่งเมืองนครนายก ท่านน่าจะนำไปแขวนห้อยคอบูชา แล้วท่านจะ โชคดี เงิน ทอง ไหลมา แคล้วคลาด ปลอดภัย โดยตั้งอยู่ในหลักศีล ๕ ข้อทางวัดปทุมวงษาวาส ต.เกาะหวาย อ.ปากพลี จ.นครนายก เพื่อสมทบทุนสร้างพระสถูปเจดีย์ ในการทางนี้ ทางวัดปทุมวงษาวาส ต.เกาะหวาย จ.นครนายก ประกอบพิธีมหาทานบารมี เททองหล่อพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ และ พระอนุพุทธ ๘๐ องค์ ในวันเพ็ญ มาฆบูชา อาทิตย์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ น
    หลวงพ่อไข มหุสสาโห พระเกจิดังนครนายก (พระอภิญาผู้ยั่งรู้ดังตาเห็น)
    "หลวงพ่อไข มหุสสาโห" หรือ พระครูโพธิธรรมานุยุต อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธินายก ต.นครนายก อ.เมือง จ.นครนายก พระเกจิชื่อดังเมืองนครนายก ต้นตำรับยันต์ ด และผ้าเช็ดหน้าขอด
    มีนามเดิมว่า นายไข มหา เกิดเมื่อวันที่ …………….ปีเถาะ พ.ศ.2458ที่บ้าน ต.เขาพระ อ.วังกระโจม จ.นครนายก
    ท่านเป็นบุตรคนโต ของนายพุมมา อายุครบ 20ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่13 เมษายน 2478 เวลา 15 นาฬิกา 58นาที ที่วัดวังไทร ต.เขาพระใหญ่ลาว อ.วังกระโจม จ.นครนายก
    มีพระครูปิฎกธรรมคุณาภรณ์ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดศรีเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูขาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสงวน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายาว่า “ มหุสฺสาโห”
    หลังจากอุปสมบท ได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านขาม ต.เขาพระ อ.วังกระโจม จ.นครนายก และมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2479
    ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดโพธินายก ต.นครนายก อ.เมืองนครนายก จ.ปราจีนบุรี เพื่อมาศึกษาต่อ หลังจากออกพรรษาแล้ว ออกเดินธุดงค์กัมมัฏฐานสายอีสานไปยังเขตจังหวัดต่าง ๆ อุบล ราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น
    ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์
    ในวันที่ 11 พฤษภาคม ปี พ.ศ.2510 ไห้ พระไข ฉายา มหุสฺสาโห อายุ 53 ปี พรรษาที่ 31 วิทยฐานะ น.ธ.ตรี วัดโพธินายก ได้รับแต่งตั้งจากพระธรรมวรนายก เจ้าคณะจังหวัดนครนายก ให้ดำรงตำเหน่ง เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธินายก
    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ. 2516 ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูสังฆรักษ์ไข ในฐานานุกรมของพระราชวรนายก เจ้าคณะอำเภอเมืองนครนายกพ.ศ. 2519ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูภัทธกิจไข ในฐานานุกรมของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน) วัดราชผาติการาม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
    5ธ.ค.2532 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูโพธิธรรมานุยุต
    พ.ศ. 2510-2556หลวงพ่อไข ร่วมกับคณะกรรมการวัด พระภิกษุ-สามเณร บูรณปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด เช่น กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ พระอุโบสถ หอระฆัง วิหาร ซุ่มประตูวัด เมรุ เขื่อกันดิน ภาพลักษณ์ของท่าน คือ พระนักพัฒนาที่เก่งทั้งพัฒนาวัตถุนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อาราม และเก่งในการพัฒนาบุคคลจนได้ดีมีชื่อเสียงจำนวนมาก
    คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อไข ที่เล่าขานกัน คือ ความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น การทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำได้อย่างน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ วัว ควาย ท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน
    นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังที่มักได้รับอาราธนาไปในพิธีพุทธาภิเษก พระเครื่องหลายต่อหลายรุ่น และวัตถุมงคลที่ท่านสร้างปรากฏความขลังในด้านพุทธคุณ มีประสบการณ์ดีทั้งด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย เหรียญบางรุ่นยังพอเช่าหาได้ในราคาไม่แพง แต่ถ้าเป็นเหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2524เนื้อทองแดง หาได้ยากมาก ล้วนเป็นที่สนใจของบรรดานักสะสม
    ด้วยมีพุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด คงกระพันชาตรี
    จึงมีผู้เคารพนับถือทุกระดับชั้น ทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในจังหวัด และในถิ่นที่ห่างไกล บั้นปลายชีวิต หลวงพ่อไข เริ่มป่วยด้วยโรค โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลองครักษ์เป็นครั้งคราว จนกระทั่งวาระสุดท้าย ท่านมรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 10ม.ก.2557เวลา 19.36น. สิริอายุ 99 ปี 09 เดือน พรรษา 79
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระกริ่งงามทรัพย์หลวงปู่ไขปลุกเสกให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    (ปิดรายการ)
    IMG_20250429_145655.jpg IMG_20250429_145732.jpg IMG_20250429_145627.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2025 at 20:02
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,139
    ค่าพลัง:
    +21,386
    FB_IMG_1745917545179.jpg

    พระผงพระคันธาราษฏร์
    หลวงปู่กิ วัดป่าสนามชัย
    เป็นพระยุคแรกของหลวงปู่
    ประวัติ หลวงปู่กิ ธัมมุตฺตโม วัดป่าสนามชัย จ.อุบลราชธานี
    หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล มรณภาพที่วัดอมาตยาราม เมืองจำปาศักดิ์
    หลังจากหลวงปู่เสาร์ กลับมาจากสกลนคร เมื่อปี ๒๔๘๐ ท่านมาอยู่เมืองอุบลราชธานี ตั้งแต่ท่านลงมาพร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ ซึ่งมีพระอาจารย์กิ โสธโร ร่วมอยู่ด้วย ในปี ๒๔๘๔ ท่านจำพรรษาสุดท้ายที่วัดดอนธาตุ ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี หลวงปู่เสาร์ได้ปรารภถึงพระอาจารย์ของท่านคือหลวงปู่ยาครูสีทา ชยเสโน ซึ่งพื้นเพท่านอยู่เมืองสีพันดอน แขวงจำปาศักดิ์ ท่านไปเรียนที่กรุงเทพมหานคร แล้วมาเป็นพระอุปัชฌาย์ที่อุบลราชธานี หลังจากนั้นท่านได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ถิ่นมาตุภูมิ ท่านไปอยู่วัดดอนฮี ( วัดเกาะฮี ) เขตเมืองโขง แขวงจำปาศักดิ์ แล้วท่านมรณภาพที่นั้น หลวงปู่เสาร์ปรารภถึงพระอาจารย์ของท่าน อยากทำบุญเพื่ออุทิศกุศลให้ครูบาอาจารย์ หลังออกพรรษาแล้วปี ๒๔๘๕ จึงนำคณะลูกศิษย์เป็นจำนวนมากทั้งสายพระมหานิกายและพระธรรมยุต เป็นพระภิกษุสามเณร จำนวน ๑๑ รูป ซึ่งเป็นพระกรรมฐาน ลงไปจำปาศักดิ์ มีพระอาจารย์ทองรัตน์ กันตสีโล พระอาจารย์ดี ฉันโน พระอาจารย์บัวพา ปัญญาพาโส พระอาจารย์ทอง พระอาจารย์กองแก้ว ฯลฯ และมีคณะศิษย์ที่เป็นฆราวาสติดตามไปอีก ๕ คน คือ
    ๑. พระราชธรรมสุธี ( พวง สุขินฺทริโย )
    ซึ่งขณะนั้นเป็นฆราวาส อายุ ๑๔ ปี
    ๒. พระครูโอภาสธรรมญาณ ( อำนวย )
    ๓. นายบุญมี ไชยงาม
    ๔. นายเจริญ ( ถึงแก่กรรม )
    ๕. นายกร
    พระอาจารย์กิ ซึ่งอยู่วัดป่าสาลวัน ได้เดินทางมาต้อนรับคณะหลวงปู่เสาร์ ที่วัดอมาตยาราม จำปาศักดิ์ ในคราวนั้นพระอาจารย์บุญมากไม่อยู่ หลวงปู่เสาร์นำพาคณะศิษย์เยี่ยมชมปราสาทหินวัดภู จำปาศักดิ์ แล้วปรารภว่า ถ้าไปเมืองสีพันดอนแล้วให้กลับขึ้นมาทำมาฆบูชาร่วมกันที่ปราสาทหินวัดภูในวันเพ็ญเดือนสาม หลวงปู่เสาร์นำพาคณะลูกศิษย์ล่องเรือตามลำน้ำโขงไปสีพันดอนก่อน ส่วนพระอาจารย์ทองรัตน์และพระอาจารย์กิพร้อมพระสงฆ์จำนวนหนึ่งพักแรมอยู่ที่บ้านสาหัว เพื่อรอพระอาจารย์บุญมากมาสมทบ แล้วเดินธุดงค์ตามริมน้ำโขงรวมแล้วมีพระภิกษุสิบกว่ารูป เพื่อไปพบหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่เสาร์พร้อมคณะศิษย์ไปทำบุญที่วัดดอนฮี แล้วท่านเดินทางไปชมน้ำตกที่หลี่ผีแล้วมาพักอยู่ภูหม้อออมใกล้ที่ทำการจังหวัดจำปาศักดิ์ ประมาณ ๒ กิโลเมตร ( ในคราวนั้นรัฐบาลไทยได้ตั้งที่ทำการจังหวัดจำปาศักดิ์ ที่บ้านทัพเปือย ปากเซลำเพา เมืองสีพันดอน ) พระอาจารย์ทองรัตน์พร้อมด้วยพระอาจารย์บุญมาก พระอาจารย์กิ ฯลฯ ได้เดินทางถึงภูหม้อออมที่พักของหลวงปู่เสาร์ พระอาจารย์ดีรีบแจ้งข่าวอาการป่วยของหลวงปู่เสาร์ให้ทราบ นิมนต์ท่านกลับ ท่านก็ไม่เห็นด้วยและท่านพูดว่า “ท่านกิเข้าก่องเดียวชั้นบ่อท่านดี ข่อยอยากให้ฮอดเขมรพุ้น” หลวงปู่เสาร์ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่จะเดินทางกลับ แต่พระอาจารย์ดีเกรงว่าหลวงปู่จะป่วยหนักและมรณภาพที่นี้ เกรงว่าศิษยานุศิษย์ที่ไม่ได้ไปด้วยจะตำหนิท่าน พระอาจารย์ดีจึงอยากให้พระอาจารย์ทองรัตน์และพระอาจารย์บุญมากช่วยนิมนต์หลวงปู่เสาร์กลับ คณะศิษยานุศิษย์ปรึกษาหารือกันว่าจะพูดอย่างไรดี ท่านจึงจะเห็นด้วย อย่างไรก็ดี ถ้าไม่ขึ้นถึงอุบลราชธานีก็เลื่อนขึ้นไปดอนไซหรือไปวัดป่าสาลวัน วัดพระอาจารย์บุญมากและพระอาจารย์กิสร้าง ซึ่งเป็นบ้านของพระอาจารย์กิด้วย หรือจะไปถึงวัดอมาตยารามก็ดี เมื่อคณะศิษย์ตกลงกันแล้วก็พากันเข้าไปกราบหลวงปู่เสาร์ พระอาจารย์ทองรัตน์และพระอาจารย์บุญมากพูดขึ้นว่า “ครูบาอาจารย์ อยู่ที่นี้มันกันดาร กันดารจังใดก็คือว่า ข้าราชการก็เป็นคนใหม่ มาตั้งบ้านเมืองใหม่ถ้าอาศัยข้าราชการก็เป็นแขก ( คนมาจากที่อื่น ) ถ้าอาศัยคนพื้นบ้านก็เป็นคนเขมร บางคนเว้าลาวก็บ่ได้ ผู้เว้าลาวได้ก็อาศัยเขาบ่ได้เพราะเขามีความทุกข์ยากอดอยาก ถ้าแม่นว่าป่วยเป็นมาหรือเป็นหนักพักฮ้ายมา เสียชีวิตที่นี้ รถก็มาบ่ถึง เรือมาก็คาแก่ง เหตุนี้จึงอยากนิมนต์ครูบาอาจารย์กลับขึ้นไปอุบลฯ หรือเลื่อนขึ้นไปดอนไซ หรือบ้านท่านกิ บ้านหนองผำ ดอนไซนี้ก็มีป่าที่สวยงามเหมาะสม สิเฮ็ดวัดป่าเพราะมีบ้านหลายหมู่บ้าน ส่วนวัดป่าสาลวันของท่านบุญมากบ้านท่านกินั้น ก็เป็นวัดป่าที่ร่มรื่นเหมาะสมกับคนเฒ่าคนแก่จะอยู่อย่างสะดวกสบายหรือไปฮอดวัดอมาตก็ได้” เมื่อหลวงปู่เสาร์ได้ฟังคำนมัสการของลูกศิษย์ ท่านพิจารณาสักครู่จึงพูดขึ้นว่า “เออ คันชั้นไปก็ไปติ นี่มันก็ถึงเดือนสามแล้ว ให้ท่านบุญมาก ท่านกิขึ้นไปสา ไปจัดเฮือมารับข่อย แล้วข่อยสิขึ้นไป แต่ให้สัญญาให้มาฮอดทันเดือนสามเพ็ง สั่งบอกท่านทองและพระที่รออยู่บ้านคันแยงบ่ให้รอถ้าทำมาฆบูชาที่ประสาทหินวัดภู เพราะกลับเมือบ่ทัน” เพราหลวงปู่เสาร์เคยปรารภไว้ว่าจะไปทำมาฆบูชาที่ปราสาทหินวัดภู จำปาศักดิ์ ระหว่างทางจะแวะชมวัดป่าสาลวัน บ้านหนองผำ พระอาจารย์บุญมากกับพระอาจารย์กิรีบเดินทางเพื่อไปจัดหาเรือ พระอาจารย์กิแวะดูสถานที่ดอนไซ เพื่อเรียนคณะสงฆ์ให้ทราบว่าจะนำหลวงปู่เสาร์มาพักที่นี้สักระยะหนึ่ง ส่วนพระอาจารย์บุญมากขึ้นมาวัดป่าสาลวันเพื่อจัดหาเรือ การจัดหาเรือก็ล่าช้ามากเนื่องจากทำเรือพ่วงและหาคนแจวเรืออีก ๔ คน จนถึงเดือนสามเพ็ญแล้วก็ยังไม่ได้ล่องเรือไปรับหลวงปู่เสาร์ เดือนสามเพ็ญหลวงปู่เสาร์เริ่มป่วยหนัก ถ่ายท้องอย่างแรง แรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ คณะลูกศิษย์พร้อมด้วยข้าราชการ ตำรวจ ญาติโยม ช่วยกันนำท่านลงเรือ ถ่อเรือขึ้นมาถึงบ้านนาดี เซลำเพ พักแรมที่นี้ รุ่งเช้าถ่อเรือต่อถึงเมืองมูลปาโมกมืดค่ำพักแรมที่นี้ รุ่งเช้าถ่อเรือต่อ ผ่านดอนนางลอยทางด้านทิศตะวันออก แรม ๓ ค่ำ เดือน ๓ เป็นวันเดียวกับพระอาจารย์บุญมาก ล่องเรือจะลงไปรับหลวงปู่ ไปรับพระอาจารย์กิที่ดอนไซก่อนแล้วล่องเรือผ่านดอนนางลอยทางด้านทิศตะวันตก การผ่านเกาะคนละทิศเป็นสาเหตุที่เรือสองลำไม่เจอกัน เรือนำหลวงปู่มาถึงท่าน้ำวัดอมาตยาราม ส่วนเรือพระอาจารย์บุญมากและพระอาจารย์กิก็ถึงเมืองมูลปาโมกข์ พักแรมที่นี้ได้ทราบข่าวว่าเรือหลวงปู่ได้ถ่อขึ้นไปแล้ว เมื่อถึงวัดอมาตยารามตลอดระยะเวลา ๓ วันนั้นหลวงปู่ไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อเข้าในพระอุโบสถท่านจึงพูดขึ้นว่า “วัดใด วัดหนองผำบ่อ” ลูกศิษย์ตอบว่า “บ่อแม่น นี่วัดอมาต” คณะลูกศิษย์ประคองหลวงปู่นั่ง ท่านกราบพระประธานแล้วท่านมรณภาพในอิริยาบถท่านั่งมือสองข้างเท้ากับพื้นพระอุโบสถ พระอาจารย์กิกล่าวว่า การมรณภาพของหลวงปู่ประกอบด้วยสติอันไพบูลย์และอยู่ในอิริยาบถที่แปลกกว่าครูบาอาจารย์รูปอื่นๆ ท่านมรณภาพตรงกับวันอังคาร แรม ๓ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเมีย วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๕ การที่หลวงปู่สอบถามว่า ที่ไหนบ้านหนองผำหรือไม่ ก็เพราะหลวงปู่เคยปรารภว่าจะแวะดูวัดป่าสาลวันบ้านหนองผำ ซึ่งเป็นวัดกรรมฐานแห่งเดียวในภูมิภาคนั้น เมื่อหลวงปู่มรณภาพแล้ว พระครูนาคบุรีพร้อมด้วยคณะ ลูกศิษย์ที่ติดตามหลวงปู่ได้ทำพิธีสรงน้ำศพและห่มผ้าไตรจีวร ข่าวการมรณภาพของหลวงปู่ทราบถึงพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ที่วัดแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระอาจารย์สิงห์จึงได้เชิญศพมาประดิษฐานเก็บไว้ที่วัดบูรพาราม จังหวัดอุบลราชธานี
    คืนที่หลวงปู่มรณภาพนั้น พระอาจารย์บุญมากและพระอาจารย์กิจำวัดที่เมืองมูลปาโมกข์ เมื่อทราบข่าวว่านำหลวงปู่ขึ้นไปวัดอมาตยารามแล้ว ก็ตามขึ้นมาแวะที่วัดป่าสาลวันเพื่อรอพระอาจารย์ทองรัตน์เดินธุดงค์ขึ้นมาจากเมืองสีพันดอน เมื่อพระอาจารย์ทองรัตน์ขึ้นมาแล้ว พระอาจารย์กิสะพายบาตรให้พระอาจารย์ทองรัตน์เดินทางมาวัดอมาตยาราม ทราบข่าวว่าได้เชิญศพหลวงปู่ขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดบูรพาราม จังหวัดอุบลราชธานีแล้ว
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระผงพิมพ์พระคันธราชหลวงปู่กิ วัดสนามชัย ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250429_155935.jpg IMG_20250429_160004.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,139
    ค่าพลัง:
    +21,386
    วันนี้จัดส่ง
    1745931841059.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,139
    ค่าพลัง:
    +21,386
    5f4c3876e807060cb707eac0_800x0xcover_8gqgg0vK.jpg

    พระกริ่งงามทรัพย์เนื้อตะกั่วหัวลูกปืน
    คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อไข ที่เล่าขานกัน คือ ความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น การทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำได้อย่างน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ วัว ควาย ท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน
    ตามที่ทราบทั่วประเทศนั้น พระอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม ได้สร้างตำนานตะกรุดปอกลูปปืน แต่ท่านสาธุชนทราบหรือไม่ว่า หัวลูกปืนท่านเอาไปทำอะไร นี้คือเหตุผลหนึ่งที่ทุกท่านไม่เคยทราบ "หลวงพ่อโส" เจ้าอาวาสวัดปทุมวงษาวาส จ.นครนายก ได้ขอหัวตะกั่วลูกปืนนำมาทำสุดยอดวัตถุมงคล "พระกริ่งงามทรัพย์" พุทธาภิเษกโดย หลวงปู่ไข เกจิดังแห่งเมืองนครนายก ท่านน่าจะนำไปแขวนห้อยคอบูชา แล้วท่านจะ โชคดี เงิน ทอง ไหลมา แคล้วคลาด ปลอดภัย โดยตั้งอยู่ในหลักศีล ๕ ข้อทางวัดปทุมวงษาวาส ต.เกาะหวาย อ.ปากพลี จ.นครนายก เพื่อสมทบทุนสร้างพระสถูปเจดีย์ ในการทางนี้ ทางวัดปทุมวงษาวาส ต.เกาะหวาย จ.นครนายก ประกอบพิธีมหาทานบารมี เททองหล่อพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ และ พระอนุพุทธ ๘๐ องค์ ในวันเพ็ญ มาฆบูชา อาทิตย์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ น
    หลวงพ่อไข มหุสสาโห พระเกจิดังนครนายก (พระอภิญาผู้ยั่งรู้ดังตาเห็น)
    "หลวงพ่อไข มหุสสาโห" หรือ พระครูโพธิธรรมานุยุต อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธินายก ต.นครนายก อ.เมือง จ.นครนายก พระเกจิชื่อดังเมืองนครนายก ต้นตำรับยันต์ ด และผ้าเช็ดหน้าขอด
    มีนามเดิมว่า นายไข มหา เกิดเมื่อวันที่ …………….ปีเถาะ พ.ศ.2458ที่บ้าน ต.เขาพระ อ.วังกระโจม จ.นครนายก
    ท่านเป็นบุตรคนโต ของนายพุมมา อายุครบ 20ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่13 เมษายน 2478 เวลา 15 นาฬิกา 58นาที ที่วัดวังไทร ต.เขาพระใหญ่ลาว อ.วังกระโจม จ.นครนายก
    มีพระครูปิฎกธรรมคุณาภรณ์ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดศรีเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูขาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสงวน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายาว่า “ มหุสฺสาโห”
    หลังจากอุปสมบท ได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านขาม ต.เขาพระ อ.วังกระโจม จ.นครนายก และมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2479
    ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดโพธินายก ต.นครนายก อ.เมืองนครนายก จ.ปราจีนบุรี เพื่อมาศึกษาต่อ หลังจากออกพรรษาแล้ว ออกเดินธุดงค์กัมมัฏฐานสายอีสานไปยังเขตจังหวัดต่าง ๆ อุบล ราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น
    ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์
    ในวันที่ 11 พฤษภาคม ปี พ.ศ.2510 ไห้ พระไข ฉายา มหุสฺสาโห อายุ 53 ปี พรรษาที่ 31 วิทยฐานะ น.ธ.ตรี วัดโพธินายก ได้รับแต่งตั้งจากพระธรรมวรนายก เจ้าคณะจังหวัดนครนายก ให้ดำรงตำเหน่ง เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธินายก
    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ. 2516 ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูสังฆรักษ์ไข ในฐานานุกรมของพระราชวรนายก เจ้าคณะอำเภอเมืองนครนายกพ.ศ. 2519ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูภัทธกิจไข ในฐานานุกรมของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน) วัดราชผาติการาม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
    5ธ.ค.2532 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูโพธิธรรมานุยุต
    พ.ศ. 2510-2556หลวงพ่อไข ร่วมกับคณะกรรมการวัด พระภิกษุ-สามเณร บูรณปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด เช่น กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ พระอุโบสถ หอระฆัง วิหาร ซุ่มประตูวัด เมรุ เขื่อกันดิน ภาพลักษณ์ของท่าน คือ พระนักพัฒนาที่เก่งทั้งพัฒนาวัตถุนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อาราม และเก่งในการพัฒนาบุคคลจนได้ดีมีชื่อเสียงจำนวนมาก
    คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อไข ที่เล่าขานกัน คือ ความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น การทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำได้อย่างน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ วัว ควาย ท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน
    นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังที่มักได้รับอาราธนาไปในพิธีพุทธาภิเษก พระเครื่องหลายต่อหลายรุ่น และวัตถุมงคลที่ท่านสร้างปรากฏความขลังในด้านพุทธคุณ มีประสบการณ์ดีทั้งด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย เหรียญบางรุ่นยังพอเช่าหาได้ในราคาไม่แพง แต่ถ้าเป็นเหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2524เนื้อทองแดง หาได้ยากมาก ล้วนเป็นที่สนใจของบรรดานักสะสม
    ด้วยมีพุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด คงกระพันชาตรี
    จึงมีผู้เคารพนับถือทุกระดับชั้น ทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในจังหวัด และในถิ่นที่ห่างไกล บั้นปลายชีวิต หลวงพ่อไข เริ่มป่วยด้วยโรค โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลองครักษ์เป็นครั้งคราว จนกระทั่งวาระสุดท้าย ท่านมรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 10ม.ก.2557เวลา 19.36น. สิริอายุ 99 ปี 09 เดือน พรรษา 79
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250429_184208.jpg IMG_20250429_184238.jpg IMG_20250429_184133.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,139
    ค่าพลัง:
    +21,386
    FB_IMG_1745848740760.jpg FB_IMG_1745848704779.jpg get_auc1_img (6).jpeg 279589461_5375240012488452_5537533005902580662_n.jpg get_auc3_img (11).jpeg
    หลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 38 เซนติเมตร สูง (รวมฐาน) 49 เซนติเมตร ศิลปะเชียงแสน นับเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดปราจีนบุรี
    ตามประวัติการค้นพบหลวงพ่อเพชรกล่าวไว้ว่า ในปี พ.ศ. 2381 เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายกในรัชกาลที่ 3 เป็นแม่ทัพใหญ่ คุมกำลังทหารไปทำศึกสงครามป้องกันเขมรจากญวน เมื่อปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้ว จึงได้เดินทัพกลับ มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์
    วันหนึ่งระหว่างเดินทางกลับ กองทัพได้มาถึงทุ่งโล่งแห่งหนึ่ง ไฟป่ากำลังลุกโชนอย่างหนัก แต่มีสิ่งอัศจรรย์ที่ทุกคนเห็นกับตาคือ กลางพระเพลิงที่โหมกระหน่ำอยู่นั้น มีหมู่ไม้อยู่กลางท้องทุ่งลักษณะเป็นเกาะไม้น้อยๆ ไม่ถูกไฟไหม้!... ต้นไม้ใบหญ้าในรัศมีของเกาะไม้แห่งนั้น ยังคงสวยสดเขียวชอุ่มก่อให้เกิดความสงสัยแก่เหล่าทหารในกองทัพ ท่านแม่ทัพ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา จึงส่งคนไปดูที่เกาะไม้แห่งนั้น ปรากฏว่า...
    ณ ท่ามกลางหมู่ไม้เกาะไม้กลางทุ่งนั้น มีเจดีย์เก่าแก่ ผุพังจนสิ่งก่อสร้างยุบตัวลงมากองกับแม่พระธรณี มีรอยเท้าของสัตว์เหยียบย่ำจนเป็นทางผ่าน มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุม และท่ามกลางสิ่งปรักหักพังนั่นเอง มีพระพุทธรูปขนาดเขื่อง พอที่คนแข็งแรงจะอุ้มไหว ตั้งตะแคงพิงอยู่กับสิ่งปรักหักพัง หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก มีจอมปลวกใหญ่ ขึ้นบังแสงอาทิตย์ มองคล้ายเป็นร่มฉัตรให้แก่พระพุทธรูปองค์นี้
    พอเจ้าพระยาบดินทร์เดชารับทราบ ก็มีความเปรมปรีดิ์ เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีแห่งพุทธปาฏิหาริย์ ดลบันดาลให้ท่านได้มีวาสนามาพบพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จึงมีบัญชาให้จัดประทีป ธูปเทียน ดอกไม้ และของหอม บูชาสักการะ อัญเชิญองค์พระ มาประดิษฐานไว้กับกองทัพ เพื่อเป็นการสร้างและบำรุงขวัญแก่บรรดาเหล่าทหาร
    เมื่อกองทัพพระยาบดินทร์เดชาเดินทางด้วยเท้าเป็นระยะๆ จนกระทั่งเข้าสู่บริเวณทุ่งเมืองปราจิม (ชื่อสมัยโบราณของจังหวัดปราจีนบุรี) พระยาบดินทร์เดชาเห็นว่า สถานที่พักแรมกองทัพนี้ มีสภาพภูมิประเทศที่ดี ต่อไปจะเจริญ ผู้คนบ้านเรือนจะหนาแน่นขึ้นกลายเป็นชุมชนใหญ่
    ท่านจึงสั่งการให้สร้างวัดขึ้นในบริเวณชายทุ่งตำบลดงพระราม โดยการสร้างพระอุโบสถถวายพระพุทธรูปที่อัญเชิญมา สร้างกุฏิให้อาจารย์เป็นพระภิกษุเขมรที่ติดตามกองทัพมา ให้อาจารย์เป็นผู้ดูแลรักษาวัดในตำแหน่งเจ้าอาวาส
    พุทธลักษณะของ "หลวงพ่อเพชร" เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะ เกศเป็นเกศบัวตูม นั่งขัดสมาธิเพชร คือ พระบาท(เท้า) ทั้งสองไขว้กัน ฝ่าพระบาทเกี่ยวกระหวัดมองเห็นชัดทั้งสองข้าง พระหัตถ์(มือ)ขวา ห้อยบนพระชานุ(เข่า)ด้านขวา พระหัตถ์ซ้ายวางอยู่บนหน้าตัก เป็นพระพุทธรูปที่เรียกว่า “ปางสดุ้งมาร” หรือ “ปางมารวิชัย”
    พระวรกายอวบสมบูรณ์ ผู้รู้สันนิษฐานว่าเป็นพระสร้างสมัยเชียงแสน แต่ฐานพระค่อนข้างต่ำ เวลาประดิษฐานที่ราบจะรู้สึกว่าองค์พระเอนมาก ทำให้ส่วนพระพักตร์เงยหงาย ผู้ที่เข้ามากราบนมัสการจะรู้สึกว่า องค์พระพุทธรูปเงยพระพักตร์ทอดพระเนตรอยู่ตลอดเวลา ลักษณะเช่นนี้ชาวบ้านเรียกว่า “หน้ารับแขก”
    สิ่งสำคัญของพระพุทธรูปองค์นี้ที่ต่างจากพระพุทธรูปองค์อื่นๆ ที่เห็นกันอยู่ทั่วไปก็คือ “พระเนตรขององค์พระทั้งสองข้าง ประดับด้วยเพชรแท้ๆ”
    จากพุทธลักษณะอันโดดเด่นขององค์พระ ทั้งที่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยนั่ง “ขัดสมาธิเพชร” และคุณลักษณะพิเศษที่พระเนตรเป็น “เพชรแท้” ทั้งสองข้าง ท่านจึงมีสมญานามว่า “หลวงพ่อเพชร” และเมื่อเป็นพระพุทธรูปประดิษฐานที่วัดแจ้ง จึงเรียกขานกันอย่างติดปาก ไม่ให้ซ้ำหลวงพ่อเพชรที่อื่นๆ ว่า “หลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง”
    _______________________
    ข้อมูลจาก แผ่นป้ายแสดงประวัติหลวงพ่อเพชร ณ วิหารหลวงพ่อเพชร วัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี
    ชมข้อมูลวัดสวยๆทั่วประเทศไทยได้ที่ : www.papaiwat.com
    เหรียญหลวงพ่อเพชร หลังหลวงปู่เทพโลกอุดร วัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี เนื้อทองแดงรมดำ
    รายนามพระคณาจารย์นั่งแผ่เมตตาอธิษฐานจิตในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลหลวงพ่อเพชร วันที่ 20 พฤษภาคม 2538 เวลา 19:00น.
    -หลวงปู่จำเนียรถ้ำเขาพระยาจงอาง
    -หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล
    -หลวงปู่โง่น วัดพุทธบาทเขารวก
    -หลวงปู่ทองทิพย์ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร
    -หลวงปู่อ่อน วัดเนินมะเกลือ
    -หลวงปู่ขาว วัดป่าคูณคำวิปัสสนา
    -ครูบาลุ่น วัดศรีจันทราราม
    -พระอาจารย์เกียน วัดสว่างพัฒนา
    -หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    -หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    -หลวงพ่ออิฐ วัดจุฬามณี
    -หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
    -หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
    -หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    -เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร
    -หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
    -หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    -หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
    -หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดเม้าสุขา
    -หลวงปู่บุญตา วัดคลองเกตุ
    -
    เป็นต้นฯลฯและอีกหลายท่านร่วมปลุกเสก
    สายหลวงพ่อใหญ่(หลวงปู่เทพโลกอุดร)นั่งเข้าญาณสมาบัติ 7รูป
    พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อเพชรวัดแจ้งหลังหลวงปู่เทพโลกอุดรกะไหล่ทองเลี่ยมพลาสติกใส พิธีใหญ่ศิษย์ สายหลวงปู่เทพโลกอุดร ถึง ๗รูปมาร่วมปลุกเสกอธิษฐานจิต
    เหรียญรุ่นนี้สร้างสมัยหลวงปู่ทัศน์ เป็นเจ้าอาวาส ผมเคยไปกราบท่าน ท่านมั่นใจในวัตถุมงคล ของท่าน ให้ แขวนเดี่ยว จะได้รู้ ว่าดียังไง

    ให้บูชา 270 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250428_204802.jpg IMG_20250428_204842.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...